Quantcast
Channel: รถใหม่ 2025-2026 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์
Viewing all 8786 articles
Browse latest View live

รีวิว Honda CB150R ขี่ในเมือง สนุกมันส์ ฟีลลิ่งเหมือนขี่ตัวใหญ่ แต่น้ำหนักเบาคล่องตัวในแบบรถเล็ก

$
0
0

รีวิว Honda CB150R ขี่ในเมือง สนุกมันส์ ฟีลลิ่งเหมือนขี่ตัวใหญ่ แต่น้ำหนักเบาคล่องตัวในแบบรถเล็ก

Honda-CB150R-Review_083

ทางค่ายปีกนก Honda ผู้นำรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ได้จัดเซอร์ไพรส์ เปิดตัวรถ Honda CB150R ครั้งแรกในโลก กับรถสไตล์ Modern cafe ที่ได้รับกระแสนิยมในตลาดยุคปัจจุบัน ซึ่งการมาของ Honda CB150R ExMotion นี้ เรียกได้ว่าสร้างกระแสฮือฮาไม่น้อย เนื่องจากการจัดเต็มในเรื่องของออปชั่นตัวรถทั้งหมด ที่เกินหน้าเกินตารถในคลาสเดียวกัน ไปจนถึงรุ่นพี่ BigBike ในระดับ 650cc เลยทีเดียว

Pon-Red-CB150R_4

และก่อนหน้านี้ทางทีมงาน 9carthai เราได้ทดสอบเจ้า Honda CB150R รถสไตล์ Modern Cafe จากค่ายปีกนก แบบ 1st impression ในสนามทดสอบกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (อ่านได้ที่นี่)  ในวันนี้เราได้มีโอกาสมาทดสอบเต็มอีกครั้งกับการทดสอบแบบใช้งานในเมือง ที่ไม่ต้องเน้นความเร็วสูงกันบ้าง Honda CB150R โมเดิร์นคาเฟ่ ออปชั่นเต็มคันนี้ จะเป็นเช่นไรมาติดตามกันครับ

เริ่มกันที่รูปลักษณ์

Honda-CB150R-Review_072

CB150R ให้ไฟหน้ากลมแบบ Full LED ตามสไตล์รถโมเดิร์คาเฟ่ สมัยใหม่ หล่ออย่างมีสไตล์

Honda-CB150R-Review_053

ตัวไฟท้าย รวมถึงไฟเลี้ยวให้มาเป็นแบบ LED ไม่น้อยหน้าใคร

Honda-CB150R-Review_065

ถังน้ำมันโชว์ดีไซน์ เด่นแบบมัดกล้ามเนื้อ Muscular Design

Honda-CB150R-Review_047

ดีไซน์ท่อไอเสียออกใต้ท้องสั้น สุดเท่ ในแบบรถสปอร์ตยุคสมัยนี้ ซึ่งช่วยในเรื่องจุดศูนย์ถ่วงที่ดีอีกด้วย

Honda-CB150R-Review_061

แผงหม้อน้ำขนาดกระทัดรัดดูสวยงามคล้าย Oil Cooler

Honda-CB150R-Review_049

ตัวสวิงอาร์มเป็นแบบ Light Weight ช่วยลดน้ำหนักตัวรถให้เบาลงไปอีก

Honda-CB150R-Review_054

มาตรวัดดิจิตอล Full LCD Backlight บอกข้อมูลครบถ้วน โดยความเร็วเป็นตัวเลข, รอบเครื่องเป็นสเกลวิ่งทางด้านบน มี Redline@10,500rpm, มีเลขบอกตำแหน่งเกียร์, เกจ์น้ำมัน, นาฬิกา, ไฟ Shift Light เตือนการเปลี่ยนเกียร์

Honda-CB150R-Review_034

สำหรับมิติตัวรถนั้น
มีความกว้างxยาวxสูง = 822 x 1,973 x 1,053 มม.
ระยะฐานล้อ 1,296 มม.
ความสูงเบาะ 795 มม.
มี นน.ตัว 125 กก. (Net)

ความจุถังน้ำมัน 8.5 ลิตร

Honda-CB150R-Review_012

ท่านั่งในการขี่ใช้งานในเมือง

ตำแหน่งแฮนด์บาร์ มีขนาดความกว้างเล็กน้อย เหมาะสมกำลังดี ข้อศอกหย่อนพอประมาณ ท่ากำลังดูสบายไม่เมื่อย

Honda-CB150R-Review_014

ขณะที่ความสูงเบาะ 795 มม. ถือได้ว่าเป็นความสูงในระดับรถ Modern Cafe ทั่วๆไป ซึ่งตัวผู้ขี่เองมีความสูง 174 ซม. เหยียบได้เต็มเท้าสบายๆ

Honda-CB150R-Review_004

การขี่ใช้งานในเมืองนัั้นทำได้ดี การขี่ลัดเลาะในจังหวะที่มีช่องพร้อมแซง สามารถพลิกรถและไปตามช่องทางได้อย่างคล่องแคล่ว จากน้ำหนักที่เบา และขนาดช่วงลำตัวทรถที่ไม่ใหญ่จนเกินไป แต่เมื่อเข้าสู่พื้นที่ที่จราจรติดขัดแบบไม่ขยับ ด้วยตัวรถที่ช่วงแฮนด์บาร์ อยู่ในระดับเดียวกับกระจกรถยนต์  รวมถึงช่วงแฮนด์ที่ดูกางยาวเล็กน้อย บวกกับตุ้มปลายแฮนด์ที่ค่อนข้างยาว ทำให้การมุดการจราจร อาจลำบากเนื่องจากตัวแฮนด์อยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์ทั่วไป

Honda-CB150R-Review_046

ขุมพลังเครื่องยนต์ สูบเดี่ยว ความจุ 150cc DOHC 4 วาล์ว มาพร้อมหม้อน้ำ

ให้กำลังในการตอบสนองช่วงต้นเรียกได้ว่าจี๊ดจ๊าดไม่น้อยหน้ารถคันใดเมื่อต้องออกตัวไฟแดง แรงบิดรีดออกมาแบบทันไม้ทันมือตั้งแต่รอบต่ำสำหรับการเร่งแซง เรียกได้ว่าพละกำลังมีเพียงพอเหลือเฟือกับการขี่ใช้งานในเมือง อัตราเร่งในย่านเครื่อง ต้น-กลาง แรงบิดดีติดมือ จัดจ้านขี่สนุก ขณะที่ช่วงรอบปลายนั้นเรียกได้ว่าแม้จะไม่หวือหวา แต่ก็มาเรื่อยๆ ช่วงเกียร์ 6 ความเร็วปลายจากที่เราได้เคยทดสอบไปก่อนหน้านี้ มีเกือบทะลุ 140 กม./ชม.  สำหรับการใช้งานใน กทม. ช่วงวิ่งทางยาวๆ ลงสะพานสามารถทำความเร็วได้ถึงระดับ 130 กม./ชม. ได้อย่างไม่ยากเย็น เรียกได้ว่ายังมีไหลเรื่อยๆ ถ้ามีทางยาวพอ

Honda-CB150R-Review_066

*สำหรับค่าอัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานจริง จะอยู่ที่ราว 35 กม./ลิตร ซึ่งเทียบกับถังน้ำมันขนาด 8.5 ลิตร นั่นทำให้การขี่เดินทางไกลทำได้ราวๆ 300 กม. เลยทีเดียว

Honda-CB150R-Review_107

 สำหรับออปชั่นในด้านการควบคุมตัวรถนั้น เรียกได้ว่าจัดเต็ม เกินหน้าเกินตา Bigbike 650cc ของค่ายเลยทีเดียว เพราะออปชั่น CB150R นี้ ยกออปชั่นในระดับเดียวกับ Honda X-ADV

Honda-CB150R-Review_064

เริ่มที่โช้คอัพหน้า UpSideDown ขนาด 41 ม.ม.  จาก Showa ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานดีเยี่ยม ทั้งในส่วนของการซับแรง และการยึดเกาะ หน้าไม่ดีด แน่นเฟิร์มมั่นใจได้ เมื่อต้องเจอลูกระนาด หรือ พื้นผิวที่ขรุขระ

Honda-CB150R-Review_067

ตัวโช้กหลัง Monoshock นิ่มพอประมาณ ไม่ถึงกับย้วย กำลังนั่งสบาย สำหรับรถสไตล์ Modern cafe

Honda-CB150R-Review_062

จานเบรกหน้า Floating Disc ขนาด 296 มม. ปั๊มเบรกหน้า Radial Mount 4 ลูกสูบ จาก Nissin (ปั๊มเบรกแบบเดียวกับ X-ADV) โดยระบบเบรกแม้จะเป็นจานดิสก์เดี่ยว แต่ตัวแม่ปั๊มถือว่าให้มา เกินหน้าเกินตารุ่นพี่ระดับ CB500F กันเลย น้ำหนักเบรกหนักแน่นดีมั่นใจเต็มเปี่ยม และไม่ต้องพะวงเรื่องเบรกกระทันหัน เพราะ ในรุ่น ABS คันนี้ ยกระบบ G- Sensor  ระดับ Superbike CBR1000RR มากันเลย ต่อให้เบรกกระทันหัน หรือเบรกหนังบนพื้นลื่นเวลาฝนตก ก็ไม่มีพลิกคว่ำ ท้ายไม่ยกปลอดภัย

Honda-CB150R-Review_051

นอกจากนี้ตัวยางหลังที่สวมใส่ขนาด 150/60/R17  ถือได้ว่าไม่มีคันใดในคลาส 150cc ที่ให้ยางหลังหน้ากว้างขนาดนี้แล้ว ช่วยให้ดูสวยงาม เมื่อมองจากบั้นท้ายดูแน่นเต็ม รวมไปถึงการยึดเกาะในทางโค้งมีพื้นที่ Grip ในการเข้าโค้งที่มากกว่ารถพิกัด 150cc คันอื่นอีกด้วย

Honda-CB150R-Review_088

โดยรวมแล้วการขี่ควบคุมตัวรถ CB150R นั้น ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม ขอบคุณน้ำหนักตัวรถ ที่เบาแสนเบา แม้จะอัดออปชั่นขนาดรถใหญ่มาถึงเพียงนี้ มันจึงพลิ้ว คล่องตัวเมื่อขี่ในโค้งยิ่งสนุก เพราะควบคุมได้ง่าย องศาแฮนด์ในระดับที่พอเหมาะออกเตี้ยนิดๆ ช่วยให้การหักแฮนด์ในจังหวะเลี้ยวทำได้ดียิ่งขึ้น

Honda-CB150R-Review_077

สรุป รีวิว Honda CB150R หลังจากที่ได้ทดลองขี่กันแบบเต็มๆ ทั้งในสนามและถนน เราพบว่ามันเป็นรถสไตล์ Modern cafe ในพิกัด 150cc ที่ขี่สนุก มากที่สุด มีจุดเด่นในเรื่องของการควบคุมที่ดี และเบา ออปชั่นจัดเต็มทำให้เรารู้สึกเหมือนขี่รถใหญ่ ในร่างรถเล็ก ที่มีรูปร่างหน้าตาเทียบเท่ารถใหญ่ และหล่อเหลาะแถมทันสมัยด้วยเทคโนโลยีต่างๆ

Honda-CB150R-Review_102

ออปชั่นที่จัดเต็มขนาดนี้ หากเทียบกับราคาแล้วก็ต้องถือว่าไม่แพงแล้วล่ะ อยากได้รถสเป็กออปชั่นสูง แบบจบในคันเดียวไม่ต้องอัพเกรด ทั้งรูปลักษณ์ และสมรรถนะ

Honda CB150R ABS คันนี้ล่ะครับ ที่จบสุดแล้วในคลาส 150cc ในประเทศ ณ ขณะนี้

Honda-CB150R-Review_023

โดย Honda CB150R รุ่น STD เริ่มต้นที่ 99,800 บาท และเพิ่มเงินหนึ่งหมื่นบาท ในรุ่น ABS G-Sensor คันที่เราทดสอบนี้อยู่ที่ 109,800 บาท

Honda จัด โปรโมชั่นพิเศษสำหรับ Honda CB150R ในงาน Motor Expo 2017
– ดาวน์เพียง 4,980 บาท ออกรถได้เลย
– ผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,980 บาท/เดือน (48 เดือน)
– ราคาเงินสดเริ่มต้นที่ 99,800 บาท

สนใจจองรถสามารถสอบถามกับทีมงานฮอนด้าในงาน  Motor Expo 2017 ได้เลย หรือคลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่  www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondabigbikeTH

Honda-CB150R-Review_112

ขอขอบคุณ A.P.Honda สำหรับรถทดสอบ CB150R ในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
อำพล มูลทองสุข Photos

Honda-CB150R-Review_023 Honda-CB150R-Review_020 Honda-CB150R-Review_025 Honda-CB150R-Review_034 Honda-CB150R-Review_037 Honda-CB150R-Review_038 Honda-CB150R-Review_041 Honda-CB150R-Review_040 Honda-CB150R-Review_042 Honda-CB150R-Review_039 Honda-CB150R-Review_031 Honda-CB150R-Review_033 Honda-CB150R-Review_077 Honda-CB150R-Review_082 Honda-CB150R-Review_083 Honda-CB150R-Review_084 Honda-CB150R-Review_093 Honda-CB150R-Review_091 Honda-CB150R-Review_086 Honda-CB150R-Review_088 Honda-CB150R-Review_102 Honda-CB150R-Review_107 Honda-CB150R-Review_111 Honda-CB150R-Review_112 Honda-CB150R-Review_099 Honda-CB150R-Review_100 Honda-CB150R-Review_075 Honda-CB150R-Review_072 Honda-CB150R-Review_043 Honda-CB150R-Review_044 Honda-CB150R-Review_052 Honda-CB150R-Review_053 Honda-CB150R-Review_068 Honda-CB150R-Review_070 Honda-CB150R-Review_065 Honda-CB150R-Review_058 Honda-CB150R-Review_054 Honda-CB150R-Review_056 Honda-CB150R-Review_057 Honda-CB150R-Review_059 Honda-CB150R-Review_064 Honda-CB150R-Review_060 Honda-CB150R-Review_061 Honda-CB150R-Review_067 Honda-CB150R-Review_062 Honda-CB150R-Review_063 Honda-CB150R-Review_048 Honda-CB150R-Review_046 Honda-CB150R-Review_045 Honda-CB150R-Review_066 Honda-CB150R-Review_047 Honda-CB150R-Review_071 Honda-CB150R-Review_049 Honda-CB150R-Review_051 Honda-CB150R-Review_050 Honda-CB150R-Review_004 Honda-CB150R-Review_009 Honda-CB150R-Review_012 Honda-CB150R-Review_014 Honda-CB150R-Review_015

“อภิวัฒน์” เบิ้ลแชมป์โฮมเรซ “อนุภาพ” ฉลองโพเดี้ยมส่งท้าย เอเชีย โรด เรซซิ่ง

$
0
0

“อภิวัฒน์” เบิ้ลแชมป์โฮมเรซ “อนุภาพ” ฉลองโพเดี้ยมส่งท้าย เอเชีย โรด เรซซิ่ง

SS600-Race2 (4)_resize

“แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดาวบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม โชว์ฟอร์มระดับโลก บิดนำม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. 2 เรซติดต่อกัน ขณะ “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คว้าอันดับ 2 เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ฉลองโพเดี้ยมส่งท้ายศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยเรซที่ 2 ของรุ่นไฮไลต์อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. แข่งขันทั้งสิ้น 18 รอบสนาม

ผลการแข่งขันปรากฏว่า อภิวัฒน์ ที่ออกตัวจากโพลทะยานขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว ก่อนบิดนำม้วนเดียวจบเข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยเวลา 29 นาที 53.158 วินาที โดยนับเป็นการคว้าแชมป์โฮมเรซในรุ่น ซูเปอร์ปอร์ต 600 ซี.ซี. 2 เรซ ติดต่อกัน ทิ้งห่าง แอนโธนี เวสต์ อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวออสเตรเลียนจาก อาเคโนะ สปีด เรซซิ่ง อันดับ 2 ถึง 2.391 วินาที ทำเวลาได้ 29 นาที 53.158 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ อาซลัน ชาร์ อดีตนักบิดโมโตทูชาวมาเลเซียนจาก แมนวล เทค เควายที เรซซิ่ง ตามหลังแชมป์ 5.902 วินาที พร้อมกับคว้าแชมป์ประจำปีไปครองได้สำเร็จ

ส่วนนักบิดไทยอย่าง เฉลิมพล ผลไม้ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เข้าป้ายในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์ 6.385 วินาที ตามด้วย ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 5 ตามหลังแชมป์ 6.498 วินาที และ เดชา ไกรศาสตร์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 6 ตามหลังแชมป์ 15.868 วินาที ด้าน รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จบการแข่งขันอันดับ 11 ตามหลังแชมป์ 20.653 วินาที

โดยผลการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ซึ่งดวลความเร็วทั้งสิ้น 10 รอบสนาม ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ โทโมโยชิ โคยาม่า อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวญี่ปุ่นจาก รามา ฮอนด้า ด้วยเวลา 19 นาที 9.799 วินาที เฉือน อนุภาพ ซามูล ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม หน้าเส้นชัยเพียง 0.040 วินาที เท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เจอร์รี่ ซาลิม แชมป์ประจำปีชาวอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 7.733 วินาที

ด้าน พีระพงศ์ หลุยบุญเป็ง และ พีระพงศ์ บุญเลิศ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ไล่บี้กับกลุ่มกลางอย่างสุดมันส์ คว้าอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ ตามหลังแชมป์คนละ 8.577 วินาที และ 8.661 วินาที เฉียดการขึ้นโพเดี้ยมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ขณะที่ วรพงศ์ มาลาหวล จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ออกสตาร์ทจากกริดที่ 9 ทะยานขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 6 ขณะที่ มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวไทย มีลุ้นโพเดี้ยมตลอดการแข่งขัน ทว่าในรอบสุดท้ายโดนคู่แข่งเบียดในโค้งทำให้เสียจังหวะ ก่อนนำรถเข้าป้ายในอันดับ 8 เพียงพอที่จะคว้าแต้มส่งท้ายฤดูกาล 2017 สำหรับ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็นสนามปิดท้ายฤดูกาล และจัดงานฉลองแชมป์ประจำปีอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน

TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018 “เจ้าเสือสายลุย”

$
0
0

TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018 “เจ้าเสือสายลุย”

TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018

TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018

เครื่องยนต์ : เป็นแบบ 3 สูบ 12 วาล์ว DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 799 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก : 74.1 x 61.9 มม.

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ EFI พร้อมด้วยระบบ Rude-by-Wire ที่ช่วยคำนวณอัตราการสั่งจ่ายน้ำมัน

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : ไฮดรอลิคเป็นแบบเปียก

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : โซ่และสเตอร์

กำลังสูงสุด : 95 แรง ที่รอบ 9,250 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 79 นิวตัน-เมตร ที่ 7,850 รอบ/นาที

ระบบพิเศษ : TRIUMPH Tiger 800 XCA ยังมีระบบ (TTC) Triumph Traction Control ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ 3 แบบโดยนอกเหนือจากโหมดปกติแล้วยังมี Rain-Sport และ Off Road ในส่วนของระบบ Traction Control จะปรับอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมกับการขับขี่บนถนนและทางฝุ่น Cruiser Control จะเป็นโหมดควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยด้วยระบบ ABS

เฟรม : เป็นท่อเหล็กทรงกลมที่ให้ความแข็งแรงทนทาน

ไฟหน้า : เป็นแบบ 2 ดวง ขนาดใหญ่ดีไซน์เฉียบ

ไฟตัดหมอก : เป็นแบบ LED

ไฟท้าย : ทับทิมแดงทรงเหลี่ยม

แผ่นบังลม : แบบใสปรับองศาได้ด้วยระบบมือหมุน

เรือนไมล์ : ดิจิตอลแบบ LED ที่แสดงผลแบบคอมพิวเตอร์ออนบอร์ด มีทั้งค่าความเร็ว ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิระดับเกียร์

แฮนด์ : เป็นแบบกริ๊ปอุ่นมือ พร้อมการ์แฮนด์

เบาะนั่ง : เป็นแบบ แบ่ง 2 ระดับ สไตล์ทัวร์ริ่ง (สามารถปรับความสูงได้)

ใต้เบาะ : มีช่องเสียบเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาขนาด 12 V และช่องเสียบ USB 5 V

ท่อไอเสีย : ออกแบบสวยงามเข้ากันกับตัวรถ

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 865/2,215/1,390-1,400 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง : 845 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ : 1,545 มม.
– ความจุถังน้ำมัน 19 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถ 203 กิโลกรัม

วงล้อ/ยาง
– ด้านหน้า เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว สวมยางไซส์ 90/90-21 นิ้ว
– ด้านหลัง เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว สวมยางไซส์ 150/70-17 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน (ถูกออกแบบมาให้รองรับได้ทั้งการขับขี่แบบแบบลุย)
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับแบบเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 45 มม. ของ WP ปรับตั้งค่าได้ ระยะการทำงาน 220 มม.
– ด้านหลัง แบบเดี่ยว ของ WP เช่นกัน ปรับตั้งค่าความหนืดได้ ระยะการทำงาน 215 มม.

ระบบเบรค
– ด้านหน้า จานเบรกหน้าแบบคู่ ขนาด 308 มม. คาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ
– ด้านหลัง จานเบรคเดี่ยวขนาด 255 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ มีระบบ ABS (ที่สามารถเลือกเปิด/ปิดได้)

TRIUMPH เป็นค่ายรถที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกแบบให้ตรงใจผู้ใช้งาน และผลิตออกมาให้ผู้ที่ชืนชอบการเดินทางท่อเที่ยวสไตล์ Adventure พร้อมกับลุยได้ทุกเส้นทาง แต่ถ้าหากไม่ต้องการรถที่มีขนาดใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้ไม่คล่องตัว ก็ยังมีตัวเลือกขนาดกลางอย่าง TRIUMPH Tiger 800 XCR ออกมาให้เลือกใช้งานขับขี่

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.totalmotorcycle.com และ www.zigwheels.com

1234958761011

HUSQVARNA FE 350 2018 “ม้าศึกชั้นยอดในสายทางฝุ่น”

$
0
0

HUSQVARNA FE 350 2018 “ม้าศึกชั้นยอดในสายทางฝุ่น”
HUSQVARNA FE 350 2018
HUSQVARNA FE 350 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ สูบเดียว

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ขนาดความจุ : 349.7 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก : 88 X 57.5 มม.

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ DFI

เรือนลิ้นเร่งขนาด : 44 มม.

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบเปียก Wet Multi-Disc Clutch DDS สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

เฟรม : โครงสร้างของเฟรมถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านหน้าจะเป็นท่อเหล็กทำจากวัสดุผสมที่ให้ความแข็งแรงทนทานแต่น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิมและทนต่อแรงกระแทกได้อย่างเี ส่วนซับเฟรมท้ายรถจะเป็นการขึ้นรูปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบาและเหนียวพอที่จะรับแรงกระแทกเวลาขับขี่

ไฟหน้า : ดวงเดียวที่ใช้ส่องสว่างในการขับขี่ในที่มืด

เรือนไมล์ : เป็นแบบดิจิตอล เอาไว้บอกสถานะ รอบเครื่องยนต์ ความเร็ว ตำแหน่งของเกียร์ และสัญญาณไฟต่างๆ

เบาะนั่ง : ทรงบางได้เน้นความนิ่มสบายเพราะส่วนใหญ่จะยืนขี่

พักเท้า : เป็นแบบหนามแหลมช่วยยึดเกาะเวลาขับขี่

ท่อไอเสีย : เป็นแบบ 1:1 ปลายท่อเก็บเสียง

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท
– การ์ดแกนช็อคอับหน้าซ้าย/ขวา
– บังโคลนหน้า
– หน้ากากไฟหน้า
– การ์ดแฮนด์ซ้าย/ขวา
– ปีกหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– การ์ดรังผึ้งซ้าย/ขวา
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้างซ้าย/ขวา
– บังโคลนหลัง
– ชุดประกอบไฟท้ายและป้ายทะเบียน
– แผ่นกันกระแทกใต้ทองเครื่องยนต์
– การ์ดสเตอร์หน้า
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง

มิติตัวรถ
– ระยะห่างฐานล้อ 1,490 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 370 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 970 มม.
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 8.5 ลิตร
– น้ำหนักรวม 109.3 กิโลกรัม

วงล้อ/ยาง
– ล้อหน้า เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 1.60X21 สวมยาง 80/90-21
– ล้อหลัง เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 2.15X18 สวมยาง 110/80-18

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับจาก WP ขนาด 48 มม. ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์โครเมี่ยม ระยะการทำงาน 300 มม. การปรับตั้งมาแบบเต็มรูปแบบ
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยวที่มาพร้อมกับซับแท้งค์จาก WP  ระยะการยุบตัว 330 มม. ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มเป็นอะลูมิเนียมแขนคู่

ระบบเบรก
– ด้านหน้า จานเบรกหน้าเป็นแบบเดี่ยว ขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ จาก MAGURA
– ด้านหลัง จานเบรกหน้าเป็นแบบเดี่ยว ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ จาก MAGURA

ถ้าเราคิดว่า FERRARI คือม้าเหล็กชั้นดีในเซอร์กิตแบบทางเรียบ HUSQVARNA ก็คงเป็นม้าศึกชั้นยอดในสายทางฝุ่น เพราะทุกชิ้นส่วนที่เอามาประกอบขึ้นเป็นรถ ดูเหมือนว่าจะเน้นแต่ของเด็ดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้เห็น HUSQVARNA ในการแข่งขันมานัก แต่ถ้าได้ถามนักขี่จริงๆ ว่างชอบ HUSQVARNA บ้างไหม เชื่อว่าใน 100 คน ต้องมี 80 คน ที่ตอบกลับมาว่า นี่คือรถชั้นเลิศที่น่าเก็บสะสมมากที่สุด

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ocktm.com และ www.totalmotorcycle.com

1234567

“FIT Auto” จับมือเว็บฯ ช็อปปิ้งชื่อดัง โหมตลาดอี-คอมเมิร์ซ นำร่องเพิ่มช่องทางการบริการรูปแบบใหม่ รายแรกในประเทศไทย

$
0
0

“FIT Auto” จับมือเว็บฯ ช็อปปิ้งชื่อดัง โหมตลาดอี-คอมเมิร์ซ นำร่องเพิ่มช่องทางการบริการรูปแบบใหม่ รายแรกในประเทศไทย

fit auto

FIT Auto ศูนย์บริการยานยนต์ รุกธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ จับมือเว็บไซต์ช็อปปิ้งชื่อดัง LAZADA ยกระดับเพิ่มช่องทางการบริการรูปแบบใหม่ขึ้นเป็นรายแรกในประเทศไทย มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในทุกมิติ พร้อมนำผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ มาเปิดให้คนรักยานยนต์สั่งซื้อพร้อมนัดหมายเข้ารับบริการได้ง่ายดายในคลิกเดียว ประเดิมให้บริการ 16 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

จากข้อมูลสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ (สพธอ.) ระบุว่า ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ประเทศไทยในปี 2560 จะมีมูลค่า 2.52 ล้านล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 12.4% จากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลและบทบาทต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมปัจจุบันอย่างมาก โดยเฉพาะการจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางออนไลน์

นายบุรณิน รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากเทรนด์ที่เปลี่ยนไปนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการเสริมความแข็งแกร่งผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ และเป็นการอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งตลาดอี-คอมเมิร์ซของประเทศไทยในปัจจุบันเติบโตอย่างรวดเร็ว ลาซาด้า (LAZADA) คืออีกหนึ่งแพลตฟอร์มอันยอดเยี่ยมที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งในเมืองใหญ่และต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพด้วยราคาที่เหมาะสม

“โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มยานยนต์ใน LAZADA เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากผู้ขายและจำนวนจัดเก็บสินค้าคงคลัง (Stock Keeping Unit : SKU) ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและสินค้ามีความหลากหลาย ทำให้ธุรกิจหล่อลื่นต้องปรับตัวและสามารถนำผลิตภัณฑ์หล่อลื่นเข้าไปจำหน่ายได้ โดยใช้ศูนย์บริการยานยนต์ “FIT Auto” ที่เป็นจุดให้บริการด้านดูแลซ่อมบำรุงรถยนต์ เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายดายยิ่งขึ้นภายใต้ชื่อร้าน “FIT Auto by PTT Lubricants” ซึ่งมีสินค้าไม่ใช่เพียงแค่น้ำมันหล่อลื่นเท่านั้น แต่ยังมียางรถยนต์, หัวเทียน และอื่นๆ โดยสามารถสร้างยอดขายภายใน 10 เดือน อยู่ที่กว่า 5,000,000 บาท”

นายบุรณิน รัตนสมบัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการเติบโตทั้งของกลุ่มยานยนต์และร้าน FIT Auto บน LAZADA นั้น ทำให้ทั้ง FIT Auto และ LAZADA ร่วมมือกันพัฒนาช่องทางการบริการรูปแบบใหม่ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรักยานยนต์คนรุ่นใหม่ในทุกมิติ โดยร่วมกันพัฒนาธุรกิจภายใต้ชื่อ “Service Booking Module (SBM)” หรือ “การซื้อสินค้าพร้อมบริการติดตั้ง” นับเป็นเจ้าแรกในการทดลองระบบ ซึ่งระบบ “SBM” ดังกล่าว เปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมี FIT Auto เข้าร่วมทั้งสิ้น 16 สาขา ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนมีแผนขยายให้ครบทุกสาขาในต้นปี 2561”

สำหรับการยกระดับการเพิ่มช่องทางการบริการรูปแบบใหม่นี้ ทั้ง LAZADA และ FIT Auto ได้ให้ความร่วมมือทางด้านการตลาด เช่น การสนับสนุนการสร้างร้านค้า (Shop in Shop) การพัฒนารูปแบบ Content ของสินค้า เพื่อให้เพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการเลือกซื้อ หรือการร่วมกันจัดโปรโมชั่นต่างๆ

ขณะที่ระบบ “Service Booking Module : SBM” นั้น เป็นรูปแบบของการจองงานบริการ โดยให้ร้านค้าหรือเจ้าของเซอร์วิสสามารถจัดการตารางนัดหมาย ติดตาม และตรวจสอบบริการของลูกค้าได้ล่วงหน้า โดยมีขั้นตอนการดำเนินการคร่าวๆ คือ

1.ลูกค้าเข้ามาที่ร้าน www.lazada.co.th/fitauto

2.เลือกซื้อสินค้า (หล่อลื่นและยาง) ตาม location ที่อยู่ใกล้เคียงลูกค้า

3.ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าในร้านและชำระเงิน ผ่านบัตรเครดิต

4.เจ้าหน้าที่จาก FIT Auto จะได้รับ order ซึ่งมีรายละเอียด และทางร้านค้าจะติดต่อลูกค้ากลับไปภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากวันทำการ

5.ลูกค้าเลือกวันและเวลา โดยสามารถเลือกวันเข้ารับบริการได้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ลูกค้าชำระเงิน และสามารถ Reschedule ได้ไม่เกิน 5 ครั้ง และต้องก่อน 24 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับบริการ

6.เจ้าหน้าที่จาก FIT Auto ทำการ Booking วันและเวลาในโปรแกรม “SBM”

7.ลูกค้าจะได้รับ “SMS” แจ้งเตือนจากทาง LAZADA ให้ทราบรายละเอียดการจอง

8.เมื่อถึงวันที่นัดหมาย ลูกค้าแสดงตนพร้อมเลข Order โดยสาขา “FIT Auto” จะเห็นตารางนัดหมายนี้เช่นเดียวกัน และจะมีรายละเอียดข้อมูลติดต่อลูกค้าและงานบริการอยู่

9.เมื่อให้บริการเสร็จ ลูกค้าจะได้รับ “SMS” แจ้งเตือนเพื่อให้คะแนน Review ร้านค้า

ทั้งนี้ ระบบ “SBM” ของ LAZADA จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในลำดับต่อไปในปี 2018 จะมีการ Integrate การจองให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการจองได้อย่างสมบูรณ์ คือสามารถเลือกวัน, เวลา, สาขา ได้อย่างสะดวกสบายและง่ายๆ ทั้งนี้ ลดขั้นตอนการเชื่อมต่อถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่และลูกค้า เพื่อมอบความสะดวกสบายในการจัดการ Booking (การจอง) และแก้ไข Booking ได้ด้วยตนเอง รวมทั้งระบบการแจ้งเตือนต่างๆ” นายบุรณิน รัตนสมบัติ กล่าวในท้ายสุด

ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมร้านค้า และเข้ารับบริการรูปแบบใหม่ของ Fit Auto บนเว็บไซต์ลาซาด้าได้ที่ https://www.lazada.co.th/bosch-official-store-automotive/

“ทีมแข่ง บีอาร์จี เอ็มเอ็มเอสฯ” พร้อมบู๊สนามปิดท้ายฤดูกาล ลุ้นคะแนนเก็บที่ 5 ประจำปี

$
0
0

“ทีมแข่ง บีอาร์จี เอ็มเอ็มเอสฯ” พร้อมบู๊สนามปิดท้ายฤดูกาล ลุ้นคะแนนเก็บที่ 5 ประจำปี

BRG-MMS

ทีมแข่ง “บีอาร์จี เอ็มเอ็มเอส บ็อช คาร์ เซอร์วิส บาย คาร์ซาโนวา” ถอดบทเรียนทุกสนามปรับเกมรุก เติมเต็มความดุดัน พร้อมบู๊ขึ้นโพเดียมปิดท้ายฤดูกาล สนามกีฬาสมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 9-10 ธันวาคม ยันมีลุ้นคว้าคะแนนสะสมที่ 5 ประจำปี

นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร บีอาร์จีกรุ๊ป ผู้จำหน่ายรถยนต์นำเข้าระดับชั้นแนวหน้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เปิดเผยถึงความพร้อมทีมแข่ง บีอาร์จี เอ็มเอ็มเอส บ็อช บาย คาร์ซาโนวา เรซซิ่ง ในการแข่งขันสนามสุดท้ายประจำปี 2017 ที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า “ทีมแข่งของเราเต็มที่ 100% ทั้งนักแข่ง รถแข่ง และทีมเซอร์วิส โดยสนามนี้ นักแข่ง แอมป์ “ปรม พวงงาม” ได้ปรับเกมการขับใหม่ เพิ่มความมุ่งมั่นและดุดัน โดยถอดบทเรียนของทุกสนามที่ผ่านมา ปรับมาตรฐานทีมเซอร์วิสให้สอดรับกับสนามเฉพาะกิจ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างและยาง พร้อมทั้งเพิ่มเวลาการฝึกซ้อม ทำให้มั่นใจว่าการแข่งขันในสนามนี้น่าจะทำผลงานได้ตามเป้า มีตำแหน่งบนโพเดียมลุ้นคะแนนสะสมประจำปีลำดับที่ 5

ในส่วนของพันธมิตรเรายังคงให้การสนับสนุนอย่างเหนี่ยวแน่ ทั้ง เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส ศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์หลังหมดอายุรับประกัน, ริเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันอุทกภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม, เรือยอชต์หรูแครนชี่ จากประเทศอิตาลี, ฟิล์มกรองแสงรถยนต์-อาคาร “ลามิน่า”, ยางรถยนต์คอนติเนนทอล, รายการ Hotline Thailand และ www.carzanova.com เว็บไซต์วาไรตี้เรื่องยานยนต์ และน้ำมันเครื่อง Moty’s”

ด้านนายสุดเขต จันทร์เฉลี่ย ผู้จัดการทั่วไป MMS-Bosch Car Service ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร กล่าวเสริมว่า “ในส่วนของรถแข่ง สนามนี้เราได้เตรียมความพร้อมให้เต็มที่ โดยหลังจากจบการแข่งขันสนาม 4 ที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวังบุรีรัมย์ ซึ่งรถแข่งของเราได้รับความเสียหายพอสมควร เราจึงได้นำรถแข่งเข้ามาที่ศูนย์บริการ MMS-Bosch Car Service เพื่อซ่อมแซม วิเคราะห์ และตรวจเช็ค ทำให้รถแข่งกลับมามีสภาพสมบูรณ์ 100% เตรียมพร้อมสู้ศึกปิดท้ายฤดูกาลที่เชียงใหม่

ซึ่งเราคาดว่าด้วยความพร้อมของรถแข่ง และความมุ่งมั่นของนักแข่งจะทำให้เราสามารถขึ้นโพเดียม และคว้าคะแนนสะสมที่ 5 ประจำปีมาได้สำเร็จ”

ขณะที่ด้านนักแข่งทีมทีมบีอาร์จี เอ็มเอ็มเอสฯ “แอมป์” ปรม พวงงาม บรรณาธิการบริหาร เว็บไซต์ Carzanova.com ซึ่งลงแข่งในรุ่นอัลติส วันเมคเรซ รถหมายเลข 54 กล่าวว่า “สำหรับสนามนี้ เป็นสนามปิดท้ายฤดูกาล ถือว่าท้าทายมากครับ ตัวสนามค่อนข้างมีความเร็วสูง รวมถึงมีจุดอันตรายที่มาก ซึ่งตัวผมเองจะพยายามเค้นฟอร์มเก่งออกมาให้มากที่สุด หลังจากสนามที่แล้วพลาดท่าถูกกระแทกในรอบแรกช่วงโค้งความเร็วสูง ทำให้รถหลุดออกนอกแทรค เสียหายไปหลายตำแหน่ง ซึ่งจากบทเรียนครั้งนั้น ผมได้นำกลับมาทบทวนว่าเราต้องมีความดุดันในการขับมากกว่านี้ บางจังหวะต้องกล้าได้กล้าเสีย ที่ผ่านมาผมอาจจะบู๊น้อยไปนิด แต่สนามนี้เต็มที่ครับ อยากได้ถ้วยรางวัลติดไม้ติดมือ เป็นการขอบคุณและถือเป็นของขวัญก่อนปีใหม่ให้กับผู้สนับสนุนทุกราย ขอบคุณครับ”

อย่างงาม! Nissan จัดเต็มพร้อมเปิดตัวรถแบบ “GT-R”ในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วมาทุกรุ่นทั้งครอบครัว!!!

$
0
0

อย่างงาม! Nissan จัดเต็มพร้อมเปิดตัวรถแบบ “GT-R” ในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วมาทุกรุ่นทั้งครอบครัว!!!
nissan-gt-r-2018
Nissan แบรนด์รถชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่นนั้นล่าสุดได้ทำการเปิดตัวราคาขายของรถแบบ “Nissan GT-R 2018” แบบยกครัว (ทุกรุ่น) ของพวกเขาออกมาแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 99,900 ดอลล่าร์สหรัฐ (โดยราคานี้ยังไม่รวมราคาค่าขนส่งและค่าบริการอื่นๆ) ซึ่งจะมีราคาอีกประมาณ 1,695 ดอลล่าร์สหรัฐโดยประมาณ

ต่อมาเป็นชุดแต่งรถราคาเกินกว่า 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐดังกล่าวนั้นจะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่ารถแบบ “PURE” โดยเปิดตัวออกมาเป็นชุดแต่งระดับพรีเมียมของพวกเขา เพิ่มราคามากกว่ารุ่นธรรมดามาตรฐานประมาณ 10,500 ดอลล่าร์สหรัฐโดยประมาณ มาพร้อมกับท่อไอเสียแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบทำด้วยวัสดุอย่างไทเทเนียม, ระบบเครื่องเสียงจากทางแบรนด์อย่าง Bose, ระบบกันเสียงแบบ Active Noise Cancellation และระบบเครื่องเสียงแบบ Active Sound Enhancement

สำหรับรถ Nissan GT-R ในรุ่นแบบ “2018MY” นั้นจะมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบ Apple Carplay (เชื่อมต่อภายในตัวรถ), ระบบ NissanConnect ทำการเชื่อมต่อภายในเต็มรูปแบบ, ระบบนำทางแบบ Navigation และปิดท้ายด้วยการตกแต่งภายในแบบหรูหราอย่างโทนสีแบบ Premium Interior Package

ในส่วนของชุดแต่งแบบ “Nissan GT-R Track Edition” นั้นจะเริ่มต้นที่ราคาขายทั้งสิ้น 128,490 ดอลล่าร์สหรัฐด้วยกัน โดยมาพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ แบบ Nismo Concept ให้กำลังขับเคลื่อนทั้งสิ้น 565 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดทั้งสิ้น 467 ปอนด์/ฟุต (633 Nm.) โดยประมาณ ซึ่งแรงมากกว่าเดิมเพราะมันเป็นรถแบบแข่ง (Track Edition)

ปิดท้ายด้วยรุ่นสูงสุดอย่าง Nissan GT-R Nismo ที่จะเปิดตัวออกมาในจำนวนจำกัดในประเทศสหรัฐอเมริกาและอเมริกาเหนือ (North America) โดยมีราคาเริ่มต้น 175,000 ดอลล่าร์สหรัฐ พร้อมเครื่องยนต์ 3.8 ลิตรแบบเบนซินเทอร์โบ ให้กำลังทั้งสิ้น 600 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 481 ปอนด์/ฟุต (652 Nm.)

12345678910

Jeep ยืนยันรถแบบ Wrangler 2018 รุ่นใหม่เปิดตัวแล้วในงาน LA Auto Show

$
0
0

Jeep ยืนยันรถแบบ Wrangler 2018 รุ่นใหม่เปิดตัวแล้วในงาน LA Auto Show
Jeep-Wrangler-EPA-Rating
ล่าสุดรถรุ่นใหญ่อย่าง Jeep Wrangler 2018 นั้นได้เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วภายในงานใหญ่อย่าง Los Angeles Auto Show และได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่าง Environmental Protection Agency (EPA) ว่าเครื่องยนต์แบบ V6 Model รุ่นใหม่ของพวกเขานั้นปลอดภัย

โดยทีมงานตรวจสอบวัดของ EPA นั้นเผยว่ารถแบบ “Jeep Wrangler Unlimited V6 2018” นั้นมีอัตราการประหยัดอยู่ที่ 17 Mpg ในเมือง, 23 Mpg บนทางด่วน และ 19 Mpg. ในอัตราธรรมดา มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีดเต็มรูปแบบอัดแน่นไปด้วยอัตราการเร่งพลังงาน

รถแบบ new-generation Wrangler รุ่นใหม่ล่าสุดของทีมงาน Jeep นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบอื่นๆด้วย เช่น เครื่องยนต์ แบบ V6-powered Wrangler Unlimited (รุ่นพิเศษ) พร้อมกับประตูรถเป็นแบบ 2 ประตูเท่านั้น อีกทั้งในส่วนของการเปิดตัวในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะทำมาในจำนวนจำกัดอีก

นอกเหนือไปกว่านั้นพวกเขายังปิดท้ายด้วยระบบเครื่องยนต์แบบเทอร์โบชาร์จ (Turbocharged) เต็มรูปแบบ 4 สูบ ให้กำลังเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม และช่วยประหยัดการใช้พลังงานมากขึ้นกว่าเดิม

1
2


ลาก่อน! Land Rover ยืนยันรถแบบ Evoque เวอร์ชั่น 3 ประตูในอเมริกาไปไม่รอด ….

$
0
0

ลาก่อน! Land Rover ยืนยันรถแบบ Evoque เวอร์ชั่น 3 ประตูในอเมริกาไปไม่รอด ….
Range-Rover-Evoque-Coupe
Land Rover ค่ายรถขนาดใหญ่ชื่อดังก้องโลกนั้นล่าสุดได้ทำการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่ารถแบบ “Range Rover Evoque” ขนาด 3 ประตูของพวกเขานั้นจะยกเลิกการขายแน่นอนแล้วในประเทศสหรับอเมริกาในเวอร์ชั่นแบบ 3 ประตู (Tree Door Version)

สำหรับสื่อชื่อดังที่รายงานเรื่องนี้นั้น ได้แก่ ทีมงานอย่าง Motor Authority จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพวกเขายืนยันว่าค่ายรถชื่อดังจากสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ) รายนี้นั้นมองว่ามันไม่คุ้มทุนสำหรับการขายต่อไปในเวอร์ชั่น 3 ประตู จึงพร้อมยืนยันว่าจะยกเลิกการขายในประเทศสหรัฐอเมริกาแน่นอนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามรถแบบเวอร์ชั่น 3 ประตูนั้นยังคงจำหน่ายในทั่วโลกต่อไป

โดยในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นทีมงานของ Land Rover กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาและเตรียมเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ของรถแบบ SUV ในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2018 ไปจนถึงปี 2019 Model โดยพวกเขานั้นจะใช้เวอร์ชั่นต้นแบบอย่างรถแบบ D8 เข้ามาพร้อมพัฒนาเทคโนโลยีให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยการออกแบบนั้นจะได้มาจากรถอย่าง Range Rover Velar

12345

Renault แถลงการณ์ขายหุ้นกว่า 4.7% เพิ่มเติมจากทางรัฐบาลของประเทศฝรั่งเศส

$
0
0

Renault แถลงการณ์ขายหุ้นกว่า 4.7% เพิ่มเติมจากทางรัฐบาลของประเทศฝรั่งเศส
France-Sells-Renault-Shares
ล่าสุดนั้นรัฐบาลของประเทศฝรั่งเศสนั้นออกมายืนยันแล้วว่าพวกเขาได้ทำการขายหุ้นของแบรนด์ Renault ค่ายรถท้องถิ่นที่พวกเขาถือหุ้นอยู่ออกไปแล้วประมาณ 4.7% โดยคิดเป็นมูลค่าในตลาดหุ้นของประเทศทั้งสิ้นประมาณ 1.21 พันล้านยูโร (ประมาร 1.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) โดยประมาณ

โดยก่อนหน้านี้นั้นรัฐบาลของประเทศฝรั่งเศสถือหุ้นของ แบรนด์ Renault ค่ายรถท้องถิ่นจากประเทศฝรั่งเศสอยู่ที่ทั้งหมด 19.7 % ด้วยกัน โดยหุ้นทั้งหมดนั้นมีส่วนที่ถือเอาไว้ต่อและส่วนที่ขายดังกล่าวซึ่งส่วนมากจะเป็นตัวของบริษัทและพนักงานภายในของ Renault เองที่ซื้อไปต่อ

ซึ่งผู้ขายหุ้นนั้นก็ได้แก่ Emmanuel Macron ประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศสคนปัจจุบัน โดยข้อตกลงนี้ทำร่วมกันกับประธานบริหารของ Renault อย่าง Carlos Ghosn นั่นเอง โดยข้อตกลงนี้ใกล้บรรลุแล้วในการแถลงการณ์ล่าสุด

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะขายหุ้นออกไปอย่างนี้นั้นแบรนด์ของ Renault เองก็ยังแข็งแกร่งอยู่ โดยหุ้นประมาณ 4.7% ที่ขายออกไปนั้นก็ยังคงเพียงพอให้ทีมงานจากประเทศฝรั่งเศสนั้นยังคงถือหุ้นใหญ่ในบริษัทข้ามชาติอย่าง Renault-Nissan อีกด้วย

12345

การปรากฎโฉมของยนตกรรมสปอร์ตพร้อมกันถึง 4 รุ่น และ เปิดตัว คาเยนน์ รุ่นใหม่ (The new Porsche Cayenne) ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา

$
0
0

การปรากฎโฉมของยนตกรรมสปอร์ตพร้อมกันถึง 4 รุ่น และ เปิดตัว คาเยนน์ รุ่นใหม่ (The new Porsche Cayenne) ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา

Porsche_2

ตามแผนการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ 4 รุ่น ปอร์เช่กลายเป็นดาวเด่นที่ฉายแสงเจิดจรัสท่ามกลางบรรยากาศ
ในงานมหกรรมการแสดงรถยนต์ระดับโลก Los Angeles Auto Show: การเผยโฉมของ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panemera Turbo S E Hybrid Sport Turismo), 718 บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (718 Boxster GTS) และ 718 เคย์แมน จีทีเอส (718 Cayman GTS) ในฐานะเรือธงสูงสุดของแต่ละรุ่น ตามด้วย 911 คาร์เรร่า ที รับบทบาทรถสปอร์คน้ำหนักเบาสายพันธุ์แท้ และ ปิดท้ายอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการมาถึงของ คาเยนน์ (Cayenne)
เจเนอเรชั่นล่าสุด ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ที่งานมหกรรมยานยนต์ Los Angeles Auto Show ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมนี้

Porsche_1

บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมันรายนี้ ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นล่าสุด ภายใน Petree Hall ณ Convention Center ในวันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 11:00 น. (ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก หรือ 20:00 น.
ตามเวลามาตรฐานยุโรปกลาง)

ปอร์เช่ยังคงมุ่งมั่นก้าวต่อไปยนเส้นทางสู่ความสำเร็จในประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดปี 2017 ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์
ใหม่รวมทั้งสิ้น 45,952 คัน ตัวเลขยอดจำหน่าย 3 ไตรมาสแรกของปี ขยับเพิ่มขึ้นถึง 2.7 การเปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบ
กับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) +16.3 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้ง พานาเมร่า ใหม่
(The new Panamera) +52.5 เปอร์เซ็นต์ คือรุ่นรถที่มีอัตราการเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานข้างต้น
สะท้อนถึงระดับความพึงพอใจและความนิยมจากบรรดาลูกค้าของปอร์เช่ในสหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างดี และล่าสุด จาก
ผลงานวิจัยในหัวข้อ “Automotive Performance, Execution and Layout (APEAL) Study” ซึ่งจัดทำขึ้นโดย J.D. Power
สถาบันวิจัยการตลาดที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา ปอร์เช่สามารถคว้าอันดับสูงสุดของภาพรวมทั้งหมดในการสำรวจ
ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 13 หมายความว่า ปอร์เช่ยังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์ยนตกรรมที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจสูงสุด
สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นปอร์เช่ 911 (Porsche 911), คาเยนน์ (Cayenne), และ
มาคันน์ (Macan) ทุกรุ่นล้วนตบเท้าเข้าครอบครองตำแหน่งสูงสุดในประเภทของรถยนต์ระดับเดียวกัน

FORD ส่งแคมเปญ “เกษตรคนแกร่ง” ส่งท้ายปี เฟ้นหาเกษตรกรใจแกร่ง ผู้ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคกับ FORD RANGER

$
0
0

FORD ส่งแคมเปญ “เกษตรคนแกร่ง” ส่งท้ายปี เฟ้นหาเกษตรกรใจแกร่ง ผู้ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคกับ FORD RANGER
Ford
อนาวิน รุ่งโรจน์พันทวี เกษตรคนแกร่ง กับฟอร์ด เรนเจอร์คู่ใจ

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 4 ธันวาคม 2560FORD THAILAND เปิดตัวแคมเปญสร้างแรงบันดาลใจ “เกษตรคนแกร่ง” ซีรี่ย์วิดีโอที่ถ่ายทอดเรื่องราวจริงของเกษตรกรซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติที่ต้องใช้ความพยายาม อดทน และมุ่งมั่น เอาชนะความยากลำบากต่างๆ จนทั่งประสบความสำเร็จโดยมี FORD RANGER เป็นพาหนะคู่ใจที่ช่วยนำพาไปสู่จุดหมาย พร้อมเชิญชวนผู้เป็นเจ้าของรถฟอร์ด เรนเจอร์ กระบะเกิดมาแกร่งร่วมกันแชร์ประสบการณ์ความแกร่งในแบบฉบับของตนเอง และฟอร์ด เรนเจอร์คู่ใจเพื่อลุ้นเป็นอีกหนึ่งเกษตรคนแกร่งที่จะได้รับเลือกให้ถ่ายทอดเรื่องราวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นต่อไป

“ฟอร์ดเล็งเห็นความสำคัญของเกษตรกร ผู้เปรียบเสมือนเสาหลักของเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ส่งแคมเปญ “เกษตรคนแกร่ง” เพื่อยกย่องความแกร่งของเกษตรกรไทย รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้แก่บุคคลทั่วไปที่ได้รับชม อาชีพเกษตรกรที่นอกจากกายจะแกร่งแล้ว ใจยังต้องแกร่งอีกด้วย เพราะในแต่ละวันมีอุปสรรคมากมายที่ต้องฝ่าฟัน และยังมีความท้าทายอีกอย่างหนึ่งที่พวกเขาต้องเผชิญนอกเหนือจากงานเกษตรนั่นก็คือ เรื่องการเดินทางและการบรรทุกขนส่งผลิตผลทางการเกษตร ซึ่งฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถตอบโจทย์ทั้งการบรรทุกงานหนักและการใช้งานที่สมบุกสมบันในทุกงานเกษตร สมกับนิยาม “กระบะเกิดมาแกร่ง” ด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลัง พร้อมช่วงล่างและสมรรถนะการขับขี่เหนือระดับ ผสมผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัย ฟอร์ด เรนเจอร์จึงช่วยแบ่งเบาภาระและส่งเสริมงานเกษตรให้ประสบความสำเร็จได้ในทุกรูปแบบ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของชาวเกษตรกรได้อย่างแท้จริง” นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

ฟอร์ดเปิดตัววิดีโอเรื่องแรกจากเรื่องจริงของ “อนาวิน รุ่งโรจน์พันทวี” ชาวเขาเผ่าอาข่าที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแม่จันใต้ จังหวัดเชียงราย ผู้ละเลิกการปลูกฝิ่น หันมาประกอบอาชีพสุจริตด้วยการปลูกกาแฟตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยเริ่มต้นจากการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก แม้ล้มเหลวมาหลายครั้ง ซ้ำยังถูกคนรอบข้างบั่นทอนกำลังใจ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน เขาจึงทุ่มเทกายใจในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม และอดทนลงมือทำต่อไปจนกระทั่งประสบความสำเร็จในที่สุด อนาวินสามารถปลูกกาแฟคุณภาพได้มาตรฐานส่งออกไปขายต่างประเทศและยังสามารถต่อยอดเปิดกิจการร้านกาแฟเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย นอกจากการเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเองแล้ว ชาวอาข่าผู้นี้ยังอุทิศตัวเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสเพื่อส่งมอบสิ่งดีๆ ที่เขาได้รับกลับคืนสู่ชุมชน โดยเขายังได้ตั้งมูลนิธิขึ้นมาเพื่อดูแลและส่งเสริมให้เด็กเหล่านั้นให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา เพื่อจะได้เป็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติต่อไป ด้วยภารกิจในแต่ละวันที่อนาวินจะต้องเผชิญภายในไร่กาแฟ รวมถึงการเดินทางผ่านเส้นทางสุดทรหดคดเคี้ยวมากมายเพื่อนำพาความช่วยเหลือเข้าไปสู่พื้นที่ห่างไกล ฟอร์ด เรนเจอร์ จึงเป็นเสมือนพาหนะคู่ใจที่ช่วยพาเขาให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ

ตลอดเดือนธันวาคมนี้จนถึงมกราคมปี 2561 ฟอร์ดยังมีวิดีโอที่นำเสนอชีวิตของ “เกษตรคนแกร่ง” อีก 2 ท่าน ที่จะมาเผยเคล็ดลับการทำเกษตรกรรมให้ประสบความสำเร็จ คือ “ประทีป มายิ้ม” นายกสมาคมการค้ากุ้งก้ามแดง เกษตรกรต้นแบบความพอเพียง ผู้ยึดหลักการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มที่ และพึ่งพาตนเองได้ด้วยการทำการเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติ และ “เอนก สีเขียวสด” เกษตรกรสู้ชีวิตที่เรียนรู้ทุกประสบการณ์ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่ง ทำให้เขากลายเป็นเจ้าของฟาร์มนกกระทาครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยเกษตรกรทั้งสองท่านต่างเลือกใช้ ฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นรถกระบะคู่ใจเพื่อการใช้งานทางเกษตรกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่ได้รับความพึงพอใจจากสมรรถนะและฟังก์ชั่นการใช้งานของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ตามความต้องการอย่างครบครัน

ทั้งนี้ ฟอร์ดขอเชิญชวนผู้เป็นเจ้าของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ทุกท่าน ร่วมกันส่งเรื่องราวความแกร่งในแบบฉบับของตัวคุณกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ คู่ใจ ผ่านเฟซบุ๊กฟอร์ด ประเทศไทยและสื่อพันธมิตร ในระหว่างวันที่ 1-17 ธันวาคม พ.ศ.2560 โดยฟอร์ดและสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทยจะคัดเลือกสุดยอดเกษตรกรคนแกร่ง 3 คนสุดท้าย เพื่อร่วมโหวตกันบนเฟซบุ๊กฟอร์ด ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 20-27 ธันวาคม สำหรับเรื่องราวความแกร่งของผู้ชนะการโหวต นอกจากจะได้ขึ้นทำเนียบ “เกษตรคนแกร่ง” ของฟอร์ดแล้ว ยังจะได้รับการจัดทำเป็นวิดีโอเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นต่อไป พร้อมรับแพ็คเกจการบำรุงรักษารถฟอร์ดมูลค่า 50,000 บาทอีกด้วย

1234

BETA 500 RR-S 2018 “สุดยอดสายลุยฝุ่นแบบฉบับอิตาลี”

$
0
0

BETA 500 RR-S 2018 “สุดยอดสายลุยฝุ่นแบบฉบับอิตาลี”
BETA 500 RR-S 2018
BETA 500 RR-S 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำและพัดลมไฟฟ้า

ขนาดความจุ : 478 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ : 100 X 60.8 มม.

จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์แบบคู่ขนาด 42 มม.

ระบบเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง ที่ออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักเบาพร้อมเสถียรภาพความแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ระบบไฟฟ้าเป็นแบบ DC-CDI ของ KOKUSAN

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์ แบบ O-Ring

แฮนด์ : เป็น T-Bar ทรงเตี้ย เน้นการควบคุมที่แม่นยำในทางโค้งและใช้ความกว้างของแฮนด์มาเพิ่มความเสถียนของรถเมือใช้ความเร็วสูง

หน้าปัดแสดงผล : อาจจะดูแปลกตาเพราะว่าเป็นครื่อง GPS อ่านค่าได้ครบครันแน่นอน

เบาะนั่ง : ปาดเรียบทรงยาว ปลายเบาะด้านหน้ามีเสริมที่ใส่เอกสารสำหรับจดบันทึกการเดินทาง

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 22 ชิ้น
– การ์ดแกนช็อคอับคู่หน้า
– บังโคลนหน้า
– หน้ากากไฟหน้า
– การ์ดแฮนด์
– ปีกหม้อน้ำ
– การ์ดรังผึ้ง
– ถังเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้าง
– บังโคลนหลังตัวนอก
– บังโคลนหลังด้านใน
– กันกระแทกใต้ทองเครื่องยนต์
– การ์ดเฟรมข้างพักเท้า
– การ์ดช็อคอับหลัง
– การ์ดโซ่
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 807/2,180/1,270 มม.
– ระยะฐานล้อ 1,490 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 320 มม.
– น้ำหนักตัวรถ : 110 กก.
– ความจุถังน้ำมัน : 8 ลิตร

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 48 มม. ของ SACHS ผิวแกนเคลือบด้วยการชุบฮาร์ดโครเมี่ยม กระบอกสีดำ พร้อมปรับตั้งได้เต็มที่
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยวแบบมีซับแท้งค์ของ SACHS ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอะลูมิเนียมและกระเดื่องทดแรง ปรับตั้งค่าได้

ระบบเบรค
– ด้านหน้า เป็นแบบเดี่ยว ขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิคโดยมีปั๊มรีดแรงดันอยู่ด้านบนแฮนด์บังคับฝั่งขวา
– ด้านหลัง เป็นแบบเดี่ยวชนิดตายตัว ขนาด 240 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบใช้ระบบไฮดรอลิคในการสั่งงาน แต่เปลี่ยนจากแรงมือมาเป็นปั๊มชนิดกระทุ้งที่พักเท้าด้านขวา

ล้อ/ยาง
– หน้า วงล้อเป็นอะลูมิเนียมขนาด 1.60 x 21 นิ้ว ยางขนาด 90/90-21 นิ้ว
– หลัง วงล้อเป็นอะลูมิเนียมขนาด 2.15 x 18 นิ้ว ยางขนาด 140/80-18 นิ้ว จาก MICHELIN Enduro

อตาลีถือเป็นเมืองของรถทางเรียบและเป็นเมืองที่ออกแบบรถได้เจ๋งที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่รถทางเรียบเท่านั้น รถทางฝุ่นก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เช่นเดียวกับค่าย BETA ที่ทุ่มเทาสร้างรถทางฝุ่นชนิดไม่แยแสทางเรียบ การันตีด้วยชื่อชั้นระดับตำนานมาอย่างยาวนาน หลังจากแชมป์เอนดูโร่ในรายการ World Championship (E3 Class) ในปี 2006 แบะแชมป์โรงงานผู้ผลิต Manufacture World Championship (EnduroGP Class)

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.betausa.com

1234678910

Goodyear และ Nascar ขยายความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์

$
0
0

Goodyear และ Nascar ขยายความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์

1677257476001_3432628728001_nascar-nscs14-tex-pp-nascar-goodyear922_resize

บริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ประกาศต่อสัญญาในการสนับสนุนเชิงธุรกิจกับสมาคมการแข่งรถสต็อกคาร์แห่งชาติของสหรัฐฯ หรือนาสคาร์ โดยกู๊ดเยียร์เป็นผู้ผลิตยางหลักเพียงรายเดียวให้กับการแข่งขันรถระดับประเทศทั้ง 3 รายการ

การบันทึกข้อตกลงล่าสุดนี้ นับเป็นการสานต่อการแต่งตั้งให้กู๊ดเยียร์เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับนาสคาร์ และเป็นการขยายความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2497 ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างกู๊ดเยียร์และนาสคาร์ที่มีมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาที่ต่อเนื่องและยาวนานที่สุด

มร. เบร็นท์ ดีวาร์ ประธานบริษัทนาสคาร์ กล่าวว่า “เรามีความภูมิใจที่ได้ร่วมฉลองความสำเร็จในการต่อสัญญาความร่วมมือที่มีมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษกับทางกู๊ดเยียร์ นาสคาร์และทีมงานของเราทุกคนให้การไว้วางใจและเชื่อมั่นในยางทุกประเภทของกู๊ดเยียร์ ซึ่งความมุ่งมั่นของกู๊ดเยียร์ในการพัฒนานวัตกรรมและความเป็นเลิศนั้น นับว่ามีบทบาทสำคัญต่อความพยายามอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการแข่งขันรถที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลก”

กู๊ดเยียร์และนาสคาร์ร่วมจัดการแข่งขันรถแข่งที่น่าตื่นเต้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2515 ที่มีการเปิดตัวยางสลิคประเภท Racing Slick หรือยางที่ใช้ในการลงแข่งประเภทเซอร์กิต มาจนถึงการแนะนำยางเรเดียล ในปีพ.ศ. 2532 และยางรถแข่งที่ใช้เทคโนโลยี Multi-Zone Thread ในปีพ.ศ. 2556 โดยนาสคาร์รับหน้าที่เป็นสนามทดสอบสมรรถนะให้กับทางกู๊ดเยียร์ เพื่อเตรียมและจัดหายางที่เหมาะสม ตอบโจทย์การแข่งขันรถแข่งที่มีความเข้มข้นและตรงตามเงื่อนไขความต้องการต่างๆ ทั้งนี้ เทคโนโลยีของกู๊ดเยียร์ที่เพิ่มสมรรถนะให้ยางมีความทนทานยิ่งขึ้น และประสิทธิภาพการใช้งานดีเยี่ยมสามารถรองรับการใช้งานในการแข่งขันรถแข่งได้นั้น นับเป็นการตอกย้ำและสร้างความแตกต่างให้กับยางที่ผลิตมาเพื่อผู้บริโภคโดยเฉพาะของกู๊ดเยียร์ได้เป็นอย่างดี

มร. ริชาร์ด เจ เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกู๊ดเยียร์ เผยว่า “กู๊ดเยียร์มีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทสำคัญในรายการแข่งขันรถระดับโลกที่ดีที่สุด และรู้สึกตื่นเต้นที่นักแข่งรถทุกคนในรายการนาสคาร์ จะขับรถแข่งขันกันอย่างเข้มข้นเพื่อเข้าสู่เส้นชัยด้วยยางของกู๊ดเยียร์ต่อเนื่องไปอีกหลายปีข้างหน้า การขยายข้อตกลงความร่วมมือล่าสุดนี้ ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความสัมพันธ์ระหว่างกู๊ดเยียร์และนาสคาร์ที่มีมายาวนาน รวมถึงเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของนาสคาร์ที่มีต่อกู๊ดเยียร์มาโดยตลอด”

กู๊ดเยียร์ผลิตยางมากกว่า 100,000 เส้น เพื่อใช้ในรายการแข่งขันรถนาสคาร์ที่สำคัญทั้ง 3 สนามในแต่ละปี ซึ่งยางแต่ละชนิด ผลิตขึ้นตามความต้องการด้วยฝีมือของพนักงานของกู๊ดเยียร์ทั้งหลายที่มุ่งมั่นทำงานที่เมืองเอครอน รัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของกู๊ดเยียร์ พร้อมทั้งได้สลักชื่อพนักงานที่ช่วยในการผลิตยางไว้ด้วย จึงกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์นี้พัฒนาขึ้นมาจากการแข่งขัน อุดมการณ์ที่มีร่วมกัน และความก้าวหน้าของแบรนด์สำหรับทั้งสององค์กร ทั้งนี้ การเป็นแบรนด์ชั้นนำในวงการของกู๊ดเยียร์ได้รับการเน้นย้ำเรื่อยมานับตั้งแต่มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งได้ปลุกการรับรู้ต่อผู้ผลิตยางรถยนต์รายนี้ในหมู่แฟนตัวยางที่คลั่งไคล้ในรายการแข่งรถของนาสคาร์ นับเป็นเวลาถึง 5 ปีติดต่อกันที่กู๊ดเยียร์กลายเป็นผู้สนับสนุนที่มีผู้คนจำได้มากที่สุดในนาสคาร์ จากผลการสำรวจความภักดีต่อผู้สนับสนุนรายการของนาสคาร์ ที่จัดทำขึ้นเพื่อนิตยสาร SportsBusiness Journal/Daily โดย Turnkey Sports & Entertainment

Johnson แนะนำฟิล์มกรองแสงเซรามิคบริสุทธิ์ 100% นวัตกรรมต้นแบบ TiN หนึ่งเดียวในไทย

$
0
0

Johnson แนะนำฟิล์มกรองแสงเซรามิคบริสุทธิ์ 100% นวัตกรรมต้นแบบ TiN หนึ่งเดียวในไทย

01ฟิล์มกรองแสงจอห์นสันฟิล์มระดับไฮเอนด์คุณภาพระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เดินหน้าแนะนำฟิล์มเซรามิคบริสุทธิ์ 100% ใหม่ล่าสุด ด้วยนวัตกรรมต้นแบบ TiN หนึ่งเดียวในเมืองไทย ชูคุณสมบัติเนื้อฟิล์มเย็น เงาน้อย ป้องกันและระบายความร้อนได้เร็วกว่าฟิล์มเซรามิคทั่วไปถึง 4 เท่า ผ่านสัญญาณดิจิตอลทุกชนิด พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก

002นายปิยะ สุนสะธรรม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์มาร์ค บิสซิเนส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์จอห์นสัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ด้วยเทคโนโลยีระดับโลกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 อย่างเป็นทางการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทพบว่าความต้องการของฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียมที่แข่งขันกันด้วยคุณสมบัติของฟิล์มมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มฟิล์มกรองแสงเซรามิค ที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดรถยนต์ระดับโลกในปัจจุบัน จึงได้นำสินค้าใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเซรามิคบริสุทธิ์ 100% ในการผลิต เข้ามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ปีนี้

“ฟิล์มเซรามิค ไออาร์ (IR) บริสุทธิ์ 100% ที่ทางจอห์นสันนำเข้ามาเปิดตัวในครั้งนี้ นับเป็นฟิล์มรุ่นเดียวของโลกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า TiN หรือ ไทเทเนียม ไนไตรด์ (Titanium Nitride) ลิขสิทธิ์เฉพาะของจอห์นสัน ฟิล์ม จากสหรัฐอเมริกา ที่ไม่เคยมีฟิล์มกรองแสงรุ่นใดในโลกทำได้มาก่อน และเป็นครั้งแรกที่เรานำเข้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสอย่างเป็นทางการครั้งแรกเช่นกัน”

สำหรับฟิล์มกรองแสงจอห์นสัน เซรามิค ไออาร์ (Johnson Insulat IR Series) รุ่นใหม่ที่ใช้นวัตกรรมเคลือบเนื้อฟิล์มด้วยชั้นเซรามิค ชนิดไทเทเนียม ไนไตรด์ มีคุณสมบัติหลักในเรื่องของการกันความร้อนที่เหนือชั้น และเพิ่มคุณสมบัติพิเศษเข้าไปมากมาย อาทิ เนื้อฟิล์มเย็น เงาน้อย ป้องกันและระบายความร้อนได้ดีกว่าฟิล์มเซรามิคทั่วไปถึง 4 เท่า เนื้อฟิล์มเหนียวแน่น ทนทานเป็นเยี่ยม มีอายุการใช้งานยาวนานด้วยชั้นเคลือบแข็งพิเศษ CSTTM ลิขสิทธิ์เฉพาะของทางโรงงาน และยังผ่านสัญญาณดิจิตอลได้ทุกชนิด เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานอย่างรอบด้าน

ฟิล์มกรองแสงจอห์นสัน เซรามิค ไออาร์ ซีรีส์ มีให้ผู้บริโภคเลือก 8 รุ่นทั้งเข้มและใส ให้ทัศนวิสัยการขับขี่ที่คมชัด ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดตั้งแต่ 31-61 %  ซึ่งทั้งหมดสามารถกันรังสียูวีได้ถึง 99 % โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 21,900-32,900 บาทต่อคัน

“เรามั่นใจว่า ฟิล์มกรองแสงเทคโนโลยีใหม่นี้จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคระดับพรีเมียมในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เหมือนกับที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก ซึ่งนอกจากสินค้าแล้วเรายังได้เตรียมเครือข่ายศูนย์บริการไว้รองรับผู้บริโภคมากกว่า  80  แห่งทั่วประเทศ และจะมีการขยายศูนย์บริการออกไปเรื่อยๆ ในอนาคต”

นายปิยะกล่าวถึงเป้าหมายการจำหน่ายของฟิล์มจอห์นสัน เซรามิค ไออาร์ ซีรีส์ ว่าน่าจะมีสัดส่วนการจำหน่ายที่สูงถึง 10% ของยอดจำหน่ายรวมในปีนี้  ที่เหลือเป็นสัดส่วนของฟิล์มอาคาร 5% และอีก 85% จะเป็นฟิล์มกรองแสงรุ่นอื่น ๆ ของจอห์นสันที่มีจำหน่ายอยู่อีก 4 ซีรีส์ ในประเทศไทย ประกอบไปด้วย เอ็กเซกคิวทีฟ (Executive), ซิลลูเอต (Silhouette), วิชั่น พลัส (Vision Plus) และ มิรเรอร์ พลัส (Mirror Plus) รวมทั้งหมด 25 รุ่น

ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าในปีนี้จะมียอดจำหน่ายรวม 72 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายตัวที่เหนือกว่าการเติบโตของตลาดฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียมในประเทศไทย และบริษัทเชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นในการเดินหน้าหาสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย จะทำให้บริษัทการเติบโตทางธุรกิจต่อเนื่องไปในอนาคต

พบกับฟิล์มกรองแสงจอห์นสัน เซรามิค ไออาร์ ซีรีส์ พร้อมด้วยฟิล์มกรองแสงรุ่นอื่นๆ และโปรโมชั่นสุดพิเศษที่จัดเตรียมมาสำหรับงานนี้เท่านั้นได้ภายในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่บู๊ธรหัส เอช 12 ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2560 พบกับกิจกรรมสุดพิเศษมากมายที่จัดเตรียมไว้เพื่อรองรับผู้บริโภคทุกท่านตลอดทั้งงาน

00101 002 02 03 04


BMW R nineT Racer 2018 “ความลงตัวของมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิคร่วมสมัย”

$
0
0

BMW R nineT Racer 2018 “ความลงตัวของมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิคร่วมสมัย”
BMW R nineT Racer 2018-1
BMW R nineT Racer 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 สูบ Boxer Flat Twin

ระบบระบายความร้อน : ด้วยอากาศและแผงออยล์คูลเลอร์

ขนาดความจุ : 1,170 ซีซี.

กระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ : 101 × 73 มม.

ให้ทำกลังสูงสุด : 110 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 116 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที

อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์ : 12.0 : 1

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ขนาดเรือนลิ้นเร่ง : 50 มม.

ระบบเกียร์ : ธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

ระบบขับเคลื่อน : ด้วยชุดเพลา มาตรฐานจากเยอรมัน

ระบบสตาร์ทเครื่อง : ด้วยระบบไฟฟ้า

เฟรม : สีเงินอะลูมิเนียมให้เห็นถึงโครงสร้างตัดกับระบบขับเคลื่อนสีดำอย่างชัดเจน

หน้ากาก : แบบฮาล์ฟแฟริ่ง

ไฟหน้า : ทรงกลมดวงใหญ่

เรือนไมล์ : ทรงกลมคู่แบบคลาสสิคอ่านค่าได้ทั้งดิจิตอลและอะนาล็อก

แฮนด์ : แบบต่ำสไตล์สปอร์ต

เบาะนั่ง : หุ้มหนังอย่างดี ด้านท้ายเสริมที่ครอบเบาะแบบโค้ง

ท่อไอเสีย : แบบ 2-1-1 หันปลายท่อออกทางด้านซ้าย

ไฟเลี้ยว : เป็นแบบ LED

ไฟท้าย : เป็นแบบ LED

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 920/2,105/1,105 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ : 1,491 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 805 มม.
– น้ำหนักรวมรถ : 210 กก.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 17 ลิตร

ล้อ/ยาง
– ด้านหน้า ล้อเป็นอะลูมิเนียมลาย 5 ก้านสีดำ ขนาด 3.5 x 17 นิ้ว สวมยางขนาด 120/70 ZR 17
– ด้านหลัง ล้อเป็นอะลูมิเนียมลาย 5 ก้านสีดำ ขนาด 5.5 x 17 นิ้ว สวมยางขนาด 180/55 ZR 17

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า ช็อคอับเทเลสโคปิค ขนาด 43 มม.  ระยะการทำงาน 125 มม.
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยว ระยะการทำงาน 125 มม.

ระบบเบรค
– ด้านหน้า เป็นแบบจานคู่ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ BREMBO 4 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS
– ด้านหลัง เป็นแบบตายตัวขนาด 265 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS (ชุดเบรคหลังจะติดตั้งอยู่ที่ด้านขวาของดุมล้อหลัง)

กระแสความนิยมชมชอบเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ในแต่ละแนวมีให้ติดตามกันเกือบทุกวัน ค่ายรถบางค่ายแหวกแนวสร้างรถมาเพื่อนคนชอบจริงๆ แต่ไม่ได้สนยอดขาย แต่ยุคนี้ความนิยมในสไตล์คลาสสิคร่วมสมัยกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แนวคิดการสร้างรถจึงเอา ความเก๋ามาบวกกับความเก๋ เข้าด้วยกัน ทำให้มอเตอร์ไซค์บางรุ่นต่อยอดความเก๋าจนทำให้เป็นตำนาน

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.bmwmotorcycles.com

1078912345

“สื่อสากล” ส่งเยาวชนไทยไปอิตาลี เปิดประสบการณ์กับนักแข่งระดับโลก

$
0
0

“สื่อสากล” ส่งเยาวชนไทยไปอิตาลี เปิดประสบการณ์กับนักแข่งระดับโลก

Meet the masters 2017-1_resize

“IMC สื่อสากล” ผู้จัด “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” สนับสนุนเยาวชนไทยไปเรียนรู้กับกูรูด้าน RACE ENGINEERING ระดับโลก ในโครงการ “MEET THE MASTERS”

ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน “มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 34” เปิดเผยว่า “IMC สื่อสากล” ตั้งใจจะให้งาน “มหกรรมยานยนต์” เป็นศูนย์รวมการจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ของไทย และส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีความรู้ความสามารถในระดับนานาชาติ จึงส่งคนไทยร่วมโครงการ “MEET THE MASTERS” ที่จัดโดยนิตยสาร QUATTRORUOTE ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

โครงการ “MEET THE MASTERS” ปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ “MEET THE MASTERS: MASTER RACE ENGINEERING” โดยผู้จัดเลือก อิสรภาพ สถิรวัฒนากร บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering) ไปร่วมกิจกรรมเวิร์คชอพกับนักศึกษาวิศวกรรมยานยนต์จากทั่วโลก เมื่อวันที่ 5-25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

อิสรภาพ สถิรวัฒนากร กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นความชอบเรื่องเครื่องยนต์กลไกเกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก ผมได้รับของเล่นชิ้นแรกเป็นชุดเครื่องมือ และคลุกคลีกับการซ่อมรถกับคุณพ่อ จึงเกิดความสนใจด้านเครื่องยนต์เป็นพิเศษ เมื่อถึงเวลาต้องเลือกเรียนจึงมุ่งไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ และต้องการมีความรู้ในด้านการบริหารจึงเลือกเรียนสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ และขอขอบคุณ สื่อสากล ผู้จัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ที่มอบโอกาสให้ผมได้รับประสบการณ์สุดพิเศษ และความรู้ด้านวิศวกรรมยานยนต์จากนักแข่งรถระดับโลก”

ตัวแทนประเทศไทยเผยว่า GIANCARLO BRUNO วิทยากรหลักโครงการนี้ ได้ให้ความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับวิศวกรรมยานยนต์ในแบบ RACE Engineer นอกจากนี้ตนยังได้สัมผัสการทำงานจริงของทีม JAS Motorsport ที่ลงสนามซ้อมเพื่อแข่งขันในรายการ TCR Series ได้เห็นการตรวจสอบรถแข่งรอบสุดท้ายก่อนจะลงไปซ้อมในสนาม เช่น การเช็คมุมล้อ ระบบควบคุม และระบบ Data Logging เป็นต้น โดย BRUNO จะย้ำเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนในทีมซึ่งจะช่วยให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้นในทุกๆ เรื่อง

BRUNO ได้เชิญวิทยากรอีกหลายท่านมาให้ความรู้ อาทิ IVAN FRANCO CAPELLI นักขับ F1 ที่เคยร่วมงานกันในอดีต พูดถึงแนวคิดการทำงานในสนามแข่ง เทคนิคการปรับตั้งช่วงล่างที่จำเป็นต้องใช้ในสนามแข่ง DARIO D’ESPOSITO ผู้จัดการทีม JAS Motorsport สอนการจัดการทีมแข่งเพื่อเข้าใจถึงภาพรวมของการบริหารทีม PAOLO LONGONI ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎกติกามารยาทในการแข่งขันรูปแบบต่างๆ ที่จะพบในการทำงาน และ ANDREA ADAMO หัวหน้าทีมออกแบบ JAS Motorsport ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับหลักการออกแบบ ระบบช่วงล่างและตัวถังของรถแข่ง เป็นต้น

ยิ่งกว่านั้น EMANUELE PIRRO นักขับฟอร์มูลาวัน และแชมพ์ LE MANS 5 สมัย ยังได้มาพูดถึงประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ 24 ชั่วโมง และได้มีโอกาสเยี่ยมชมพิทของ PIRALLI ผู้สนับสนุนหลักฟอร์มูลาวัน ได้เรียนรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับยางแข่งขัน เช่น การออกแบบ การเลือกส่วนผสม การเก็บรักษา การขนส่ง และขั้นตอนสุดท้ายคือการรีไซเคิล โดยทั้งหมดนี้เป็นความรู้เข้มข้นที่มีทั้งภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติ

อิสรภาพ กล่าวเพิ่มว่า “ผมจะนำความรู้และประสบการณ์ตลอด 3 สัปดาห์มาพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ดียิ่งขึ้น และถ่ายทอดความรู้สู่ผู้ที่สนใจด้าน RACE Engineer ต่อไป”

ผู้สนใจด้านวิศวกรรมยานยนต์สามารถชมบูธนวัตกรรมยานยนต์ และ MEET THE MASTER ภายในชาลเลนเจอร์ 2 IMPACT เมืองทองธานี ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 ธันวาคม 2560 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.motorexpo.co.th

จัดไป!! โชว์ตัวชุดแต่งรถแบบ “Pagani Huayra”สุดสวยงามอลังการณ์

$
0
0

จัดไป!! โชว์ตัวชุดแต่งรถแบบ “Pagani Huayra” สุดสวยงามอลังการณ์
Pagani-Huayra-For-Sale
ล่าสุดค่ายแต่งรถชื่อดังอย่างทีมงานของ Miller Motorcars จากรัฐอย่าง Connecticut (เป็นรัฐทางตะวันออก ในสหรัฐอเมริกาอยู่ในเขตนิวอิงแลนด์) ก็ได้เปิดตัวชุดแต่งของรถแบบ Pagani Huayra ในรุ่นสปอร์ตออกมาแล้วในวันนี้ โดยจะมาพร้อมกับออฟชั่นแบบจัดเต็มเลยทีเดียว

โดยรถสปอร์ตแบบ Pagani Huayra ชุดแต่งคันดังกล่าวนั้นมีหมายเลขอย่างเป็นทางการเป็นหมายเลข 57 โดยจะผลิตคันแรกในประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา, โดยนำรถดั้งเดิมจากโรงงานของ Pagani มาแต่งเพิ่มเติม โดยวัสดุต่างๆนั้นทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) ทั้งหมด

สำหรับชุดแต่งรุ่นปัจจุบันดังกล่าวของรถแบบ Pagani Huayra คันนี้นั้นจะมีชื่อว่า “Pacchetto Tempesta package” ที่มีพร้อมกับอุปกรณ์อันทรงพลังเป็นอย่างมากในแต่ละอย่าง เช่น ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต, ชุดแต่งแบบดุดันทั้งภายนอกและภายในของตัวรถ ปิดท้ายด้วยการแจ่งที่เหมือนกับรถอย่าง Huayra BC models

ในส่วนของรถแบบดังกล่าวนั้นจะมาพร้อมกับอุปกรณ์มากมาย โดยมันวิ่งไปในระยะทางแล้วกว่า 600 ไมล์ก่อนจะนำมาแต่งเพิ่มเติมในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งภายในแบบสปอร์ต เช่น ออฟชั่นเบาะหนังแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบ, เบาะแบบ Alcantara, วัสดุตกแต่งจากอะลูมิเนียมสุดหรูหรา และปิดท้ายด้วยวัสดุบางอย่างจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา

ยังไม่มีการเปิดเผยราคาขายออกมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด แต่คาดการณ์ว่ามันจะมีราคาขายประมาณ 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐโดยประมาณ

1234567891011

Honda .. สู้สู้ เชียร์สนั่นแทร็ก ซ้อมใหญ่รับ MotoGP

$
0
0

Honda .. สู้สู้ เชียร์สนั่นแทร็ก ซ้อมใหญ่รับ MotoGP

AP_Honda_Day2_1

รูดม่านปิดฉากความเร้าใจไปแล้ว สำหรับศึกชิงเจ้าความเร็วสองล้อแห่งเอเชีย รายการเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ประจำปี 2017 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ไฮไลต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมชมเกมการแข่งขันอย่างมากมาย โดยนอกจากผลงานของเหล่านักบิดยอดฝีมือชาวไทยที่สามารถคว้าชัยชนะยืนบนโพเดียมได้แล้ว ยังมีกิจกรรมที่เรียกเสียงฮือฮาได้สนั่นแทร็กไม่น้อย กับโอกาสการยลโฉม “ฮอนด้า RC213V-S” สุดยอดรถสปอร์ตที่ถอดแบบรถของแชมป์โลกได้โลดแล่นอยู่ในสนามแข่งขัน จำนวน 7 คัน มูลค่าคันละ 8.7 ล้านบาท

AP_Honda_Day2_4

ขณะเดียวกันหากย้อนมองกลับมาที่อัฒจันทร์หรือสแตนด์คนดู อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเรซส่งท้ายครั้งนี้ต้องยกให้กับบรรยากาศความคึกคักของกลุ่มแฟนคลับค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ยกทัพเดินทางเข้ามาร่วมเชียร์ทีมแข่งขวัญใจคนไทย “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ถึงในสนามจำนวนกว่า 2,000 คน

AP_Honda_Day2_3

ภาพของกองทัพสาวกนักบิดค่ายปีกนก ดีลเลอร์ ตลอดจนพนักงานพร้อมครอบครัวของ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่พร้อมใจรวมพลยกทัพมากันทั้งครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อมาร่วมให้กำลังใจและส่งเสียงเชียร์ “ฮอนด้า…สู้สู้ ฮอนด้า…สู้สู้” ถือเป็นการเริ่มต้นปรากฏการณ์ที่ดี การเตรียมตัวให้กับความเข้าใจในกีฬาชนิดนี้ ด้วยการเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง เพื่อรับรู้ถึงความสนุกตื่นเต้นและมีความน่าสนใจชวนติดตามไม่แพ้ชนิดกีฬาอื่นๆ รวมถึงมีความปลอดภัยจากมาตรฐานการจัดแข่งขันในสนามระดับโลก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยขยายความนิยมให้จำนวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตในบ้านเรามีมากขึ้น

AP_Honda_Day2_2

อย่างที่ทราบกันดีว่า แทร็กดวลความเร็วแดนเซราะกราวได้ถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับศึกโมโตจีพี ฤดูกาล 2018 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2561

AP_Honda_Day2_5

ดังนั้น การเข้ามามีร่วมส่วนของกองเชียร์ในศึกโฮมเรซครั้งนี้ จึงเสมือนเป็นการซ้อมใหญ่เพื่อต้อนรับศึกใหญ่ดังกล่าวด้วย

จากเสียงเชียร์สนั่นแทร็กเพื่อเชียร์ทีมแข่งขวัญใจคนไทย จะดังต่อเนื่องถึงปีหน้าเพื่อเชียร์นักบิดหนึ่งเดียวของไทย “ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์” ดาวรุ่งนักบิดชาวขอนแก่น ผู้ได้รับโอกาสลงทำการแข่งขันตลอดฤดูกาลเป็นปีที่สอง ในรุ่นโมโตทรี สังกัดฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 41

“ฮอนด้า…สู้สู้ ฮอนด้า…สู้สู้” ในฐานะเจ้าบ้านต้องซ้อมไว้ให้ขึ้นใจ เพราะเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มจะเป็นหัวใจสำคัญช่วยเพิ่มบรรยากาศในสนามให้สนุกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

เหนืออื่นใดยังช่วยกระตุ้นความฮึกเหิมให้กับคนฟังเป็นอย่างยิ่ง

สนามช้างฯ เปิดเส้นทาง “สปอร์ตทัวริสซึ่ม” จ.บุรีรัมย์ ลุ้นศึกชิงจ้าวความเร็วแห่งเอเชีย ARRC สนามสุดท้าย

$
0
0

สนามช้างฯ เปิดเส้นทาง “สปอร์ตทัวริสซึ่ม” จ.บุรีรัมย์ ลุ้นศึกชิงจ้าวความเร็วแห่งเอเชีย ARRC สนามสุดท้าย

CIC

“สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ปิ๊งไอเดียเปิดเส้นทาง “สปอร์ตทัวริสซึ่ม” จ.บุรีรัมย์ ผ่านกีฬามอเตอร์สปอร์ต ล่าสุดชวนคอความเร็วลุ้นเกาะติดขอบสนามชมการแข่งขัน FIM Asia Road Racing Championship2017 (ARRC) สนามที่ 6 ศึกชิงจ้าวความเร็วที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พร้อมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวสัมผัสแหล่งอารยธรรมท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน และศิลปวัฒนธรรมอันงดงาม

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย FIM Asia Road Racing Championship 2017 (ARRC) ศึกชิงจ้าวความเร็วที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย สนามสุดท้ายของฤดูกาล ในระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2560 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ที่ผ่านมานั้น ทางสนามช้างฯ ได้เปิดเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับคอกีฬามอเตอร์สปอร์ตและประชาชนทั่วไปที่มาชมและเชียร์การแข่งขันท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อสัมผัสศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย ในรูปแบบของ “สปอร์ตทัวริสซึ่ม”

“การท่องเที่ยวในรูปแบบของสปอร์ตทัวริสซึ่ม จะได้อรรถรสที่แตกต่าง ซึ่งนอกจากการได้ชมและเชียร์การแข่งขันศึกชิงจ้าวความเร็วจากนักบิดทั่วเอเชียกว่า 200 ชีวิต รวมทั้งนักบิดซุปเปอร์สตาร์ชาวไทยแล้ว หลังจบการแข่งขันบรรดาคอมอเตอร์สปอร์ตยังสามารถไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ หรือจะไปสัมผัสอาหารพื้นบ้าน วัดวาอาราม ถือเป็นการพักผ่อนอีกรูปแบบในการมาเยือนบุรีรัมย์ครั้งนี้ด้วย”

เริ่มต้นจากยามเช้าตรู่ ร้าน “ปาท่องโก๋ชุมพล” อาหารเช้าแบบคนบุรีรัมย์ จิบกาแฟในบรรยากาศแบบบ้านๆแกล้มกับไข่ลวก สำหรับร้านนี้ถ้าตื่นสายไปช้าหมดอดแน่นอน เพราะทำวันละแค่ 8 กะละมังใหญ่เท่านั้น และอย่าหงุดหงิดถ้าต้องไปยืนรอต่อแถว เพราะปาท่องโก๋เจ้านี้ขายดีจริงๆ ทั้งยังกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน พอสายๆหน่อยก็หมดแล้ว

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่นักท่องเที่ยวมาแล้วต้องไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น “ศาลหลักเมือง บุรีรัมย์” และศาลปึงเถ่ากงม่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวบุรีรัมย์เคารพสักการบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ “พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นพระพุทธรูปคู่เมือง ได้แก่ “พระสุภัทรบพิตร เขากระโดง”
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ต้องไม่พลาดไป “ถนนคนเดิน เซราะกราว” แหล่งรวมอัตลักษณ์ของชาวบุรีรัมย์ เปิดในช่วงเย็นยันหัวค่ำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ที่นี่จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่นิยมเลือกหาของพื้นบ้านเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไป

นอกจากนี้ยังมี”สนามไอโมบาย สเตเดียม” สนามฟุตบอลที่สวยงามและได้มาตรฐานระดับโลก เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ได้ทุกวันยกเว้นวันที่ทีมมีแข่งขัน ต้องบอกว่าสนามนี้ทั้งสวยงาม ทันสมัย
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ไม่ควรพลาด คือ “บ้านสวนฟรุ๊ตการ์เด้นส์ อ.ลำปลายมาศ” ของอดีตรัฐมนตรี “โสภณ ซารัมย์” ซึ่งยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่9 ภายใต้บรรยากาศที่แสนร่มรื่น มีเมล่อนหวานๆ ที่ปลูกในบุรีรัมย์แต่รสชาติไม่แพ้ต่างประเทศเป็นของขึ้นชื่อ รวมทั้งมะเขือเทศราชินี กล้วยหอมทอง และพืชผักผลไม้ที่ปลูกแบบอินทรีย์ไว้ให้เลือกซื้อเลือกชิมกัน

จากนั้นเอาใจคอกาแฟที่ “ร้านดินดิบคาเฟ่” อ.ลำปลายมาศ ร้านนี้ตกแต่งได้ถูกใจคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ และยังมีข้าวปลาอาหารรสชาติจัดจ้านให้ทานกันด้วย พร้อมๆกับชมการตีหม้อของ “ป้านง” วัย 50 กว่า ที่มีประสบการณ์การตีหม้อมานานกว่า 30 ปี และเคยสาธิตต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาแล้ว

ส่วนที่พักสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต Bric Box Hotel โรงแรมเก๋ๆสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์เก๋ๆติดแทร็ค สนามแข่งรถ ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เอาใจคอความเร็ว สามารถชมการแข่งขันแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียงเปิดประตูหน้าห้องพักมา จะได้ชมการแข่งรถจากหน้าประตูห้อง น่าตื่นตาตื่นใจไปอีกแบบ

นายตนัยศิริ กล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขัน FIM Asia Road Racing Championship 2017 สนามที่ 6 ในครั้งนี้ เป็นการตัดสินแชมป์ประจำทวีป เพราะเป็นสนามสุดท้ายของ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งผู้จัดการแข่งขันให้ความสำคัญกับสนามนี้มาก และกลายเป็นประเพณีสำคัญของรายการนี้ ที่ต้องมาฉลองแชมป์ที่บุรีรัมย์ ซึ่งทางสนามฯ ก็มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อรองรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตตลอดทั้งสุดสัปดาห์

“ศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ นับเป็นรายการแข่งขันจักรยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย โดยถือเป็นบันไดขั้นสำคัญในการพัฒนาฝีมือก่อนจะก้าวไปสู่การแข่งขันระดับโลกอย่าง โมโตจีพี หรือ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ อย่างไรก็ดีการแข่งขัน FIM Asia Road Racing Championship 2017 ครั้งนี้ ผนวกการท่องเที่ยวแบบสปอร์ตทัวริสซึ่ม ช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศให้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมในจังหวัดบุรีรัมย์คึกคักมากยิ่งขึ้น ”

Viewing all 8786 articles
Browse latest View live