Quantcast
Channel: รถใหม่ 2025-2026 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์
Viewing all 8900 articles
Browse latest View live

“สมเกียรติ” บินตรงสเปน ตั้งเป้าคว้าแต้มส่งท้าย Moto3 CEV

$
0
0

“สมเกียรติ” บินตรงสเปน ตั้งเป้าคว้าแต้มส่งท้าย Moto3 CEV

Kong-Somkiat

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม เดินทางมุ่งหน้าสู่ประเทศสเปน เพื่อแข่งขันในศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย บาเลนเซีย เจ้าตัวตั้งเป้าคว้าแต้มฝากชาวไทยให้ได้มากที่สุด

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่เฟ้นหาดาวรุ่งจากทั่วโลกรายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายในวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ ที่ ริคาร์โด ตอร์โม เซอร์กิต เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน

ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเกียรติ จันทรา ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติ สุวรรณภูมิ เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปนโดยมี “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดโมโตทูของ ฮอนด้า ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้นักบิดภายในทีม เดินทางมาส่งและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด

รัฐภาคย์ เปิดเผยว่า “ก้อง มีพัฒนาการที่ดีมากครับ สำหรับปีแรกที่แข่งขันในรายการ โมโตทรี จูเนียร์ น่าเสียดายที่มีอาการบาดเจ็บจนพลาดแข่งขันไปหลายสนาม ส่วนตอนนี้นักบิดไทยกลับมามีร่างกายสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์อีกครั้ง เชื่อว่าจะสร้างผลงานดีๆ เป็นของขวัญให้แฟนชาวไทยได้เฮกันครับ”

สมเกียรติ มีผลงานที่โดดเด่นในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลและมีลุ้นคว้าโพเดี้ยมหลายครั้ง ทว่าจากอุบัติเหตุในสนามทำให้พลาดลงแข่งถึง 4 เรซ แต่ยังสามารถคว้าแต้มมาได้ทั้งสิ้น 20 คะแนน รั้งอันดับ 20 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ

สำหรับศึก เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย จะแข่งขันทั้งสิ้น 2 เรซ ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ ที่ ริคาร์โด ตอร์โม เซอร์กิต เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน


Royal Enfield เปิดเอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์แห่งที่ 2 ในไทย พร้อมตั้งเป้าขยายศูนย์บริการเพิ่มอีก 7 แห่งทั่วประเทศ

$
0
0

Royal Enfield เปิดเอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์แห่งที่ 2 ในไทย พร้อมตั้งเป้าขยายศูนย์บริการเพิ่มอีก 7 แห่งทั่วประเทศ

Royal-Enfield-Vibhavadi_1

รอยัล เอนฟิลด์ ผู้นำตลาดมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลกเดินหน้าขยายการให้บริการแบบเต็มรูปแบบเปิด “รอยัล เอนฟิลด์ วิภาวดี เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์” ซึ่งนับเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์ (Exclusive Store) แห่งที่ 2 และศูนย์บริการลำดับที่ 4 ของรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมจัดจำหน่ายและเตรียมรถทดสอบรอยัล เอนฟิลด์ ครบทุกรุ่น รวมถึงให้บริการเช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยสามารถรองรับรถที่นำมาเข้าเซอร์วิสได้ประมาณ 100 คันต่อเดือน นับเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์แห่งที่สองภายหลังการเปิดตัวสโตร์แห่งแรกที่ทองหล่อเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2559 พร้อมตั้งเป้าขยายศูนย์บริการอีก 7 แห่งตามหัวเมืองทั่วประเทศภายในปี 2561 เพิ่มความสะดวกในการใช้บริการสำหรับลูกค้าปัจจุบันและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

Royal-Enfield-Vibhavadi_2

นายสมรรถ รอบบรรเจิด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรอยัล เอนฟิลด์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิด ‘รอยัล เอนฟิลด์ วิภาวดี เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์’ นับเป็นอีกย่างก้าวสำคัญของรอยัล เอนฟิลด์ ประเทศไทย สะท้อนให้เห็นกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าตลอดระยะเวลา 20 เดือนแรกของแบรนด์ในประเทศไทย ซึ่งการขยายศูนย์บริการนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญและยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจ ตลอดจนความพร้อมในการรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยเรามุ่งมั่นมอบบริการหลังการขายที่สมบูรณ์แบบและให้ความรู้สึกใกล้ชิดเป็นกันเองกับลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งยอดขายราว 45% ของเรามาจากลูกค้านอกเขตกรุงเทพฯ โดยการขยายศูนย์บริการใหม่ทั้ง 7 แห่งในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2561 จะช่วยให้เราสามารถบริการลูกค้าปัจจุบันและผู้ชื่นชอบแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ได้อย่างทั่วถึง”

Royal-Enfield-Vibhavadi_3

“รอยัล เอนฟิลด์ วิภาวดี เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์” ให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเป็นโชว์รูมสำหรับจัดจำหน่ายรถรอยัล เอนฟิลด์ พร้อมจัดเตรียมมอเตอร์ไซค์ทดสอบครบทุกรุ่น ตลอดจนมีพื้นที่ส่วนบริการที่ให้บริการครอบคลุมการเช็คระยะและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในพื้นที่ขนาด 57 ตารางเมตร ให้ลูกค้าได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์กับรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ สไตล์คลาสสิกจากต้นกำเนิดประเทศอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานได้อย่างครบวงจร โดยสามารถรองรับรถมอเตอร์ไซค์ที่นำเข้ามารับบริการได้ประมาณ 100 คันต่อเดือน ทั้งนี้ ‘รอยัล เอนฟิลด์ วิภาวดี เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์’ ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร ใกล้บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์-วันเสาร์เวลา 9.00-18.00 น. ส่วนวันอาทิตย์เปิดบริการเวลา 11.00-17.00 น. สำหรับลูกค้าที่ต้องการนำรถมารับบริการสามารถโทรนัดหมายรับบริการได้ที่ โทร. 063-267-8889

ปัจจุบัน รอยัล เอนฟิลด์มีศูนย์บริการที่เปิดให้บริการลูกค้าอยู่ทั้งหมด 4 แห่งได้แก่ ศูนย์จำหน่ายรอยัล เอนฟิลด์ ทองหล่อ เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์แห่งแรกในประเทศไทย, ศูนย์บริการหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ศูนย์บริการจังหวัดนครราชสีมา และล่าสุดรอยัล เอนฟิลด์ วิภาวดี เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์ โดยภายในปี 2561 จะขยายศูนย์บริการเพิ่มอย่างเป็นทางการทั่วประเทศอีก 7 แห่งในพื้นที่ต่างๆ แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพฯ ได้แก่เขตธนบุรี, พระราม 2 และพระราม 5 รวมถึงในจังหวัดอื่นๆ อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี และภูเก็ต จึงทำให้มีศูนย์บริการครอบคลุมหัวเมืองรวมทั้งสิ้น 11 แห่งทั่วประเทศ

BMW ปูทางสู่ Motor Expo 2017 ขนทัพรถยนต์แห่งอนาคตใหม่ล่าสุด นำโดย BMW X3 ใหม่

$
0
0

BMW ปูทางสู่ Motor Expo 2017 ขนทัพรถยนต์แห่งอนาคตใหม่ล่าสุด นำโดย BMW X3 ใหม่

2018-BMW-X3_34

BMW ประเทศไทย พร้อมมุ่งหน้าสู่ Thailand International Motor Expo 2017 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 34 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม 2560 นี้ เตรียมยกทัพรถยนต์นวัตกรรมโดดเด่นล้ำสมัยสู่สายตาผู้เข้าร่วมงาน นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่สาม พร้อมรับทุกความท้าทาย พร้อมด้วยบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ ส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบระหว่างความสะดวกสบายสุดพรีเมียมและการใช้งานที่ตอบโจทย์ และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดสมาชิกใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยูอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury และบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) รวมถึงสุดยอดขุมพลังจาก บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive และอีกหนึ่งรุ่นย่อยพร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง M ในรุ่นบีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport

“แนวคิดของงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ที่จะถึงนี้คือ “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์อันยาวนานของบีเอ็มดับเบิลยู นวัตกรรมคือการมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงสุดที่ตอกย้ำสถานะของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นจากรถยนต์ที่ผสมผสานทั้งสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบาย ซึ่งพัฒนามาอย่างไม่หยุดยั้งของบีเอ็มดับเบิลยู” มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว “บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของความทุ่มเทนี้ ด้วยความโดดเด่น การออกแบบที่ปราดเปรียว ระบบการขับขี่อันทรงพลังที่ยังคงประสิทธิภาพอย่างเหนือชั้น และความหรูหราในทุกแง่มุมของตัวรถบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ จึงพร้อมพุ่งทะยานสู่ท้องถนนและสานต่ออีกหนึ่งบทความแห่งสำเร็จจากรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3”

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้เปิดเผยถึงความสำเร็จใน 10 เดือนแรกของปี 2560 ที่ผ่านมา “นอกเหนือจากทัพรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเผยโฉมให้แก่แฟนๆ ชาวไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังประสบความสำเร็จด้วยการสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2560 ด้วยยอดการส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวมถึง 8,344 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีที่ 28% ซึ่งนับเป็นสถิติการส่งมอบในช่วง 10 เดือนแรกที่สูงกว่ายอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยทั้งปี 2559 ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล iPerformance ยังทุบสถิติด้วยยอดส่งมอบรวม 852 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมากถึง 234% ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทำยอดได้ทั้งสิ้น 1,494 คัน หรือเพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา” มร. สเตฟานกล่าว

2018-BMW-X3_42
BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่
ราคาจำหน่าย 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
สุดยอดขุมพลังนวัตกรรมแห่งความสปอร์ต

บีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นที่สามสืบทอดเจตนารมณ์ของรถยนต์รุ่นก่อนหน้าด้วยการผสานรูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสปอร์ต สัดส่วนอันคุ้นตาของตัวรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้รับการออกแบบเพื่อรองรับ การกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลังเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ความปราดเปรียวอันทรงพลังของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ถูกเสริมให้ดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าไตคู่แบบหนา และไฟตัดหมอกแบบหกเหลี่ยมที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X

ชุดแต่ง BMW Individual และ xLine เติมรูปโฉมของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โดยมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลาย Y-spoke ภายในรถเฉียบคมด้วยความแม่นยำในการประกอบอย่างสมบูรณ์แบบและวัสดุคุณภาพเยี่ยม ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ คลาสสิคหรูหรายิ่งกว่ารถรุ่นก่อนหน้า พร้อมยกระดับความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้นกับอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร 6 สี ม่านบังแดดด้านข้างผู้โดยสารตอนหลังแบบอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นมาตรฐานในส่วนเก็บสัมภาระด้วยพนักพิงเบาะหลังแบ่งพับแบบ 40:20:40 และหลังคากระจกแบบพาโนรามาที่เสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โดดเด่นยิ่งกว่า พร้อมอีกหนึ่งอุปกรณ์ใหม่อย่าง BMW Display Key ที่ไม่เพียงล็อคและปลดล็อคบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ด้วยสัญญาณวิทยุทางไกล แต่ยังแสดงสถานะและข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ของรถอีกด้วย

เครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่า ควบคู่การออกแบบเน้นน้ำหนักเบา

บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ทำงานประสานเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Strepsonic เครื่องยนต์อันทรงพลังให้กำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ เร่งเครื่องจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร

เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ถูกนำมาใช้ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการออกแบบทุกสัดส่วนเน้นน้ำหนักเบา เช่น การนำอลูมิเนียมมาใช้เป็นส่วนประกอบมากขึ้นในเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้มากขึ้น

ต่อยอดที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่และระบบควบคุมล้ำสมัย

บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ มาพร้อมกับปุ่มควบคุม iDrive สั่งงานด้วยระบบสัมผัสและจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) ช่วยควบคุมระบบนำทางและฟังก์ชั่นสาระบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะเดียวกัน ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) ซึ่งผู้ขับขี่ใช้ภาษาในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย แทนคำสั่งที่มีการตั้งค่าไว้

All-New BMW 630d GT M Sport_1

BMW 630d GT M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย 4,739,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)

รถยนต์ Gran Turismo รุ่นดั้งเดิมอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 Gran Turismo นั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยการผสมผสานประโยชน์ใช้สอยแบบรอบด้านจากรูปลักษณ์ของตัวถัง เข้ากับความสะดวกสบายและพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ จึงพร้อมมอบประสบการณ์สุด ผ่อนคลายบนทุกเส้นทาง จุดเด่นทั้งหมดนี้ได้ถูกนำมาขัดเกลาและรวบรวมไว้ในรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 6 Gran Turismo ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 Gran Turismo ทั้งในด้านความหรูหราแบบสปอร์ต อุปกรณ์และฟีเจอร์ทันสมัย ระบบการควบคุมและช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยความปราดเปรียวและประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด

เบากว่า สปอร์ตกว่า พร้อมสะดวกสบายและทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ด้วยการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา และการเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมและเหล็กกล้าคุณภาพสูงในส่วนโครงสร้างตัวรถและแชสซี บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ จึงมีน้ำหนักลดลงจากรุ่นก่อนหน้าราว 150 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อนำไปผสมผสานกับคุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเครื่องยนต์ใหม่ที่ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงทำให้บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มีสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่เปี่ยมพลังกว่าที่เคย ทั้งยังประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบที่เป็นหัวใจของบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ เสริมกำลังด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ล้ำสมัย ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic มอบพละกำลังสูงสุดที่ 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 17.7 กิโลเมตรต่อลิตร และ 149 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น

ดีไซน์เน้นย้ำสัดส่วนปราดเปรียวและเส้นสายเรียบหรู

ด้านหน้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างและทรงพลังด้วยเลนส์ไฟหน้า LED ที่ทอดยาวไปจนถึงกระจังหน้ารูปไตคู่ขนาดใหญ่ เมื่อมองจากด้านข้างแล้ว จะเห็นได้ถึงความหรูหราสไตล์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู โดดเด่นด้วยฟีเจอร์คุ้นตาเช่นฝากระโปรงหน้าทรงยาว ห้องโดยสารที่ค่อนไปทางด้านหลังของตัวรถ ประตูที่มาพร้อมกับหน้าต่างแบบไร้กรอบ และแนวขอบหน้าต่างที่ลากยาวไปจนถึงท้ายตัวรถ ส่วนหลังคารถลาดเทลงมาบรรจบกับส่วนท้ายรถในสไตล์โฉบเฉี่ยวแบบรถยนต์คูเป้ ขณะที่ช่วงท้ายรถเองก็มีความสูงลดลง 64 มิลลิเมตร ด้านไฟท้ายออกแบบมาในสไตล์สามมิติ เสริมความโดดเด่นให้น่าค้นหายิ่งขึ้น ชุดแต่ง M Aerodynamics ขับเน้นบุคลิกความสปอร์ตของบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครยิ่งขึ้น

สุดยอดส่วนผสมแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่ ความสะดวกสบายในการเดินทางไกลและประโยชน์ใช้สอย

ภายในรถถูกออกแบบเพื่อเน้นความสะดวกสบายในการควบคุมรถของผู้ขับขี่ พร้อมด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ เบาะที่นั่งยกสูงเปิดมุมมองที่ครอบคลุมทุกทิศทางให้กับผู้ขับขี่ ขณะที่การจัดวางฟังก์ชั่นการควบคุมต่าง ๆ เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์อย่างไร้ที่ติ จึงสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่ได้ถึงขีดสุด เส้นสายต่าง ๆ วัสดุที่ใช้ และความประณีตแม่นยำในการตกแต่ง เสริมความพรีเมียมหรูหราให้กับห้องโดยสารยิ่งขึ้น ส่วนห้องโดยสารด้านหลังของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ ประกอบไปด้วย 3 ที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง

บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ สะดวกต่อการใช้งานด้วยประตูท้ายรถแบบบานเดี่ยวที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เบาะที่นั่งปรับเอนได้แบบ 40:20:40 สามารถพับให้เป็นพื้นราบสำหรับเก็บสัมภาระได้ด้วยปุ่มกดบริเวณพื้นที่กระโปรงท้าย ส่วนฝาปิดช่องเก็บสัมภาระแบบสองชิ้น มาพร้อมกับโครงสร้างแข็งแกร่งทนทาน และสามารถพับเก็บไว้ใต้พื้นกระโปรงท้ายได้

บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมและแสดงผลชั้นเยี่ยม นำเสนอที่สุดแห่งความครบถ้วนในการควบคุมรถยนต์ การนำทาง รวมถึงฟังก์ชั่นการสื่อสารและระบบบันเทิงได้อย่างไม่มีใครเทียบ ด้วยระบบ iDrive ที่เป็นแกนหลักของการสั่งงานรถยนต์รุ่นนี้ ทั้งยังเสริมประสิทธิภาพการใช้งานด้วยระบบสัมผัสบนหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) และระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control)

bmw-ind-m760li-xdrive

BMW M760Li xDrive ใหม่
ราคาจำหน่าย 13,539,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์ในเซกเมนต์ซีดานหรู ด้วยประสบการณ์ นุ่มนวลเหนือระดับในการขับขี่ที่มาพร้อมขีดสุดของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 12 สูบ ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี BMW M Performance TwinPower Turbo ส่งพละกำลังสูงสุด 448 กิโลวัตต์/610 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 1,550-5,000 รอบต่อนาที และด้วยสมรรถนะจากเทคโนโลยีล้ำยุคของ M Performance TwinPower Turbo บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 3.7 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอบพลังแห่งความเร็วควบคู่ไปกับการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic Sport พร้อมระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ

ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่แสดงถึงจิตวิญญาณของความปราดเปรียวแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล M Performance อย่างชัดเจน ชุดแต่ง M Aerodynamics มาพร้อมกับล้ออัลลอย M ลาย Double-spoke ขนาด 20 นิ้ว และสปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M อีกทั้งยังพกพาอุปกรณ์ภายนอกที่โดดเด่นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟสูงเทคโนโลยีเลเซอร์ ระบบช่วยปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก หลังคากระจก Sky Lounge เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและด้านหลัง กล้องแสดงภาพรอบตัวรถ ระบบช่วยการนำรถเข้าที่จอด และฟังก์ชั่นจอดรถด้วยกุญแจรีโมทโดยปราศจากผู้ขับขี่

ดีไซน์ภายในตัวรถบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบีเอ็มดับเบิลยู M Performance ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้ดีไซน์ M พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ paddle shift เบาะนั่งบุด้วยหนังแท้ Merino แบบ comfort ปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งและฟังก์ชั่นนวดผ่อนคลายทั้งตอนหน้าและตอนหลัง คอนโซลและภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาแบบ piano finish

เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูลซีรีส์ 7 รุ่นอื่น ๆ บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ มาพร้อมจอภาพแสดงผลแบบสัมผัสในระบบ iDrive ขนาด 10.25 นิ้ว และระบบสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ หรือ BMW Gesture Control System ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วยเซนเซอร์สามมิติ สามารถใช้สั่งการระบบบันเทิงและการสื่อสารได้อย่างสะดวกและง่ายดาย โดยสามารถใช้ได้กับการควบคุมระดับเสียง และการรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยระบบบันเทิงพร้อมจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ควบคุมด้วยปุ่ม tablet เพลิดเพลินกับความบันเทิงด้วยระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูงจาก Bowers & Wilkins รวมทั้งการเชื่อมต่อและชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

BMW 530i M Sport (3)
BMW 530e M Sport
ราคาจำหน่าย 3,939,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)

BMW 530e Luxury
ราคาจำหน่าย 3,639,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์/ 184 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 290 นิวตันเมตร ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 83 กิโลวัตต์/ 133 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังรวมสูงสุดถึง 185 กิโลวัตต์/ 252 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุดกว่า 420 นิวตันเมตร ด้านอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 55.6 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อย CO2 ที่ 41 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากโหมด SPORT, COMFORT และ ECO PRO ผู้ขับขี่สามารถใช้ eDrive เพื่อเปิดการใช้งานระบบ BMW eDrive ซึ่งช่วยให้ทุกการเดินทางแม่นยำมากขึ้นด้วยอีก 3 โหมดเพิ่มเติม คือ AUTO eDRIVE, MAX eDRIVE และ BATTERY CONTROL สำหรับแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู 530e iPerformance ทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จน้อยกว่า 5 ชั่วโมง หรือหากชาร์จด้วยอุปกรณ์บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์ (16 แอมป์/ 230 โวลท์) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistance) จะทำให้การจอดรถด้วยระบบอัตโนมัติง่ายดายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถแบบแนวขนานหรือเข้าซอง พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเติม โดยในรุ่นนี้ ระบบสามารถจอดรถได้ในพื้นที่จอดที่มีความยาวกว่าตัวรถเพียง 80 เซนติเมตร ช่วยให้การเข้าจอดในพื้นที่จำกัดสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น ระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (ultrasonic sensors) สามารถช่วยค้นหาพื้นที่จอดที่เหมาะสมได้ในขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 35 กม./ชั่วโมง โดยเมื่อพบจุดจอดแล้ว ระบบจะทำการจอดรถเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์ หมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรกโดยอัตโนมัติ และในกรณีที่พื้นที่จอดรถทำมุมกับถนน ระบบจะต้องการพื้นที่ว่างด้านข้างตัวรถเพียงข้างละ 40 เซนติเมตรเท่านั้นในการทำงานแบบอัตโนมัติ

เช่นเดียวกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ รุ่นอื่น ๆ ข้อมูลระบบนำทาง โทรศัพท์ ระบบความบันเทิง และฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวรถ ถูกนำมารวมเข้าไว้กับหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งนอกจากจะควบคุมโดยปุ่ม iDrive Controller ยังสามารถสั่งการด้วยการกดปุ่มบนหน้าจอ หรือด้วยระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) อีกด้วย ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) เสนอการใช้งานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสะดวกสบายในทุกฟังก์ชันด้วยการขยับมือหรือนิ้วมือเท่านั้น

บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport อวดความปราดเปรียวด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วลาย Double-Spoke ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-Up Display) หลังคากระจกเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ขอบหน้าต่างภายนอกตกแต่งแบบ BMW Individual high-gloss พร้อมชุดตกแต่งภายนอก
M Aerodynamics ในขณะเดียวกันบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย W-Spoke ชุดตกแต่งภายนอกแบบ chrome line ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยไม้ในแบบ Fineline Ridge พร้อมแถบโครเมียม เสริมความหรูหราให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

330e Iconic-1020_resize

BMW 330e (Iconic)
ราคาจำหน่าย 2,259,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) เป็นสปอร์ตซีดานพันธุ์แท้ที่ออกแบบมาเพื่อที่สุดแห่งสุนทรียภาพการขับขี่ ประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี iPerformance ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบและเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo ที่ทรงพลัง ส่งกำลังสูงสุดได้ถึง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด
290 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 65 กิโลวัตต์ / 89 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ทำงานประสานกันกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมให้สมรรถนะที่ตอบสนองได้ทันใจในเสี้ยววินาที ทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำเพียง 55.6 กิโลเมตรต่อลิตร และลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 42 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น แต่ยังคงความทรงพลังในสไตล์สปอร์ตด้วยอัตราเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.1 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จให้เต็มประมาณ 3 ชั่วโมง หรือหากชาร์จด้วยอุปกรณ์บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์
(16 แอมป์/ 230 โวลท์) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง

โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตที่สะดุดตา โฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลาย Double-Spoke พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบสปอร์ต ภายในตกแต่งด้วยวัสดุผิวหน้าอลูมิเนียมแต่งลายเส้นทางยาวพร้อมแถบโครเมียม เบาะนั่งปรับไฟฟ้าและระบบจำตำแหน่งสำหรับคนขับ จอภาพขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ทางการเงินจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชี่ยล เซอร์วิสให้เลือกสรร

bmw-3-gt-luxury-jp 1

BMW 320d GT M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ ผสมผสานพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางของรถยนต์สปอร์ต
ซีดานและความจุสัมภาระของรถยนต์อเนกประสงค์ไว้ได้อย่างลงตัว เพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด
400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.7 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 27.0 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่ระดับการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร

ด้วยความยาวของตัวรถ 4,824 มิลลิเมตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport จึงมีมิติความยาวของตัวถังที่ยาวกว่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 รุ่นอื่นๆราว 200 มิลลิเมตร นอกจากนี้ช่องเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ท้ายรถยังมีความจุสูงสุดถึง 1,600 ลิตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่จึงมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอย M Sport ลาย Double-spoke ขนาด 19 นิ้ว และขอบหน้าต่างแบบ High-Gloss Shadow Line พร้อมทั้งเติมเต็มลุคสปอร์ตด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics

ดีไซน์ภายในตัวรถบีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ ประดับคอนโซลด้วยวัสดุ Aluminium ลายHexagon ตัดด้วยเส้นสายสีดำเงาเข้าชุดกับพวงมาลัยหนังแท้แบบ M Sport พร้อมแป้น gearshift paddle อีกทั้งยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ระบบนำทางล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ระบบ
iDrive Touch Controller และฟังก์ชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบบันเทิงและการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Servotronic ระบบไฟหน้า LED ปรับอัตโนมัติ และโหมดการขับขี่ Driving experience Control ต่าง ๆ

MINI John Cooper Works Countryman (1)_resize

Mini JCW Countryman ใหม่
ยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ รถยนต์เอนกประสงค์ พรีเมียม คอมแพ็ค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนจิตวิญญาณรถแข่งโกคาร์ทอันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ระบบช่วงล่าง และชุด aerodynamics ในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 และขุมพลังจากเทคโนโลยี มินิ Twin Power Turbo มอบความเร็วเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 6.5 วินาที ในความเร็วสูงสุด 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,500 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 14.2 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 161 กรัมต่อกิโลเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อมแป้น paddle shift บนพวงมาลัย มอบสมรรถนะรวมเร็วทันใจ ขับขี่ได้คล่องตัวทุกความท้าทายในทุกสภาพท้องถนน

ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ บ่งบอกถึงสมรรถนะความสปอร์ตและความปราดเปรียว ล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Course Spoke ขนาด 19 นิ้ว และเอกลักษณ์จานเบรคสีแดง พร้อมด้วยโลโก้จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และชุด aerodynamics มอบความรู้สึกทรงพลังแก่รถยนต์มินิเจเนอเรชั่นใหม่นี้

ภายในมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ยังพกพาชุดแต่งในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ขนานแท้ที่ทำให้การขับขี่ในวันธรรมดา เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจราวกับอยู่ในสนามแข่ง ด้วยที่นั่งแบบยกสูงและดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง ทั้งพวงมาลัยหนังแท้และเบาะสปอร์ตสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลแม้ระหว่างขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบแสดงผล Head-Up Display อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่โดยแสดงผลข้อมูลต่างๆ โดยไม่รบกวนการมองถนน เสริมสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้ ด้วยความคลาสสิกสไตล์มินิอย่างแท้จริง

BMW-G310GS-TH-Launch_08

BMW G 310 GS
ราคาจำหน่าย 219,000 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่สองต่อจากบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ที่ใช้เครื่องยนต์หนึ่งสูบ 313 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมติดตั้ง 4 วาล์ว 2 แคมชาฟท์ และระบบหัวฉีดน้ำมันแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 28 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที นับได้ว่า บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ สามารถเป็นมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ที่พร้อมออกผจญภัยไปกับผู้ขับขี่ในทุก ๆ วัน

บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ สะท้อนจิตวิญญาณของความเป็น GS อย่างแท้จริงด้วยบังโคลนหน้าแบบสูง เอกลักษณ์ของเส้นสายอันเฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล GS และช่วงท้ายที่สั้นและยกสูง แต่ยังสามารถขับขี่ได้อย่างคล่องแคล่วปราดเปรียวบนทุกเส้นทางด้วยสัดส่วนที่กะทัดรัดและช่วงระยะฐานล้อที่สั้น นอกจากนี้ ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และระบบกันสะเทือนหน้าที่มีขนาดยาว ยังช่วยให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่านั่งหลังตรงที่ผ่อนคลาย พร้อมช่วยในการบังคับทิศทางที่คล่องแคล่วและแม่นยำอีกด้วย

สำหรับระบบช่วงล่างของบีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ มีความคล้ายคลึงกับบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ด้วยเฟรมตัวถังเหล็กกล้า และท้ายรถแบบ bolt-on ที่มีความทนทานและแข็งแกร่ง อันเป็นปัจจัยสำคัญทำให้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้โดดเด่นทั้งในเรื่องของเสถียรภาพในการขับขี่และความแม่นยำในการบังคับทิศทาง นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ ยังพกระบบช่วงล้างล้อหน้าแบบ upside-down fork มาคู่กับระบบช่วงล่างล้อหลังแบบสวิงอาร์มอลูมิเนียมเดี่ยวและสปริงที่ติดตั้งบนสวิงอาร์มโดยตรง

FORD เสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นในงาน Motor Expo 2017

$
0
0

FORD เสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นในงาน Motor Expo 2017
Ford at Motor Expo
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 16 พฤศจิกายน 2560FORD มอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกทุกรุ่น ในงาน Motor Expo 2017 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี

ลูกค้าจะได้พบกับข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายภายในงานและที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ดังนี้

Ford Ranger Wildtrak ดอกเบี้ย 0.99% ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือเลือกดาวน์เพียง 89,999 บาท ผ่อนนาน 72 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
– Ford Ranger Open Cab และ Double Cab XLT และ FX4 ดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
– Ford Ranger Open Cab XL+ ราคาพิเศษ 599,000 บาท หรือดาวน์เพียง 29,000 บาท ผ่อนได้นานสูงสุดถึง84 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
Ford Everest 2.2L Titanium ราคาพิเศษ 1,299,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
Ford EcoSport ทุกรุ่น ดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 60 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
Ford Focus Sport AT ราคาพิเศษ 999,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือโปรแกรมพรีเมียม แคร์ 5 ปี
Ford Fiesta อัตราดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และโปรแกรมพรีเมียม แคร์ 5 ปี

ภายในบูธฟอร์ดจะมีการจัดแสดง Ford Range รถกระบะ “เกิดมาแกร่ง” รุ่นต่างๆ อาทิ Ford Ranger Wildtrak, Ford Range FX4, Ford Range XLT, XL และ XLS ซึ่งได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะ ทั้งยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย

Ford ยังจัดแสดง Ford Everest หนึ่งในรถยนต์ที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุดในตลาดรถเอสยูวีขนาดกลาง ที่สร้างมาให้เหนือกว่า ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่บึกบึน การตกแต่งภายในอย่างเหนือระดับ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน มาพร้อมสมรรถนะในการขับขี่บนทางออฟโรดและให้ความสะดวกสบายบนทางเรียบ

นอกจากนี้ ภายในบูธฟอร์ด ยังมี Ford EcoSport คอมแพคเอสยูวี ที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายและคล่องตัวในการขับขี่ ทั้งยังสามารถพับเก็บเบาะที่นั่งเพื่อการใช้สอยอื่นๆ และช่องเก็บของพิเศษ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและหลากหลายของคนเมือง มอบความคุ้มค่าคุ้มราคา และรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

สำหรับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ซึ่งจะนำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้ ได้แก่ Ford Focus ที่มาพร้อมเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ เทอร์โบ และ Ford Fiesta โดยรถยนต์ทั้งสองรุ่นล้วนโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเหนือชั้นและรูปทรงอันทันสมัย

1

เอาด้วย! แดนกังหันแบน “รถพลังงานเบนซิน+ดีเซล”เช่นกันภายในปี 2030

$
0
0

เอาด้วย! แดนกังหันแบน “รถพลังงานเบนซิน+ดีเซล” เช่นกันภายในปี 2030
The-Netherlands-Ban
หลังจากก่อนหน้านี้ทีมงานของเราเพิ่งจะนำเสนอข่าวคราวการแบนรถพลังงานดีเซลและเบนซินของเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศสไปนั้น ล่าสุดรัฐบาลของประเทศฮอลแลนด์ (เนเธอแลนด์) ก็เอาด้วยเช่นกันในการดำเนินการนโยบายการแบนรถพลังงานดีเซลและเบนซินภายในช่วงปี 2030 ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายอย่างต่อเนื่องเพื่อลดมลภาวะและก๊าซ Co2 ที่เกิดขึ้นในประเทศ

ภายในช่วงปี 2030 ที่จะถึงนี้ทีมงานพัฒนาของรัฐบาลประเทศเนเธอแลนด์ตั้งเป้าว่าจะลดก๊าซ Co2 (คาร์บอนไดออกไซด์) ในชั้นบรรยากาศของพวกเขาลงทั้งสิ้นประมาณ 49% เมื่อเทียบมาตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา โดยหนึ่งในมาตรการนั้นก็ได้แก่การดำเนินการนโยบายการแบนรถพลังงานดีเซลและเบนซินภายในช่วงปี 2030 นี้ด้วยเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้

นั่นทำให้ประเทศฮอลแลนด์ เป็นประเทศล่าสุดที่ทำการดำเนินการนโยบายการแบนรถพลังงานดีเซลและเบนซินภายในช่วงปี 2030 ต่อจากประเทศฝรั่งเศสและประเทสอังกฤษ (ภายในปี 2040) นอกจากนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาในรัฐใหญ่อย่างรัฐ California ก็จะได้ทำการดำเนินนโนบายนี้เช่นกันเพื่อลดมลภาวะของเมืองใหญ่

สำหรับปัจจุบันนี้ในประเทศฮอลแลนด์ (เนเธอแลนด์) นั้นมีรถใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (Electric) แล้วทั้งสิ้นประมาณ 6.4 % ซึ่งยอดขายรถแบบพลังงานไฟฟ้านั้นเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากปี 2016 ถึง 47% ด้วยกัน

1234

Seat เอาจริงเตรียมพัฒนารถแบบ SUV Model รุ่นใหม่ภายในปี 2020

$
0
0

Seat เอาจริงเตรียมพัฒนารถแบบ SUV Model รุ่นใหม่ภายในปี 2020
seat-20V20-livepics
Seat ค่ายรถชื่อดังนั้นล่าสุดได้เปิดตัวโปรเจคต์ระยะยาวของพวกเขาแบบใหม่ออกมาแล้วในการเปิดตัวรถแบบ SUV Coupe model รุ่นใหม่ โดยมีกำหนดการพัฒนาให้ได้ภายในช่วงปี 2020 ซึ่งคนดูแลโปรเจคต์ล่าสุดนั้นคือ Matthias Rabe หัวหน้าทีมพัฒนา R&D ของพวกเขานั่นเอง

สำหรับรถแบบใหม่ที่เป็นรถแบบ SUV Model นั้นทางตัวของ Matthias Rabe ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาจะใช้ต้นแบบดีไซน์ที่จะมีชื่อเรียกว่ารถอย่าง 20V20 Concept ที่เคยออกมาแล้วในตัวต้นแบบเมื่อปี 2015 และนำไปใช้ในโครงการอย่าง Ateca รถที่ขายอยู่ในปัจจุบันนี้ของทางแบรนด์อย่าง SEAT อีกด้วย

โดยรถแบบใหม่นั้นพวกเขาตั้งใจจะใส่เครื่องยนต์แบบพลังงานไฮบริด (plug-in hybrid) เพิ่มเติมเข้าไปให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยมันจะพัฒนาประสิทธิภาพทั้งในส่วนของกำลังที่มากขึ้นกว่าเดิม, ระยะทางในการเดินทางที่มากขึ้นกว่าเดิมและประหยัดพลังงานมากขึ้น (ระบบ Hybrid รุ่นใหม่ที่พัฒนาออกมาใหม่)

ล่าสุดสื่ออย่างทาง Autocar ได้นำเสนอว่าแบรนด์อย่างทาง Seat นั้นเพิ่งจะเปิดตัวรถแบบ Seat Arona ไปได้ไม่นานโดยทาง Luca De Meo หัวหน้าฝ่ายบริหารชาวสเปนของพวกเขาเป็นผู้ดูแลโปรเจคต์นี้อย่างใกล้ชิด แต่จะตีตลาดรถดังๆ ทางด้าน SUV ในตลาดโลก เช่น Porsche Macan เป็นต้น

1
2
3

ไอเดียดี! Ford เปิดราคาเปลี่ยนสีรถของ “GT Supercar 2017″เริ่มต้นที่ 30,000 ดอลล่าร์สหรัฐ

$
0
0

ไอเดียดี! Ford เปิดราคาเปลี่ยนสีรถของ “GT Supercar 2017” เริ่มต้นที่ 30,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
Ford-GT-Custom-Colors
เป็นข่าวดีของคนมีรถสปอร์ตแบบ GT Supercar 2017 เลยทีเดียวหลังล่าสุดแบรนด์อย่างทาง Ford Motors ของประเทศสหรัฐอเมริกานั้นล่าสุดได้ทำการประกาศราคานโยบายของการเพ้นท์สีรถแบบ GT Supercar 2017 ของพวกเขาแล้วให้มีสีสันที่สวยงามแตกต่างจากเดิมออกไปไม่ซ้ำซากจำเจ

สำหรับรถสปอร์ตแบบ GT Supercar 2017 นั้นหากใครเบื่อๆ สามารถนำรถเข้าไปเปลี่ยนสีกับทางทีมงานช่างของ Ford ได้ในสีที่คุณต้องการ (ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการออกแบบลายและสีสันต่างๆ) โดยทาง Ford Authority นั้นจะคิดราคาแค่ 30,000 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้นต่อครั้ง

อย่างไรก็ตามการเพ้นท์สีรถแบบใหม่ของพวกทีมงาน Ford Authority นั้นมีราคาแพงเป็นอย่างมาก แต่สีของพวกเขาก็ออกแบบดีไซน์มาได้อย่างน่าพอใจ เช่น สีเขียวสดใสของทางทีมงาน Porsche ที่นิยมใช้ในรถสปอร์ตรุ่นหลังๆ, สีรถแบบ Orange GT (ส้ม GT) สดใส และ Verde Mantis ซึ่งเป็นโทนสีฟ้าสะอาดตา เป็นต้น

ในส่วนของการตกแต่งนั้นทีมงานของพวกเขา เคยเพ้นท์สีโทนแบบ ‘Beryllium Orange’ GT (ส้มสนิม) ให้กับทางโชว์รูมอย่างเป็นทางการของพวกเขาอย่าง Arkansas dealer Elite Autos LLC. มาแล้ว รวมไปถึงรถแบบ Riviera Blue GT (ฟ้าน้ำทะเล) ที่ออกแบบมาจากรถของ Porsche แบรนด์คู่แข่ง

35421

ผู้บริหาร Triumph อังกฤษ เยี่ยมชมโชว์รูม “Triumph World Standard”

$
0
0

ผู้บริหาร Triumph อังกฤษ เยี่ยมชมโชว์รูม “Triumph World Standard”

Triumph=PR

มร.พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด (ที่ 4 จากซ้าย) นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย) นายอรรถพงษ์ สกุลศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทรอัมพ์ พระราม 5 จำกัด (ที่ 5 จากซ้าย) ร่วมเยี่ยมชมโชว์รูมและศูนย์บริการ ไทรอัมพ์ พระราม 5 อันประกอบไปด้วย โชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายแบบครบวงจรที่ได้มาตรฐาน “ไทรอัมพ์ เวิลด์ สแตนดาร์ด” เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการไทรอัมพ์ พระราม 5 กรุงเทพฯ


Ford Thailand จับมือ Everest Club Thailand และผู้จำหน่าย จัดกิจกรรม “Ford Everest Charity Trip ครั้งที่ 1 ทำดีให้พ่อดู ต่อลมหายใจ สู่เพื่อนผู้ห่างไกล” พร้อมคาราวานรถ Ford Everest ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

$
0
0

Ford Thailand จับมือ Everest Club Thailand และผู้จำหน่าย จัดกิจกรรม “Ford Everest Charity Trip ครั้งที่ 1 ทำดีให้พ่อดู ต่อลมหายใจ สู่เพื่อนผู้ห่างไกล” พร้อมคาราวานรถ Ford Everest ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
Ford
กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 17 พฤศจิกายน 2560 – FORD THAILAND ร่วมกับ EVEREST CLUB THAILAND, FORD MW นครอินทร์-ราชพฤกษ์ และ FORD F นครสวรรค์ จัดกิจกรรม “Ford Everest Charity Trip ครั้งที่ 1 – ทำดีให้พ่อดู ต่อลมหายใจ สู่เพื่อนผู้ห่างไกล” นำขบวนคาราวาน FORD EVEREST ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดรวม 72 คันพร้อมสมาชิกและครอบครัวกว่า 200 คน ร่วมทำความดีสานต่อพระราชปณิธาณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงพยาบาลแม่วงก์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์

“กิจกรรม Ford Everest Charity Trip ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้มีพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงต่อพสกนิกรชาวไทย ในการทำความดีเพื่อผู้อื่นและสังคม โดยฟอร์ด ประเทศไทย ได้ร่วมกับ EVEREST CLUB THAILAND ฟอร์ด เอ็มดับบลิว นครอินทร์-ราชพฤกษ์ และฟอร์ด เอฟ นครสวรรค์ พร้อมด้วยสมาชิกคลับและครอบครัว ร่วมกันบริจาคเครื่องช่วยหายใจ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า AED เครื่องผลิตออกซิเจน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่โรงพยาบาลแม่วงก์ขาดแคลน รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมอบให้กับชาวบ้านในชุมชนแม่วงก์ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,120,000 บาท โดยมีนายแพทย์ประวิทย์ สายคุณากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่วงก์ และนายอาคม แย้มนวล นายอำเภอแม่วงก์ เป็นตัวแทนรับมอบอุปกรณ์การแพทย์ เรามีความยินดีที่ได้ร่วมกับกลุ่มลูกค้าของเรา ในการทำความดีเพื่อผู้คนในเขตพื้นที่ห่างไกลที่ต้องการความช่วยเหลือ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่และเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาบริการทางการแพทย์ให้กับชุมชนได้ดียิ่งขึ้น” นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

“ผมและสมาชิกคลับ มีความอิ่มเอมใจกับกิจกรรมเพื่อสังคมในครั้งนี้ เราตระหนักดีว่าสุขภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกคน พวกเราทุกคนจึงได้ร่วมกันบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการทำความดีเพื่อผู้อื่นและสังคม และผมเชื่อมั่นว่าในปีต่อๆ ไป เราจะมีขบวนคาราวานครอบครัวฟอร์ด เอเวอเรสต์ที่มาร่วมทำความดีมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ” คุณจีระพงษ์ เจรียงโรจน์ ประธาน EVEREST CLUB THAILAND กล่าว

กิจกรรมในครั้งนี้นำโดย ลูกค้าฟอร์ด เอเวอเรสต์จาก EVEREST CLUB THAILAND ทีมงานฟอร์ด ประเทศไทยและผู้จำหน่ายกว่า 200 ท่าน ร่วมขบวนคาราวานรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดถึง 72 คัน โดยเริ่มต้นจาก ศูนย์ฟอร์ด เอ็มดับบลิว นครอินทร์-ราชพฤกษ์ ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อร่วมบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น แก่โรงพยาบาลแม่วงก์และชุมชน หลังจากนั้น สมาชิก EVEREST CLUB THAILAND และครอบครัว พร้อมด้วยพนักงานฟอร์ด ได้ร่วมกันบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอีกด้วย

“ฟอร์ด ประเทศไทย ขอขอบคุณคุณจีระพงษ์ เจรียงโรจน์ ประธาน EVEREST CLUB THAILAND และสมาชิกครอบครัวฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกท่านที่เป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมในครั้งนี้ รวมถึงฟอร์ด เอ็มดับบลิว นครอินทร์-ราชพฤกษ์ และฟอร์ด เอฟ นครสวรรค์ เราได้เห็นพลังที่ยิ่งใหญ่และมิตรภาพของครอบครัวฟอร์ด เอเวอเรสต์ที่อบอุ่น ที่ร่วมแรงร่วมใจมอบสิ่งดีๆ สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับชุมชนแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีโอกาสได้ร่วมจัดกิจกรรมที่มีคุณค่าให้กับทั้งลูกค้าและสังคมไทยในครั้งต่อๆ ไป” นางสาวศุภรางศุ์ กล่าวเสริม

1234567891011

ยิ่งใหญ่ในรอบ 2 ทศวรรษ แข่งรถ Honda ประหยัดเชื้อเพลิง ครั้งที่ 20 สุดคึกคัก 470 ทีมจากทั่วประเทศร่วมลงสนามดวลความเก่ง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ พร้อมคว้าสิทธิ์ร่วมชิงชัยระดับนานาชาติ

$
0
0

ยิ่งใหญ่ในรอบ 2 ทศวรรษ แข่งรถ Honda ประหยัดเชื้อเพลิง ครั้งที่ 20 สุดคึกคัก 470 ทีมจากทั่วประเทศร่วมลงสนามดวลความเก่ง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ พร้อมคว้าสิทธิ์ร่วมชิงชัยระดับนานาชาติ

Honda Eco PR

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย จุดพลังฝันให้เด็กไทยเติบโตสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ ด้วยการสานต่อกิจกรรมที่มีมากว่า 2 ทศวรรษกับการแข่งขัน “ฮอนด้ าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage challenge ครั้งที่ 20 ประจำปี 2560 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีวศึกษาแ ละอุดมศึกษา ได้แสดงความสามารถในการออกแบบแล ะประดิษฐ์ยานพาหนะที่ประหยัดน้ำ มันเชื้อเพลิงมากที่สุด ซึ่งในปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขั นทั้งสิ้น 470 ทีมจากทั่วประเทศ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอ ร์กิต จ.บุรีรัมย์

นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมในความตั้ งใจจริงของ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาข องเยาวชน ให้เรียนรู้จากภาคปฏิบัตินอกหลั กสูตรพร้อมทั้งเป็นการสร้างจิ ตสำนึกที่ดีด้านการอนุรักษ์พลั งงาน และการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ดีในการตอ บสนองนโยบายของภาครัฐกิจกรรมการ แข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง นอกจากจะเป็นการสนับสนุน ให้เยาวชนของชาติ ได้พัฒนาความรู้และทักษะในการคิ ดค้นและประดิษฐ์ยานยนต์ประหยัดพ ลังงานเชื้อเพลิงแล้ว ยังเป็นการแสดงออกซึ่งความคิดใน เชิงสร้างสรรค์ อันเป็นการฝึกฝนเพื่อให้เกิดพัฒ นาการทางด้านความคิด ซึ่งผมรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่าง ยิ่งที่ได้ทราบว่า มีนักศึกษาเข้าร่วมการแข่งขั นเป็นจำนวนมาก ถือเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการแ ข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จเ ป็นอย่างสูง ในการที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย

ด้านนายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ภายใต้โครงการ เอ.พี. ฮอนด้าจุดพลังฝัน ที่มีความตั้งใจสร้างเยาวชนไทย สู่การเป็นวิศวกรคุณภาพ โดยพัฒนาศักยภาพ ทางด้านทักษะวิศวกรรมยานยนต์ ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกรักษ์ พลังงาน ตามรอยพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาอย่างต่อเนื่ องเป็นปีที่ 20

“สำหรับในปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่ จัดการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงมาเป็นปีที่ 20 ในระยะเวลา 2 ทศวรรษของการแข่งขันฯ เรายังคงยกระดับกิจกรรมให้เกิดป ระโยชน์ต่อเยาวชนสูงสุด ด้วยการส่งเสริมให้ผู้เข้าแข่ งขันทำการออกแบบและประดิษฐ์ตัวรถแข่งด้วยตนเอง ซึ่งกติกานี้จะทำให้ทุกทีมได้ เรียนรู้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ทั้งเรื่องการดีไซน์รถตามหลักอา กาศพลศาสตร์ การเลือกใช้วัสดุต่างๆ รวมถึงการศึกษาการทำงานเชิงลึกข องเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ไปจนถึงการวางแผนการวิ่งในสนา ม ทั้งหมดนี้จะส่งผลดีในแง่ของการ วิจัยและพัฒนา เกิดเป็นโนว์ฮาวใหม่ๆ ของแต่ละสถาบัน และจะทำให้เยาวชนได้พัฒนาความสา มารถ และ เปิดโอกาสให้ได้รู้จักการทำงานเ ป็นทีม ซึ่งส่งผลดีต่อวงการอาชีวะและวิ ศวกรรมยานยนต์ของไทยในอนาคต ในปีนี้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งหมด 470 ทีมซึ่งถือว่าได้รับความสนใจจากเยาวชนและสถานศึกษา เป็นอย่างมาก”

สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อ เพลิง Honda Eco Mileage Challenge จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วยประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด โดยในประเภทรถประดิษฐ์จะแบ่งออก เป็น 3 ระดับ ได้แก่ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป กำหนดกติกาให้รถทุกคันใช้ตัวถัง ที่มาจากการประดิษฐ์ขึ้นเองเท่า นั้น และติดตั้งเครื่องยนต์ระบบหัวฉี ด PGM-Fi ที่ฮอนด้าให้การสนับสนุ น ส่วนในประเภทรถตลาด จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแ ข่งขันได้โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอ นด้าเวฟ110i ฮอนด้าซีแซดไอ และ ฮอนด้าดรีม110i โดยสามารถปรับแต่ งเครื่องยนต์ได้ตามกติกาที่กำหน ดไว้ และลงแข่งขันโดยในปีนี้กำหนดให้ ใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ E20 จากเดิมที่ใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ 91 ซึ่งเป็นการประหยัดพลังงานอี กทางหนึ่ง และเปลี่ยนแปลงอัตราความเร็วเฉลี่ยให้เป็นไม่น้อยกว่า 30 กิโลเมตร /ชั่วโมงขึ้นไป จากเดิมกำหนดไว้ความเร็วเฉลี่ยไ ม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขึ้นไป ทำให้การแข่งขันดูมีความสนุกเร้าใจมากขึ้น

ซึ่งทีมชนะเลิศสถิติสูงสุด จะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันรถปร ะหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติรา ยการ Honda Soichiro Cup ครั้งที่ 38 ในปี 2018 ที่ป ระเทศญี่ปุ่น

อย่างงาม! ชมก่อนใครรถสปอร์ตแบบ “Ford Mustang GT 2018″รถในฝันของหนุ่มๆ พร้อมยางระดับเทพของ Michelin

$
0
0

อย่างงาม! ชมก่อนใครรถสปอร์ตแบบ “Ford Mustang GT 2018” รถในฝันของหนุ่มๆ พร้อมยางระดับเทพของ Michelin
Ford-Mustang-V8-GT-Performace-Pack
นอกเหนือจากพลังงานของเครื่องยนต์, ความสวยงามของรถที่ยอดเยี่ยม, ดีไซน์อันล้ำสมัยของรถสปอร์ตในยุคสมัยปัจจุบันแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ “ความปลอดภัย” ของตัวรถนั่นเอง โดยหนึ่งในอุปกรณ์ของตัวรถที่สำคัญนั้นก็คือยางรถยนต์และล่าสุดรถสปอร์ตแบบ “Ford Mustang GT 2018” ก็ได้โชว์ถึงความสำคัญข้อนั้นออกมาแล้วในการใช้ยางระดับสูงของตัวรถ

โดยทีมงานของพวกเขาเลือกใช้ยางคุณภาพสูงของทาง Michelin เข้ามาใช้กับรถรุ่นนี้เพื่อให้มันมีความปลอดภัยมากขึ้นจากการใช้ความเร็วรถสูงๆ โดยเจ้ารถสปอร์ตแบบ Ford Mustang GT 2018 คันนี้นั้นก็อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่แล้วว่าทำความเร็วได้มากกว่ารถแบบ Ferrari GTC4 Lusso และ Mercedes-AMG E63 เสียอีก ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยของมันจึงจำเป็นเอามากๆ

และล่าสุดพวกเขาก็จะได้นำยางคุณภาพสุงของทาง Michelin Pilot Sport 4 S มาใช้งาน โดยมันเคยผ่านการใช้งานมาจากรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ เช่น Ford GT และ Shelby GT350 มาแล้ว โดยเจ้ารถสปอร์ตแบบ Mustang GT 2018 จะมาพร้อมกับล้อแม็กซ์ขนาดรอบวง 19 นิ้วและยางขนาดความหนา 255 มิลทางด้านหน้าและ 275 มิลลิเมตรทางด้านหลัง

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวยางสำหรับฤดูร้อน (summer tires) ในขนาดรอบวง 235/50R18 (ยางปกติขนาด 255/40R19) โดยเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของชุดแต่งแบบ “Performance Package” ในราคาขายเพิ่มทั้งสิ้น 3,995 ดอลล่าร์สหรัฐ พร้อมกับการอัพเกรดระบบช่วงล่างเพิ่มเติม, ระบบเบรคกันไถลที่ยอดเยี่ยมมากขึ้นและส่วนประกอบอื่นๆที่พัฒนามากกว่าเดิม

123456

อย่างงาม! รถสปอร์ต “Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse”สีฟ้าสดแบบแต่งจัดเต็มถูกนำมาขายทอดตลาด

$
0
0

อย่างงาม! รถสปอร์ต “Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse” สีฟ้าสดแบบแต่งจัดเต็มถูกนำมาขายทอดตลาด
Bugatt-Veyron-Vitesse
เป็นระยะเวลามานานกว่า 18 เดือนแล้วหลังจากที่แบรนด์อย่าง Bugatti นั้นเปิดตัวรถสปอร์ตแบบ “Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse” รุ่นใหม่นั้นเปิดตัวออกมาในตลาดโลก และทำให้เราพบว่ามีรถมากมายที่ถูกแต่งดีไซน์จากแบรนด์ค่ายแต่งรถต่างๆทั่วโลก

และล่าสุดนั้นรถสปอร์ตแบบ “Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse” มือสองคันหนึ่งได้ถูกเปิดตัวการขายออกมาแล้วด้วยราคาทั้งสิ้น 1.89 ล้านดอลล่าร์สหรัฐจากทางแบรนด์แต่งอย่าง “iLusso” ซึ่งมันจะมาพร้อมกับออฟชั่นแบบจัดเต็มเลยทีเดียว

ทีมงานของ iLusso นั้นจัดเต็มเป็นอย่างมากด้วยการเพ้นท์สีฟ้าสดใสบนตัวถังเดิมของรถ, ใส่โลโก้ขนาดใหญ่บริเวณฝากระโปรงของตัวรถ, เบาะสปอร์ตรองนั่งภายในที่มาพร้อมกับโทนสีแบบฟ้า-ดำ, นำลุคการแต่งแบบสปอร์ตของรถแบบ Bugatti Chiron มาใช้ และปิดท้ายด้วยการสลักชื่อของเจ้าของรถบนตัวถังรถนั่นเอง

ปิดท้ายด้วยภาพสวยๆ ของรถสปอร์ตแบบ “Bugatti Veyron” คันนี้ว่าจะสวยงามแค่ไหน โดยเจ้ารถสปอร์ตแบบ Hypercar คันนี้นั้นจะถูกขายเพียงแค่ราคา 1.9 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยประมาณเท่านั้น ซึ่งนับว่าคุ้มค่าเหมือนกันสำหรับหนึ่งในรถสปอร์ตที่หายากและมีความเร็วที่สุดในโลกคันนี้

123456789101112131415

Yamaha R-SERIES แรงต่อเนื่อง ผงาดครองโพเดี้ยมศึกชิงแชมป์ประเทศไทย สนาม 8 คลาส 150 ซีซี และ 300 ซีซี

$
0
0

Yamaha R-SERIES แรงต่อเนื่อง ผงาดครองโพเดี้ยมศึกชิงแชมป์ประเทศไทย สนาม 8 คลาส 150 ซีซี และ 300 ซีซี

Yamaha-PR

ทัพนักบิดยามาฮ่าโชว์ฟอร์มสุดแกร่ง นำรถแข่งตระกูล R-SERIES คว้าชัยชนะผงาดยืนโพเดี้ยมสูงสุดได้อย่างร้อนแรงในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยประจำปี 2017 รายการ FMSCT Thailand Road Race Championship 2017 สนามที่ 8

โดยรุ่น Production 300 ซีซี อนุภาพ ซามูล #500 นักแข่งจาก YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่ลงแข่งขันในสังกัดทีม YAMAHA ป๊อบตลาดน้อย กระชากคันเร่งรถแข่ง YAMAHA YZF-R3 ทะยานนำแบบม้วนเดียวคว้าชัยชนะอันดับ 1 รุ่น Production 300 cc ได้สำเร็จ อันดับที่ 2 คณาทัต ใจมั่น #90 ทีม Yamaha Hi speed และอันดับที่ 3 พีรพงศ์ บุญเลิศ นักแข่ง #39 นักแข่งจาก YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่ลงแข่งขันในสังกัด YAMAHA โก๋ ท่ามะกา ส่งผลให้รถแข่งตระกูล R-SERIES ครองโพเดี้ยมได้ทุกตำแหน่งในรุ่นนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่

ส่วนในรุ่น Production 150 cc คณาทัต ใจมั่น #90 ทีม YAMAHA Hi speed บิดคันเร่งรถแข่ง YAMAHA YZF-R15 ผงาดครองโพเดี้ยมอันดับที่ 1 ด้วยการเฉือนชนะ จิรกิตติ์ ธีรานุพงษ์ จากทีม YAMAHA ป๊อบ ตลาดน้อย ไปได้แบบสุดมันส์ ส่งให้ท๊อปโพเดี้ยมอันดับ 1-2 ตกเป็นของรถแข่งตระกูล R-SERIES อีกครั้ง

สำหรับการแข่งขันรายการ FMSCT Thailand Road Race Championship 2017 ยังเหลือการเก็บคะแนนอีก 2 สนาม ซึ่งจะจัดขึ้น ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี จ.นครปฐม

คะแนนสะสมประจำปี รายการชิงแชมป์ประเทศไทย (8 สนาม)

รุ่น Production 300 cc
1. คณาทัต ใจมั่น 51 คะแนน
2. อนุภาพ ซามูล 50 คะแนน
3. ประวัติ ญาณวุฒิ 47 คะแนน

รุ่น Production 150 cc
1. คณาทัต ใจมั่น 135 คะแนน
2. จิรกิตติ์ ธีรานุพงษ์ 124 คะแนน
3. ไพฑูรย์ นาคทอง 103 คะแนน

Royal Enfield จัดโปรโมชั่นต้อนรับมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017 ดาวน์เริ่มต้น 0% พร้อม Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 ธันวาคม 2560

$
0
0

Royal Enfield จัดโปรโมชั่นต้อนรับมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017 ดาวน์เริ่มต้น 0% พร้อม Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 ธันวาคม 2560

Royal-Enfield-Classic-500-Desert-Storm_51

Royal Enfield รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคขนาดกลางสายพันธุ์อังกฤษ ที่มียอดขายเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก เอาใจไบค์เกอร์ที่อยากเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันใหม่ จัดโปรโมชั่นต้อนรับมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017 ฟรีค่าจดทะเบียน เมื่อซื้อรถเงินสดหรือผ่อนดาวน์เริ่มต้น 0% พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท เพื่อนำมาแลกรับสินค้าหรือชุดแต่งพิเศษสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์รุ่นต่างๆ ตั้งแต่วันนี้ – 11 ธันวาคม 2560
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีไฮไลท์เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สองสีใหม่จากรุ่นคลาสสิคยอดนิยมอย่าง “รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิค สเตลท์ แบล็ค” (Royal Enfield Classic Stealth Black) และ “รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิค กันเมทัล เกรย์” (Royal Enfield Classic Gunmetal Grey) พร้อมสิ้นสุดการรอคอยสำหรับมอเตอร์ไซค์ รุ่น หิมาลายัน (Himalayan) ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย โดยจะมีการเปิดราคาและเปิดให้จองอย่างเป็นทางการภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017
นอกจากนี้ ทางรอยัล เอนฟิลด์ ยังมีการนำสินค้าและอุปกรณ์ในการขับขี่ต่างๆ มาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ โดยมีส่วนลดสูงสุดถึง 60% อีกทั้งยังมีของสมนาคุณพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคของรอยัล เอนฟิลด์ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2560 ณ บูธรอยัล เอนฟิลด์ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เท่านั้น
รายละเอียดสินค้าและชุดแต่งพิเศษสำหรับมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ รุ่นต่างๆ
ที่สามารถแลกรับด้วย Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017

1. รอยัล เอนฟิลด์ บุลเล็ต (Royal Enfield Bullet)
เลือกรับสินค้าแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ อาทิเช่น เสื้อผ้า อะไหล่ ของแต่งรถหลากหลายรายการ หรือ เลือกรับท่อแต่ง Full Exhaust System จากราคาปกติ 10,650 บาท

2. รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิค (Royal Enfield Classic)
เลือกรับสินค้าแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ อาทิเช่น เสื้อผ้า อะไหล่ ของแต่งรถหลากหลายรายการ หรือ เลือกรับแพ็คเกจชุดแต่งสุดคุ้ม 2 สไตล์
-Performance Package คงความดั้งเดิมและเพิ่มความดุดัน ด้วยท่อ Slip-on และโช้คหลังปรับค่ารีบาวน์ได้จาก YSS จากราคาปกติ 13,380 บาท
-Cool Package เพิ่มความสะดวกสบาย กับอุปกรณ์เสริมอย่าง Break lever, ปลอกแฮนด์, เบาะซ้อนเสริม และท่อ Slip-on จากราคาปกติ 13,152 บาท

3.รอยัล เอนฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที (Royal Enfield Continental GT)
เลือกรับสินค้าภายใต้แบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ อาทิเช่น เสื้อผ้า อะไหล่ ของแต่งราคาพิเศษ ทั้งมือเบรก, มือคลัชท์, กระจกติดปลายแฮนด์, บังโคลนหน้า, แผงคอบน-ล่าง, ท่อ Full System และอื่นๆ อีกมากมาย
###

ทั้งงามทั้งแรง! พาชม “Subaru BRZ STI Sport”รุ่นใหม่ล่าสุดในญี่ปุ่นเป็นที่แรก

$
0
0

ทั้งงามทั้งแรง! พาชม “Subaru BRZ STI Sport” รุ่นใหม่ล่าสุดในญี่ปุ่นเป็นที่แรก
Subaru-BRZ-STI-Sport
ล่าสุดในงานใหญ่ระดับโลกของประเทศญี่ปุ่นอย่างงาน Tokyo Motor Show นั้นได้มาพร้อมกับการเปิดตัวรถแบบ “Subaru BRZ STI Sport” รุ่นใหม่ออกมาแล้ว โดยมาพร้อมกับชุดแต่งแบบต่างๆ ของพวกเขาแต่อย่างไรก็ตามนั้นจะไม่มีการอัพเดทเครื่องยนต์แบบใหม่อย่าง turbocharger แต่อย่างใด

สำหรับการตกแต่งเพิ่มเติมนั้นจะมาพร้อมชุดแต่งแบบพิเศษของทางทีมงานอย่าง Subaru Motors เท่านั้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นนี้เป็นอย่างมาก เช่น พวงมาลัยรูปแบบสปอร์ตเต็มระดับ, ล้อแม็กซ์อัลลอยด์ขนาดใหญ่ 18 นิ้วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปิดท้ายด้วยอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมที่ออกแบบมาสวยงามเข้ากับตัวรถเป็นอย่างมาก

ในส่วนของการออกแบบนั้นจะมาพร้อมกับสีภายนอกแบบสีเทาพิเศษ (Cool Grey Khaki) พร้อมกับกระจังหน้าแบบทรง V-Shape, ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมพอสมควร และการปรับปรุงระบบการบังคับรถให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ปิดท้ายด้วยรถแบบสปอร์ตอย่างเจ้า Subaru BRZ STI Sport ที่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดทั้งสิ้น 2.0 ลิตรแบบใหม่ที่จะทำกำลังได้ทั้งสิ้น 197 แรงม้าโดยประมาณ

1234


จัดไป! ทีมงานอย่าง Subaru พร้อมเปิดตัว “WRX STI S208″ให้กำลัง 324 แรงม้า !!!

$
0
0

จัดไป! ทีมงานอย่าง Subaru พร้อมเปิดตัว “WRX STI S208” ให้กำลัง 324 แรงม้า !!!
Subaru-WRX-STI-S208-Special-Edition
ค่ายรถอย่าง Subaru จากประเทศญี่ปุ่นนั้นยังคงเดินหน้าในส่วนของการเปิดตัวออกแบบรถรุ่นใหม่ โดยล่าสุดนั้นจะมาพร้อมกับรถแบบ “WRX STI” รุ่นใหม่ที่เป็นโฉมแต่งแบบ “S208 Special Edition” สุดสปอร์ตสวยงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่เปิดตัวออกมาโดยเฉพาะในประเทศบ้านเกิดเท่านั้น

สำหรับรถแบบ Subaru WRX STI S208 Special Edition นั้นจะมาพร้อมกับแรงบันดาลใจในการออกแบบของรถอย่าง STI Type RA NBR Special ที่เป็นรถแบบพิเศษ Limited Edition โดยมันยืนยันว่าจะมีการเปิดตัวแค่ 450 คันเท่านั้นในตลาดโลก (ส่วนมากนั้นจะเปิดตัวขายในประเทศญี่ปุ่น)

ในส่วนของกำลังขับเคลื่อนนั้นมันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบ turbocharged (เทอร์โบชาร์จ) 4 สูบให้กำลังทั้งสิ้น 324 แรงม้า ซึ่งเพิ่มมากขึ้นกว่ารถแบบ STI models ประมาณ 28 แรงม้าโดยประเทศ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบ Bilstein, พวงมาลัยแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบและปิดท้ายด้วยการปรับปรุงระบบช่วงล่างด้านท้ายเล็กน้อย

รถโฉมพิเศษแบบ “S208 Special Edition” นั้นจะมาพร้อมกับล้อแม็กซ์ขนาด 19 นิ้ว, ระบบสปอยเลอร์เพิ่มอากาศพลศาสตร์ทางด้านหลัง, สีภายนอกแบบ World Rally Blue Pearl (ฟ้ามุก) และ Crystal White Pearl (ขาวมุก) รวมไปถึงรถแบบ Cool Grey Khaki(เทาฟ้า) อันสวยงามเป็นเอกลักษณ์

1234

Lexus จัดให้มาพร้อมกับออฟชั่นแบบ “Black Panther”ฮีโร่สุดแกร่งอย่างทาง Marvel

$
0
0

Lexus จัดให้มาพร้อมกับออฟชั่นแบบ “Black Panther” ฮีโร่สุดแกร่งอย่างทาง Marvel
Lexus_LC_Black_Panther_Inspired
Lexus แบรนด์รถชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นนั้นล่าสุดจะมาพร้อมกับความร่วมมือกับทีมงานของ Marvel Studios จากประเทศสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว ในรุ่นแบบ LC Model ในรูปแบบการแต่ง “Black Panther” ที่เป็นรถแบบพิเศษ (Limited Edition) โดยเฉพาะที่เพิ่งจะทำการดีไซน์เปิดตัวไปได้ไม่นานนี้เอง

รถรุ่นพิเศษแบบ “Black Panther Inspired Lexus LC” นั้นจะมาพร้อมกับลายเพ้นท์สวยงามแบบใหม่ทางด้านฝากระโปรงด้านหน้ารถ, ล้อแม็กซ์อัลลอยด์แบบสปอร์ตที่สวยงามมากกว่าเดิม, ปีกขนาดใหญ่ทางด้านหลังที่ออกแบบโดยเฉพาะเป็นพิเศษ และชุดแต่งแบบสปอร์ตในส่วนต่างๆ รอบคันเพิ่มเติม

Lexus เผยว่ารถแบบ “Black Panther Inspired LC concept” นั้นจะได้รับการแต่งแบบสปอร์ตเพิ่มเติมจากทีมงานวิศวกรของพวกเขา โดยพวกเขาให้คำนิยามว่าทำมาจากไวเบรเนี่ยม (แร่ธาตุที่มีพลังงานสุดแข็งแกร่ง โดยในภาพยนตร์จักรวาลมาร์เวลก่อนหน้านี้ได้มีการกล่าวถึงไวเบรเนี่ยมเช่นเดียวกัน)

รถแบบพิเศษอย่างรุ่น “limited-edition LC” นั้นจะมาพร้อมกับการผลิตแค่ 100 คันเท่านั้นในรุ่นตัวอย่างสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดยจะเปิดตัวครั้งแรกในงานอย่าง SEMA show ในรัฐอย่าง Las Vegas เริ่มต้นในวันที่ 31 ตุลาคมที่จะถึงนี้

3214567

จะซื้อรถมือสอง…ต้องดูอะไรบ้าง

$
0
0

จะซื้อรถมือสอง…ต้องดูอะไรบ้าง

Basic RGB

ถ้าคุณสนใจซื้อรถยนต์มือสอง เมื่อพบคันที่ถูกใจแล้ว สภาพภายนอกผิวเผินดูปกติทุกอย่างแต่คุณจะทราบได้อย่างไรว่ารถไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหรือเคยจมน้ำมาก่อน? เพื่อให้คุณมั่นใจว่าเลือกซื้อรถยนต์มือสอง ลองศึกษาวิธีการตรวจสภาพรถยนต์มือสองเบื้องต้นที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง

วิธีสังเกตง่ายๆ ว่ารถคันไหนคือ รถที่เคยประสบอุบัติเหตุมา ให้ดูความผิดปกติได้จาก 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่

  • ส่วนตัวถัง สามารถใช้เป็นข้อสันนิษฐานว่ารถเกิดอุบัติเหตุมาหรือไม่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นบริเวณส่วนหน้าของรถยนต์ โดยดูว่าฝากระโปรงหน้าเคยถูกถอดหรือเปลี่ยนมาหรือไม่ สังเกตได้จาก 4 จุด คือ
  • ระยะห่างของฝากระโปรงหน้ากับบังโคลนหน้าซ้าย-ขวา ห่างเท่ากันหรือไม่
  • มีร่องรอยการขันน็อตและทำสีใหม่หรือไม่
  • ขนาดและรูปทรงของ “ซีลเลอร์” บิดเบี้ยวหรือกดแล้วรู้สึกนิ่มผิดปกติหรือไม่
  • สีภายในฝากระโปรงรถเปลี่ยนเป็นสีดำหรือไม่ ถ้าสีเดิมจากโรงงานต้องเป็นสีเทาเนื่องจากเป็นสีชุบกันสนิม EDP

VDO สาธิตวิธีการตรวจสภาพรถประสบอุบัติเหตุเบา 

อย่างไรก็ตามเราสามารถสันนิษฐานได้ว่ารถเคยเกิดอุบัติเหตุบริเวณด้านหน้ามา แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ารถคันนั้นเคยประสบอุบัติเหตุหนัก ซึ่งส่งผลต่อการขับขี่หรือไม่ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบในส่วนของ โครงสร้าง เพิ่มเติมอีก 3 จุด

  • ส่วนโครงสร้าง หากพบความผิดปกติ ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่ารถคันดังกล่าวเคยเกิดอุบัติเหตุหนักมาก่อน
  • ความผิดปกติของสีชิ้นส่วนที่ทำมาใหม่ อาจมีลักษณะวาวกว่าสีเดิมจากโรงงาน
  • “ซีลเลอร์” ในห้องเครื่องยนต์ (บริเวณตรงกระโหลกบังโคลนกับแชสซีหน้า) อาจมีลักษณะเป็นขุย ไม่เรียบร้อย ซึ่งเกิดจากการทำซีลเลอร์มาใหม่ ไม่ได้มาตรฐานโรงงาน
  • จุดเชื่อมของโครงสร้างส่วนหน้าแตกต่างจากรถที่ประกอบออกมาจากโรงงาน เช่น คานหม้อน้ำบน, แผงรับไฟหน้า, กะโหลกบังโคลนหน้า, แชสซีหน้า เป็นต้น โดยลักษณะของจุดเชื่อมที่มีความผิดปกติ ได้แก่ มีรอยไหม้ รอยสนิม รอยนูน หรือไม่พบจุดเชื่อมใดๆ เพราะหายไปจากการเจียระไนกลบรอยนูน

VDO สาธิตวิธีการตรวจสภาพรถประสบอุบัติเหตุหนัก

ทั้งนี้หากพบร่องรอยความผิดปกติใดๆ ก็ตามตรงส่วน โครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นแผลเสียหาย ร่องรอยจากการซ่อมแซม หรือจากการถูกถอดเปลี่ยนชิ้นส่วน แสดงว่ารถยนต์คันนั้นได้ผ่านการประสบอุบัติเหตุหนักมาแล้ว ซึ่งจะส่งผลต่อสมรรถภาพการขับขี่ แม้ว่าจะผ่านการปรับสภาพหรือซ่อมแซมมาเรียบร้อยแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจเช็ครถยนต์เบื้องต้นในกรณีต่างๆ ได้อีก เช่น รถยนต์คันดังกล่าวเคยผ่านการจมน้ำมาก่อนหรือไม่ ซึ่งเราสามารถสังเกตเบื้องต้นได้ 3 จุด ดังนี้

  • สำรวจส่วนล่างของเข็มขัดนิรภัยว่ามีร่องรอยของเศษดินหรือคราบน้ำหรือไม่
  • สำรวจคราบน้ำบริเวณจุดอับสายตาต่างๆ ของรถยนต์ เช่น บริเวณกาบบันได (เมื่อแกะแผงพลาสติกครอบออก), บริเวณแผงประตู (เมื่อแกะแผงประตูออก) เป็นต้น
  • เปิดกล่องฟิวส์เพื่อสำรวจคราบสนิม คราบดิน หรือคราบน้ำ หากพบร่องรอยดังกล่าวแสดงว่าน้ำได้ท่วมเข้ามาถึงห้องเครื่อง

VDO สาธิตวิธีการตรวจสภาพรถที่เคยจมน้ำ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงวิธีการสังเกตสภาพรถมือสองเบื้องต้นที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่หากคุณต้องการมืออาชีพในการตรวจสอบรถมือสองที่ไว้วางใจได้ พร้อมการรับประกันคุณภาพรถยนต์มือสองทุกคันโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ต้องมาที่ โตโยต้า ชัวร์ รถใช้แล้วคุณภาพดี ที่ตรวจสอบมาตรฐานรถยนต์ก่อนขายให้คุณถึง 210 จุด และรับประกันคุณภาพ 1 ปี หรือ 20,000 กม. พร้อมทีมช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. แถมเช็คระยะฟรีอีก 2 ครั้ง ที่ศูนย์โตโยต้าทั่วประเทศ

ที่โตโยต้า ชัวร์ เรามอบบริการบนความความตั้งใจที่ว่า ลูกค้าทุกท่านต้องได้รถยนต์ที่ดีที่สุดและคุ้มค่ามากที่สุด หากกำลังมองหารถมือสองลองแวะมาที่โตโยต้า ชัวร์ ใกล้บ้านคุณ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ www.toyotasure.com

จัดเต็ม Jaguar Land Rover โชว์ตัวสองรุ่นใหม่ “Land Rover Discovery Sport 2018″และ “Range Rover Evoque”

$
0
0

จัดเต็ม Jaguar Land Rover โชว์ตัวสองรุ่นใหม่ “Land Rover Discovery Sport 2018” และ “Range Rover Evoque
range-rover-evoque
ค่ายรถอย่าง Jaguar Land Rover (JLR) ชื่อดังนั้นล่าสุดได้เปิดตัวรถแบบใหม่ออกมาแล้วทั้งในรุ่นอย่าง Discovery Sport และ Evoque รุ่นใหม่ล่าสุดในโฉมปี 2018MY ซึ่งจะเปิดตัวออกมาในโฉมของประเทศสหรัฐอเมริกาและอเมริกาเหนือ (North America)

รถแบบ Jaguar Land Rover รุ่น Discovery Sport และ Evoque นั้นจะมาพร้อมกับระบบเครื่องยนต์แบบใหม่ล่าสุดขนาดทั้งสิ้น 2.0 ลิตรแบบเบนซิน 4 สูบขนาดใหญ่ในแบบ GTDi ให้กำลังทั้งสิ้น 237 แรงม้า (240 PS) และแรงบิดสูงสุดทั้งสิ้น 251 ปอนด์/ฟุต (ประมาณ 340 Nm.) โดยประมาณในภาพรวม

และรุ่นท็อปนั้นจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบเบนซิน ทำความเร่งจาก 0-100 กม./ชม. (62 ไมล์) ดีขึ้นกว่าเดิม 0.4 วินาที และความเร็วสูงสุดทั้งสิ้น 144 ไมล์ (232 กิโลเมตร/ชั่วโมง) เลยทีเดียว

รถแบบใหม่นั้นอย่าง “Range Rover Evoque 2018” จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 2.0 ลิตรแบบเบนซิน, ชุดแต่งดุดันแบบ “Dark Sport” และชุดแต่งอย่างเป็นทางการอย่าง ” Landmark Edition” ที่อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติมมากมายในภาพรวม

Range Rover Evoque 2018 นั้นนอกเหนือจากชุดแต่งแบบ “Landmark Edition” แล้วยังจะมาพร้อมกับออฟชั่นเพิ่มเติมสำหรับชุดแต่งแบบ SE Premium และ HSE grades พร้อมกับล้อแม็กซ์อัลลอยด์ขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 19 นิ้วโดยประมาณ

ในส่วนของการตกแต่งภายในนั้นจะมาพร้อมกับออฟชั่นใหม่ที่แต่งมาให้รถแบบ “compact SUV” ขนาดใหญ่แบบจัดเต็ม ได้แก่ เบาะหนังแบบสีเข้มตัดสลับกับหนัง Lunar สีโทนอ่อน และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมเพิ่มเติม
Range Rover Evoque 2018 จะมาพร้อมกับราคาขายที่ 41,800 ดอลล่าร์สหรัฐ ส่วน Land Rover Discovery Sport 2018 จะมาพร้อมกับราคา 37,795 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยประมาณ

12345678

ซุ่มเงียบ! Volkswagen ส่ง “Golf R”รุ่น 5 ประตูท้าชิงตลาดโลกแล้ว

$
0
0

ซุ่มเงียบ! Volkswagen ส่ง “Golf R” รุ่น 5 ประตูท้าชิงตลาดโลกแล้ว
vw-golf-r-mk7-abt-tuning
ก่อนหน้านี้รถระดับหรูทั้งรถอย่าง Mercedes-AMG A45 และ Audi RS3 Sportback นั้นต่างขับเคี่ยวกันอย่างมากมายในตลาดโลก เพื่อชิงความเป็นหนึ่งของรถแบบ 5 ประตู (Hot Hatch) ออกมา และล่าสุดทางทีมงานของ Volkswagen Golf R ก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมกับการเปิดตัวใหม่เช่นเดียวกัน

สำหรับการเปิดตัวนี้เป็นโครงการแต่งรถของทางทีมงานอย่าง ABT Sportsline โดยทีมงานของ Volkswagen นั้นได้ตั้งใจจะทำให้ตัวรถ Golf แบบเวอร์ชั่นใหม่นั้นมีความสูงมากขึ้นกว่าเดิม, เพิ่มระบบอากาศพลศาสตร์และพยายามทำให้มันดูดีสวยงามยิ่งกว่าเดิมๆ

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นรถแบบ Volkswagen Golf R จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จ (turbocharged engine) ให้กำลังทั้งสิ้น 100 PS (ประมาณ 99 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุดทั้งสิ้น 100 Nm. (74 ปอนด์/ฟุต) โดยประมาณ

โดยรถแบบ Hatchback 5 ประตูดังกล่าวนั้นจะมาพร้อมกับระบบสปริงโหลดแบบจัดเต็ม, ล้อแม็กซ์ขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 18 นิ้วทางด้านหน้าและ 20 นิ้วทางด้านหลัง พร้อมสเกิร์ตแบบแต่งและปิดท้ายด้วยท่อไอเสียแบบสปอร์ตมากกว่าเดิม

12345

Viewing all 8900 articles
Browse latest View live