Google สานต่อโครงการ DMV แมพทั่วโลกพร้อมรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญของทาง Google นั้นได้เดินหน้าความพยายามอย่างยิ่งในการสำรวจพื้นที่ท้องถิ่นทั่วโลกโดยการขออนุญาติท้องที่และรัฐบาลในการดำเนินงาน โดยจะเรียกว่าระบบสำรวจแบบ “DMV” ซึ่งจะทำแผนที่เพื่อโครงการในอนาคตของพวกเขา

และหนึ่งในโปรเจคต์นั้นก็คิอรถขับเคลื่อนด้วยตัวเองหรือ  Google’s self-driving car program ที่ในขณะนี้กำลังพัฒนาให้มันขับเคลื่อนเองโดยอาศัยแผนที่แต่ละเมืองในทั่วโลกจากการสำรวจเทคโนโลยีแบบ DMV ข้างต้น

โดยสื่ออย่างทาง Quartz, รายงานว่าทาง Google ไม่ได้เปิดตัวรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมมากนักเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ แต่ก็เห็นพวกเขาเดินหน้าในการนำรถหลายๆคันในแต่ละเมืองออกมาทดสอบกันแบบมากมายเพื่อให้เป้าหมายสมบูรณ์ที่สุด

นอกจากนี้พวกเขายังได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทรถชื่อดังในกลุ่มที่เรียกว่า  US soil ซึ่งประกอบไปด้วย GM, Chrysler, VW และ Mercedes เพื่อหาความแตกต่างระหว่างการควบคุมโดยมนุษย์และคอมพิวเตอร์

ปิดท้ายด้วยความคืบหน้าซึ่งในขณะนี้นั้นทาง Google ได้เดินหน้าสำรวจในการขับเคลื่อนไปแล้วทั่วโลกกว่า 700,000 ไมล์ (1,100,000 กิโลเมตร) ซึ่งประสบความสำเร็จไปอย่างมากมายแล้ว

HONDA ประกาศผลสุดยอดไอเดียรุ่นจิ๋วรับทุนและร่วมเวิร์คช้อปปลุกพลัง(คิดส์)

กรุงเทพฯ -วันที่ 4 กันยายน 2557 —  บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีมอบทุนสร้างแบบจำลองและเวิร์คช้อป “ปลุกพลังคิด(ส์) และภารกิจประดิษฐ์กระหึ่มโลก” ในโครงการ “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ 2014″ ให้กับเยาวชนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 เจ้าของไอเดียสุดล้ำจำนวน 24 ผลงานที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในรูปแบบการประลองไอเดียที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำแบบใครในรายการโทรทัศน์ “Super Idea คิด(ส์) กระหึ่มโลก” ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ทีวี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและเป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปร่วมค่าย  “Honda Super Idea Kids” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ระหว่างเยาวชนไทยและญี่ปุ่น ณ ประเทศญี่ปุ่น

โครงการฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์  เป็นโครงการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยที่ฮอนด้าภูมิใจและริเริ่มดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว โดยมีเยาวชนจากทั่วประเทศส่งผลงานร่วมประกวดจำนวน 326,870 ผลงาน จากกว่า 2,000 โรงเรียน  สำหรับโครงการฯ  ในปีนี้มีเยาวชนระดับประถมศึกษาส่งผลงานเข้าประกวดถึง 10,539 ผลงานจากทั่วประเทศ บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้จะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ จิตนาการ และกระบวนการเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์แก่เยาวชน  เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทยมุ่งมั่นก้าวตามฝันของตนเองอย่างไม่ย่อท้อ

นอกจากนี้ ในปีนี้ยังเป็นครั้งแรกที่โครงการฯ ได้ปรับโฉมครั้งสำคัญ โดยเยาวชนทั้ง 24 คนจะได้ไปประลองไอเดียกันในรายการโทรทัศน์ “Super Idea คิด(ส์) กระหึ่มโลก”  ซึ่งจะออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ทีวี ในระบบ Digital TV เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ขอเชิญร่วมติดตามและเป็นกำลังใจแก่น้อง ๆ โดยมีกำหนดออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.00-17.30 น. ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ถึง 28 ธันวาคม 2557

เกี่ยวกับโครงการ ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์

โครงการ “ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2548 มีต้นกำเนิดจากโครงการ ฮอนด้า คิดส์ ไอเดีย คอนเทสต์ ของบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ รักความท้าทาย กล้าที่จะทำความฝันให้เป็นจริง โดยเปิดรับไอเดียสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตที่สนุก สร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อสังคมของเยาวชนระดับประถมศึกษาจากทั่วประเทศ ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลทัศนศึกษาประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันฮอนด้าได้ดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10

รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบจำนวน 24 ผลงาน

BMW เปิดตัวรถ BMW X4 xDrive20d M Sport และ BMW 420i Gran Coupe M Sport โฉมใหม่
ในงาน BMW Xpo 2014

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวนวัตกรรมแห่งยนตรกรรมล่าสุด BMW X4 xDrive20d M Sport และ BMW 420i Gran Coupé M Sport ที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในงาน BMW Xpo 2014 ซึ่งจัดแสดงนวัตกรรมและการดีไซน์แห่งยนตรกรรม       ระดับหรู พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ระหว่างวันที่ 11 ถึง 14 กันยายน พ.ศ. 2557 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงยนตรกรรมหรูบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นอื่นๆ รวม 11 รุ่น อาทิบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i xLine, บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d Highline, บีเอ็มดับเบิลยู 528i M Sport และนวัตกรรมแห่งอนาคต บีเอ็มดับเบิลยู i8 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้รับการจัดแสดงมากถึง 8 รุ่น ในจำนวนนี้รวมมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูสัญชาติไทยทั้งสองรุ่นได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 800 R และบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS

นวัตกรรมแห่งยนตรกรรมล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างฟีเจอร์เด่นของยนตรกรรมบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X พร้อมกับความสง่างามปราดเปรียวของดีไซน์แบบคูเป้สุดคลาสสิก ชุดแต่ง M Sport มอบความโฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายในให้กับบีเอ็มดับเบิลยู X4 โดยตัวถังที่ได้รับการเพิ่มเติมให้ลู่ลมด้วยชุดแต่ง M Aerodynamic รวมถึงเส้นสาย High-gloss Shadow Line ของดีไซน์ภายนอก และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาพิเศษแบบ M Sport ขนาด 19 นิ้ว มอบภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตควบคู่ไปกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ xDrive ที่เพิ่มความสนุกสนานยามขับขี่ พร้อมใส่ใจการดีไซน์ในทุกรายละเอียดด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนังแท้สไตล์สปอร์ตแบบ M, เบาะนั่งแบบ Sport และการตกแต่งภายในด้วยวัสดุอะลูมิเนียม บรัช มอบความรู้สึกสไตล์สปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ

บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล 2.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมมอบกำลัง 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport พุ่งทะยานจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ยนตรกรรมใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดได้ซึ่งมอบประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร โดยมีการปล่อยก๊าซ CO₂  เพียง 131 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น

เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 420i Gran Coupé M Sport
บีเอ็มดับเบิลยู 420i Gran Coupé M Sport มาพร้อมดีไซน์ 4 ประตู, พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางยิ่งขึ้นและรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวหรูหราตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 4 คูเป้ การออกแบบสไตล์สปอร์ตมาพร้อมฟีเจอร์มาตรฐานต่างๆ ได้แก่ระบบควบคุมช่วงล่างแบบ Adaptive M, เบาะนั่งแบบ 4+1 รวมถึงพื้นที่ว่างบริเวณศีรษะที่เพิ่มมากขึ้น ระบบปิดฝากระโปรงหลังแบบอัตโนมัติ พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง และที่นั่งแบบแยกพับ 40:20:40 ด้วยอรรถประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นมากมาย พร้อมคงสมรรถนะแห่งการขับขี่อันทรงพลังเหนือใครด้วยการควบคุม Driving Experience Control ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ที่ต้องการ เพิ่มสุนทรียในทุกจังหวะของการเดินทาง

ผู้นำด้านคุณภาพเหนือระดับและนวัตกรรมชั้นสูงแห่งวงการยนตรกรรมหรู
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมหรูที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะยอดเยี่ยมซึ่งได้รับความสำเร็จระดับโลก บริษัทฯ ได้สร้างสถิติยอดขายในเดือนกรกฎาคมสูงสุดทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้รับการจัดอันดับของนิตยสารชั้นนำ The Company ในฐานะ Thailand’s Most Admired Automotive Company 2014  เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยจึงจัดงาน BMW Xpo 2014 เพื่อจัดแสดงรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูซึ่งถือเป็นตัวแทนของที่สุดแห่งยนตรกรรมทั้งในด้านภาพลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจ วิศวกรรมแห่งยนตรกรรมที่เหนือใคร นวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยและคุณภาพเหนือระดับอีกด้วย

CHEVROLET แนะนำ 12 เคล็ดลับ เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมันสูงสุด

กรุงเทพฯ – รัฐบาลเพิ่งมีการประกาศปรับลดราคาน้ำมันลงซึ่งถือเป็นข่าวดีของผู้ใช้รถ ทั่วประเทศ เชฟโรเลตจึงขอนำเสนอเคล็ดลับเพิ่มการประหยัดน้ำมันสูงสุดในช่วงราคาน้ำมัน ถูกลง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการใช้รถให้เหลือน้อยที่สุด

“ถึงแม้ว่ารถเชฟโรเลตจะได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีการประหยัดน้ำมัน เป็นเลิศ แต่ตัวรถยังคงต้องได้รับการดูแลรักษาให้มีสภาพดีอยู่เสมอเพื่อให้ทำงานได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ” คุณสรัญญา ญาติเสมอ ผู้จัดการกลุ่มงานวิศวกร ฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

คุณสุพจน์ ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มการประหยัดน้ำมันได้ด้วยการปรับพฤติกรรม การขับรถและการใช้รถเพียงเล็กน้อย อาทิ การเติมลมยางให้เหมาะสมและไม่บรรทุกสัมภาระ ที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ”

1.ตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนใช้รถ
การเติมลมยางอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ให้มากขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับมีความปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ถ้ายางทั้งสี่เส้นมีลมอ่อนเกินไปหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ เพราะยางจะมีแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อนมากขึ้นจึงต้องใช้กำลังและเชื้อเพลิง เพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อนตัวรถ คุณสุพจน์แนะนำว่าผู้ขับขี่ควรซื้ออุปกรณ์วัดลมยางและตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ยางรถยนต์ที่มีแรงดันเหมาะสมจะทำให้รถมีการเกาะถนนดี ส่งผลต่อการตอบสนองของพวงมาลัยและเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก

2.หลีกเลี่ยงการปรับแต่งขนาดล้อและยาง
ล้อที่มีขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อและยางแก้มเตี้ยจะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมัน ให้สูงขึ้น ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่จะเพิ่มแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อน เพิ่มน้ำหนักใต้สปริง และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ ทำให้ใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้นและส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเบรกและการควบคุมรถ

3.ไม่บรรทุกสิ่งของน้ำหนักมากที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ
คุณสุพจน์กล่าวว่าการขับขี่ทางไกลจำเป็นต้องมีการบรรทุกสัมภาระแต่ควร ระวังไม่บรรทุกมากเกินไป เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รถต้องใช้กำลัง และเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อน ดังนั้นควรทำให้รถมีน้ำหนักเบาอยู่เสมอ การบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็นจะทำให้รถทำงานหนักเพิ่มขึ้นและใช้น้ำมัน มากกว่าปกติ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กก. จะเพิ่มอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง 2 เปอร์เซ็นต์ และมากกว่านี้ในรถขนาดเล็ก ราวหลังคา ที่มีการบรรทุกสัมภาระจะเพิ่มการบริโภคน้ำมันขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งลิตรจะถูก เผาผลาญในการขับเคลื่อนตัวรถให้ผ่านแรงเสียดทานอากาศ ดังนั้นรถที่มีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง

4.ดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
ที่กรองอากาศและน้ำมันเครื่องที่สกปรก เซ็นเซอร์ออกซิเจน และหัวเทียนที่ทำงานผิดปกติ รวมถึงชิ้นส่วนที่บกพร่องอื่นๆ จะทำให้การบริโภคน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น เครื่องยนต์ที่มีการดูแลรักษา อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ การซ่อมแซมปัญหาทีมีความสำคัญอย่างเซ็นเซอร์ออกซิเจนจะช่วยเพิ่มระยะทางการ ขับขี่ได้สูงขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยน ไส้กรองที่อุดตันอย่างรุนแรงจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ คุณสุพจน์แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำ เพราะจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1 – 2 เปอร์เซ็นต์ ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้เข้ารับบริการ ผู้ใช้รถเชฟโรเลตควรนำรถเข้าศูนย์บริการของเชฟโรเลตเพื่อให้แน่ใจว่ามีการ เติมของเหลวต่างๆ ที่ถูกต้องและใช้ชิ้นส่วนอะไหล่แท้

5.ตรวจสอบฝาถังน้ำมันอยู่เสมอ
ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นไม่เพียงแต่จะทำให้ “ไฟสัญญาณเตือนรูปเครื่องยนต์” ปรากฏขึ้นเท่านั้น ข้อมูลจากดิสคัฟเวอรี่ แชนเนล ยังระบุว่าจะทำให้น้ำมันระเหยไปโดยเปล่าประโยชน์เกือบ 518 ล้านลิตรต่อปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 1 – 2 เปอร์เซ็นต์

6.พิจารณาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสม
การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเอทานอลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง รถเชฟโรเลต ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นรองรับเชื้อเพลิง E20 ขณะที่แคปติวาและโซนิครองรับเชื้อเพลิง E85 ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบ ในโคโลราโด และเทรลเบลเซอร์จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

7.ขับรถให้ช้าลง
การขับรถออกตัวจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วรถให้คงที่ ผู้ขับขี่ควรเหยียบคันเร่ง ออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจรอย่างนุ่มนวล การเร่งรถอย่างรวดเร็วจะใช้ความเร็วมากเกินความจำเป็นและการเบรกอย่างรุนแรง จะทำให้การประหยัดเชื้อเพลิงลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ บนถนนหลวงทางไกล และ 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขับขี่ในเมือง ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุดสำหรับ รถส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 65 – 100 กม./ชม. อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อขับรถด้วยความเร็ว เกินกว่า 96 กม./ชม.

8.ใช้เกียร์สูง
ถ้าขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาอย่างเกียร์ 6 สปีดในเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ คุณสรัญญาแนะนำให้ใช้เกียร์สูงเพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำซึ่งจะบริโภค น้ำมันน้อยกว่าแต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไปจนฉุดกำลังเครื่องยนต์หรือทำ ให้เครื่องยนต์ดับ ถ้าขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย (ไม่ควรถอนคันเร่งออกทั้งหมด) ในจังหวะที่ระบบเกียร์ “เปลี่ยน” สู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตที่ใช้เกียร์อัตโนมัติทุกรุ่นใช้เกียร์แบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้สวิทช์ “Hold” ถ้าไม่จำเป็น

9.ตั้งสติและขับขี่อย่างนุ่มนวล
ถ้าหากรถของคุณมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือครูสคอนโทรลอย่างในเชฟ โรเลต แคปติวา (รุ่น LT และ LTZ) ให้เปิดใช้ระบบนี้โดยเฉพาะเมื่อขับรถทางไกล ระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนดและช่วยเพิ่มการ ประหยัดน้ำมันด้วยการเร่งและผ่อนความเร็วอย่างนุ่มนวล ระบบครูสคอนโทรลจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเกียร์โหมดประหยัด หรือโหมดออโต และไม่ควรใช้ครูสคอนโทรลเมื่อฝนตกหนักหรือขับรถบนพื้นถนนที่เปียกลื่น

10.ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือปรับเกียร์ลงจนกระทั่งรถจอดสนิท
การขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถแล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ได้เพราะรถจะแล่นช้าๆ ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดา คุณสรัญญาแนะนำให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออกขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้เนื่องจาก เครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมันและเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้เชื้อเพลิงมากกว่าถ้าปล่อยให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งว่างขณะรถ จอดนิ่ง

11.หลีกเลี่ยงการจอดรถติดเครื่องยนต์นานเกินไป
หากคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด คุณสรัญญาแนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยแต่การจอดรถติดเครื่อง ยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร

12.ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด
การเปิดใช้ระบบแอร์ลดการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย ผู้ขับสามารถปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้นแทนการปรับลดอุณหภูมิลง ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 64 กม./ชม. ผู้ขับสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ แต่ถ้าขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กม./ชม. แรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิด แอร์

Ford หยุดผลิต F-150 แบบเหล็กแล้วพร้อมหันมาใช้วัสดุน้ำหนักเบา

โรงงานผลิตรถบรรทุก Dearborn ในเมือง  Detroit นั้นล่าสุดได้ส่งตัวอย่างขั้นสุดท้ายของการผลิตรถแบบ Ford F-150 generation ใหม่ออกมาแล้วภายในสัปดาห์นี้

The Blue Oval นั้นจะใช้ต้นแบบรถที่ทำมาจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบากว่ารถกระบะอื่นๆในแบบปกติ เนื่องจากพวกเขาต้องการให้มันมีประสิทธิภาพและตัวถังที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม

The Dearborn โรงงานผลิตรถกระบะชื่อดังนั้นล่าสุดได้ทำการเปิดตัวการผลิตรถแบบ F-150 แบบใหม่แล้วในปีนี้ ซึ่งได้ต้นแบบมาจากโรงงานในรัฐ  Kansas City เพื่อทำเป็นรถในโฉมแบบ 2014 Model

“พวกเรานั้นตั้งใจจะทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเราได้ออกแบบและวางแผนการผลิตมาเป็นอย่างดีเพื่อให้ลูกค้านั้นพึงพอใจมากที่สุด นอกจากนี้มันยังผลิตได้รวดเร็วในอัตรา 9 คันต่อนาทีอีกด้วย” Bruce Hettle หัวหน้า Ford North America เผย

การผลิตในโรงงานที่ Dearborn นั้นจะเริ่มต้นในวันที่ 22 กันยายนนี้ โดยจะส่งมอบอย่างต่อเนื่องภายในปีนี้ก่อนที่จะมีรถแบบ 2015 ออกมา

Cadillac SRX รุ่นใหม่ในสหรัฐพร้อมแล้วสำหรับเครื่องยนต์แบบใหม่

General Motors พี่ใหญ่แห่งวงการนั้นล่าสุดได้เปิดตัวรถแบบ Cadillac SRX ในเวอร์ชั่นล่าสุดออกมาแล้ว โดยจะผลิตจากโรงงานใน Spring Hill, Tennessee และพัฒนาด้านเครื่องยนต์ให้ดีขึ้น

Cadillac SRX รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ทำออกมาเพื่อตีตลาดในท้องถิ่นสำหรับรถมีระดับและลุยตลาดข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังประเทศจีนที่มีกำลังซื้อสูงมากกว่าในประเทศอื่นๆเพื่อให้การผลิตนั้นเกิดการคล่องตัวในการส่งออก

สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ใน  Spring Hill  นั้นปัจจุบันผลิตรถแบบ Chevrolet Equinox SUV อยู่อีกรุ่นหนึ่งสำหรับส่งออก ทำให้ทางพวกเขาต้องหันไปพึ่งโรงงาน  Ramos Arizpe ในประเทศเม็กซิโกเพิ่มเติมด้วย

ทาง GM นั้นทุ่มเงินไปมากกว่า 185 ล้านดอลล่าร์ในการทำเครื่องยนต์แบบใหม่นี้ในโรงงานที่  Spring Hill รวมถึงจ้างงานอีก 390 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเงินอีก 48.4 ล้านดอลล่าร์ในการลุยโรงงาน Bedford, Indiana ที่จ้างงานอีกกว่า 45 ตำแหน่ง

สำหรับเครื่องยนต์แบบใหม่นั้นจะมีชื่อว่า all-new Ecotec engine ที่จะใช้ในรถยนต์ของทาง GM อีกกว่า 27 รุ่นภายในปี 2017 ซึ่งใช้ได้ทั้งรถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงรถแบบ Crossover รุ่นใหญ่

new Ecotec นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดทั้ง 3 และ 4 สูบขนาดความจุ 1.0 ลิตร- 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังทั้งสิ้น 75-165 แรงม้า สามารถทำแรงบิดสูงสุดได้ 70 lb-ft (95 Nm) ถึง 184 lb-ft (250 Nm) ในแบบ  turbocharged

ปัจจุบันโรงงานใน  นั้นผลิตเครื่องยนต์แบบ  Ecotec 2.0 ลิตร,  Ecotec 2.4 ลิตรและ Ecotec 2.5 ลิตรแบบ direct injection

เด็กชายวัย 18 ดับอนาถหลังซิ่ง Lamborghini คนรู้จักแหกโค้งบนทางด่วน

ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าทีเดียวหลังล่าสุดมีรายงานจากทางสื่ออย่าง Newsday ว่าเด็กชาย Samuel Shepard วัย 18 ปีนั้นเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนในเมือง New York ซึ่งรถที่ขับคือสปอร์ตดังอย่าง Lamborghini Gallardo

ตามรายงานแบบละเอียดนั้นเผยว่ทาง Samuel Shepard  เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์หลังจากไม่สามารถควบคุมรถ  2010 Gallardo ได้ขณะอยู่บนทางด่วนของทาง Mount Sinai, NY.

โดยเจ้าของรถคันนี้นั้นคือ  Michael Power วัย 49 ปีซึ่งรู้จักกับผู้ตาย โดยตามรายงานว่าเขาได้ให้ทาง Shepard นั้นได้ทดลองขับรถ  Lamborghini หลังพบกันที่ลานจอดรถจนมาเกิดอุบัติเหตุน่ากลัวดังกล่าว

“หลังการสอบสวนนั้นผมคิดว่าเจ้าของรถคงให้รถกับเด็กชายเพื่อยืมขับให้เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต แต่โชคร้ายที่มาเกิดเหตุเสียก่อน” Michael Fitzharris สารวัตจราจรใหญ่ผู้ดูแลคดีเผยกับทางสื่อทิ้งท้าย

เผยรายละเอียด 2015 Kia Sorento ก่อนลุยงาน Paris Motor Show

ทีมงานออกแบบดีไซน์ของ Kia นั้นพยายามจะทำมันออกมาให้ดีกว่าเดิมและดีที่สุดสำหรับรถแบบ  Sorento ในรุ่นล่าสุดเพื่อท้าชนกับรถแบบ SUV ค่ายอื่นๆจากประเทศเยอรมันในตลาดโลกทั้งด้านการออกแบบและเทคโนโลยี

และล่าสุดทางทีมงานพัฒนาจากโรงงานยืนยันออกมาแล้วว่ารถแบบ Sorento นั้นจะเปิดตัวแล้วในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะมีความยาวมากขึ้น 80mm. และต่ำลง 15mm. จากการปรับปรุงช่วงล่าง นอกจากนี้ยังได้ใส่ที่นั่งในบริเวณแถวที่สองเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้รถแบบ  Sorento ยังจะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าแบบ NVH (noise หรือการเก็บเสียง , vibration (การสั่น) และ harshness (การสั่นสะเทือน)) เพื่อสู้กับรถราคาแพงในตลาดโลก

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นจะใช้เป็นแบบดีเซลที่ให้กำลังระหว่าง 170-266 แรงม้า ทั้งแบบ 2.0 ลิตรและ 2.2 ลิตร รวมไปถึงเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตรและโฉมอเมริกาที่ขนาด 3.6 ลิตรแบบ V6 และ 2.4 ลิตรที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า

ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยีหลายหลาก เช่น  ASCC (Adaptive Smart Cruise Control) – ระบบครูซคอนโทรล ; LDWS (Lane Departure Warning System)- เตือนขณะเปลี่ยนเลน, FCW (Front Collision Warning)-กันสะเทือนทางด้านหน้า ,BSD (Blind-Spot Detection)-ช่วยมองในจุดอับสายตา, LCA (Lane Change Assist)-ช่วยมองในการเปลี่ยนเลน  และ RCTA (Rear Cross-Traffic Alert)-เตือนสัญญาณไฟจราจร

ชุดแต่ง Z71 Package กลับมาแล้วสำหรับ 2015 Chevrolet Tahoe และ Suburban

Chevrolet ค่ายรถชื่อดังในเครือ GM จากประเทศสหรัฐอเมริกานั้นล่าสุดได้ยืนยันแล้วว่ารถแบบ  2015 Tahoe และ Suburban นั้นจะถูกใช้กับชุดแต่งแบบ “Z71 package” ที่เตรียมนำกลับมาอีกครั้ง

โดยทาง Chevy ยืนยันเองผ่านการแถลงข่าวของทางบริษัทว่าภายในเดือนกันยายนนี้แพ็คเกจชุดแต่งแบบ “Z71 package” นั้นจะกลับมาอีกครั้งสำหรับรถแบบ Tahoe และ Suburban โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ชุดแต่งแบบ Z71 package ยังจะมาพร้อมกับล้อแม็กซ์แบบพิเศษพร้อมกับยางคุณภาพสูงที่เคยใช้ในรถแบบ Silverado โดยราคาจะอยู่ที่ 680 ดอลล่าร์ ถึง 1,600 ดอลล่าร์ตามออฟชั่นที่เลือก

Alfa Romeo 6C เตรียมลุยตลาดท้าแข่ง Jaguar F-Type แบบเต็มตัว

Alfa Romeo แบรนด์รถชื่อดังจากสหราชอาณาจักรนั้นล่าสุดได้ทำการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญแล้วในการเปิดตัวรถแบบ “Alfa Romeo 6C Sports” ตามรายงานของสื่อชื่อดังอย่าง AutoExpress

โดยพวกเขารายงานว่าต้องการส่งรถสปอร์ตรุ่นใหม่ออกมาเพื่อตีตลาดและเป็นคู่แข่งสำคัญของรถสปอร์ตแบบ Jaguar F-Type และเตรียมเปิดตัวให้ได้ภายในปี 2017 และต่อเนื่องยาวไปจนกว่าจะพัฒนาหรือทำรถรุ่นใหม่ออกมา

แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขาจะกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของรถแบบ  Maserati รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2016 นี้ ทำให้ทาง Alfa นั้นต้องเตรียมตัวเป็นอย่างยิ่งที่จะพัฒนาให้ดีมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อลุยตลาดในสหราชอาณาจักรและในประเทศอิตาลี

คาดการณ์กันว่ารถแบบใหม่นี้จะถูกออกแบบให้มีความบางลงมากกว่าเดิมเพื่อความคล่องตัวให้มากขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสปอร์ตแบบ Vapor ที่มีความปราดเปรียว

ซิตี้ ออโต้โมบิล ฉลองยอดขายจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ทะลุเป้า
ในงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2014

กรุงเทพฯ 8 กันยายน 2557 – ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ฉลองความสำเร็จยอดขายรถยนต์สองแบรนด์หรูจากสหราชอาณาจักรทั้งจากัวร์และแลนด์โรเวอร์จากงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2014 (Big Motor Sale 2014) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา ระหว่างวันที่ 16-24 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่ง ซิตี้ ออโต้โมบิล ได้นำเสนอยนตรกรรมระดับโลกมากถึง 7 รุ่น ได้แก่  เรนจ์โรเวอร์ อีโวค, แลนด์โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์, แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ โฟร์, จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ และ จากัวร์ เอ็กซ์เจ รวมถึงไฮไลท์ของงานนี้ นั่นคือ ดิ ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต สุดยอดรถอเนกประสงค์สุดหรู และ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คูเป้ สุดยอดนวัตกรรมยานยนต์แห่งความเร็วและสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากจากัวร์ และคงคอนเซ็ปท์รถหรูดั้งเดิมจากประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1922 โดยมียอดสั่งซื้อรวมสูงเกินความคาดหมายกว่า 145 ล้านบาท

บู๊ทจากัวร์แลนด์โรเวอร์ โดย ซิตี้ ออโต้โมบิล ได้รับความสนใจอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะการนำเสนอ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คูเป้ สุดยอดยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก และการมอบข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะลูกค้าที่สั่งจองรถภายในงาน อาทิ

- การขยายระยะเวลารับประกันตัวรถนานถึง 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

- รวมไปถึงการดาวน์ขั้นต่ำเพียง 20% และยืดระยะการผ่อนนานถึง 48 เดือน ตลอดจนบริการชั้นเยี่ยมที่มอบความอุ่นใจตลอดการใช้งาน

มร. ริชาร์ด เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า “เราประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเข้าร่วมงานบิ๊กมอเตอร์เซลล์ที่ผ่านมา โดยสามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้าเกินคาดตลอดการจัดงานทั้งเก้าวัน และนับเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เราได้เห็นผล แล้วว่า แบรนด์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์สามารถดึงดูดความสนใจจากบรรดาผู้บริโภคหน้าใหม่ในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก โดย ซิตี้ ออโต้โมบิล ยินดีให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่านด้วยเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม ซึ่งสมบูรณ์แบบด้วยบริการทั้งก่อนและหลังการขายชั้นเยี่ยม ตลอดจนศูนย์บริการครบวงจรตามมาตรฐานจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ระดับสากล”

จากัวร์แลนด์โรเวอร์ทุ่มเทเพื่อการขยายธุรกิจและฐานลูกค้าระดับสูงในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดและมอบข้อเสนอระดับเอ็กซคลูซีฟเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนทางด้านการขาย เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับบริการหลังการขายตามมาตรฐานจากประเทศอังกฤษ เพื่อมอบบริการชั้นเยี่ยมที่สมบูรณ์แบบแก่ลูกค้า

ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานยนต์ และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com, www.jaguarthailand.com และ http://facebook.com/thailandlandrover   

Volvo เตรียมพัฒนาเครื่องยนต์แบบใหม่ในรูปแบบ 3 สูบ ภายในปี 2016

ในด้านการผลิตรถยนต์ใหม่ๆออกมานั้นเครื่องยนต์ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุด โดยผู้ผลิตค่ายต่างๆนั้นคำนึงถึงมลภาวะและพละกำลังสำหรับการขับเคลื่อนให้กับตัวรถ

และล่าสุดทาง Volvo ค่ายรถระดับหรูนั้นได้เตรียมเปิดตัวเครื่องยนต์ 3 สูบแบบใหม่แล้วภายในช่วงปี 2016 สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆโดยจะเริ่มต้นที่รถแบบใหม่อย่าง all-new Xc90

โดยเครื่องยนต์แบบใหม่นั้นจะมีขนาดใหญ่มากกว่า 2.0 ลิตรแต่ที่ทำเครื่องยนต์เป็นแบบ 3 สูบนั้นก็เพื่อประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลภาวะที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ

ซึ่งผู้รับผิดชอบนั้นคือทาง Derek Crabb ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาเครื่องยนต์ของทาง Volvo เองโดยในตอนแรกนั้นอาจจะยังไม่ใช้ในรถขนาดใหญ่มากนักเนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา

หลังจากนั้นจะพัฒนาในแบบเครื่องยนต์อิเล็กทริกไฟฟ้า โดยหวังว่าจะนำไปใช้กับรถแบบ 2025 EV tech ที่เตรียมจะออกมาในอนาคต

ครอบครัวโตโยต้าทั่วประเทศ ร่วมกับสภากาชาดไทยรับบริจาคโลหิต ถวายพ่อหลวง เติมสุขให้คนไทย

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์  ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย แพทย์หญิงสร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมเปิดโครงการ “ครอบครัวโตโยต้า ร่วมบริจาคโลหิต  ถวายพ่อหลวง เติมสุขให้คนไทย” หนึ่งในกิจกรรมเพื่อสร้างสังคมแห่งความสุขที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ และบริษัทในเครือ เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2557 ณ ห้องบอลรูม โรงแรม     คอนราด กรุงเทพฯ

TOYOTA มีแนวคิดในการยกระดับการดำเนินงานเพื่อสังคม ภายใต้สโลแกน “โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข” โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนสังคมไทยเข้าสู่ยุคแห่ง “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยการดำเนินกิจกรรมภายใต้องค์ประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่

• การพัฒนาเศรษฐกิจ : แบ่งปันองค์ความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจ มาถ่ายทอดเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจชุมชนภายใต้โครงการ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์
• การพัฒนาสิ่งแวดล้อม : ดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการ “โตโยต้า เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” อาทิ โครงการลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา สร้างเครือข่ายในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน       ผ่านการถ่ายทอดความรู้และแนวทางแก้ปัญหาแก่โรงเรียนและชุมชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งร่วมมือกับเครือข่ายจากหลายภาคส่วนจัดโครงการปลูกป่านิเวศและปลูกป่าชายเลน  เพิ่มพื้นที่สีเขียวและดูแลอนุรักษ์พื้นที่ป่า เป็นต้น
• การพัฒนาสังคม: ด้วยการจัดกิจกรรมรณรงค์และปลูกฝังการขับขี่และใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยภายใต้โครงการ “ถนนสีขาว” และการจัดตั้ง “มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย” เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ชาวไทยในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังร่วมกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศให้การสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมของชุมชนในพื้นที่ภายใต้โครงการ “สังคมแห่งความสุข” หรือ สคส. ผ่านกิจกรรม 3 ด้าน ได้แก่  ด้านการส่งเสริมธุรกิจ   การสนับสนุนกิจกรรมวัฒนธรรมชุมชน และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต เป็นต้น

สำหรับ “ครอบครัวโตโยต้าร่วมบริจาคโลหิต ถวายพ่อหลวงเติมสุขให้คนไทย” เป็นหนึ่งกิจกรรมภายใต้ “โครงการสังคมแห่งความสุข” หรือ สคส เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ บริษัท  โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ชมรมความร่วมมือโตโยต้าหรือเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วน และบริษัทในเครือทั้งหมด   เพื่อร่วมสนับสนุนสภากาชาดไทยในการจัดหาโลหิตเพื่อนำมาช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตในการรักษาพยาบาลทั่วประเทศ พร้อมนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา

นายวิเชียร กล่าวว่า “กิจกรรมครอบครัวโตโยต้าร่วมบริจาคโลหิต ถวายพ่อหลวงเติมสุขให้คนไทย        จัดขึ้นเนื่องจากสภากาชาดไทย มีปริมาณเลือดสำรองไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานในแต่ละวัน ครอบครัวโตโยต้าจึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อรับบริจาคโลหิต โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 10 ล้าน ซีซี ภายในระยะเวลา  3 เดือนเริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2557”

แพทย์หญิงสร้อยสอางค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มตั้งแต่ปี 2532 หรือกว่า 25 ปี  โดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้จัด    หน่วยเคลื่อนที่ไปรับบริจาคโลหิต กับกลุ่มบริษัทในเครือ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยในปีนี้ บริษัท โตโยต้าฯ ได้ร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าและเครือข่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จัดโครงการ “ครอบครัวโตโยต้าร่วมบริจาคโลหิต ถวายพ่อหลวงเติมสุขให้คนไทย” เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557”

ผู้สนใจเข้าร่วมบริจาคโลหิตสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทุกแห่ง

ใหม่ Mini Cooper S 2014-2015 ราคา มินิ คูเปอร์ เอส ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

Mini Cooper ราคา
ราคา Mini Cooper มินิ คูเปอร์ 2,190,000.
ราคา Mini Cooper D มินิ คูเปอร์ ดี 2,440,000.
ราคา Mini Cooper S มินิ คูเปอร์ เอส 2,840,000.

ของแถมพิเศษ Mini Cooper S  ติดต่อ เซลล์ K.เปิ้ล 092-2490259   MINI Millennium Auto พระราม 4

ราคา Mini Cooper S ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

SPECFICATION  MINI Cooper S

อุปกรณ์มาตรฐาน Mini Cooper S 2014

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- สีภายนอก เมทัลลิค
- ล้อแม็ก 17 แบบ Crown Spoke
- ไฟตัดหมอก หน้า-หลัง
- ไฟหน้า Bi-Xenon
- ไฟหน้าส่องสว่างอัตโนมัติ เมื่อปลดล็อกและหลังดับเครื่อง
- ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
- ไฟท้ายแบบ LED
- ระบบควบคุมระยะการจอด หน้า-หลัง แบบ PCD
- ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
- ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
- ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าทำงานอัตโนมัติ
- ชุดตกแต่งแบบอลูมิเนียม รอบคัน
- ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- ตกแต่งภายในลาย Striped Alloy
- วัสดุหุ้มเบาะ หนังแท้
- กระจกไฟฟ้า
- พวงมาลัยแบบสปอร์ต หุ้มหนัง
- พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำได้
- เบาะนั่งคนขับ และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับสูง-ต่ำได้
- ออนบอร์ดคอมพิวเตอร์
- ระบบนำทาง Navigaor
- USB , ที่ชาร์จไฟคอนโซลด้านหน้า

อุปกรณ์มาตรฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก
- ที่วางแก้วน้ำ
- ที่วางแขนคนขับ
- ช่องเก็บของบริเวณด้านหน้าและข้างประตู
- พนักพิงศีรษะปรับระดับได้
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า
- พวงมาลัยพาวเวอร์ EPS
- แอร์อัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
- เครื่องเสียง Mini Radio Boost , MP3 , CD, USB, AUX
- ลำโพง 6 ตัว
- ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
- ระบบสั่งการด้วยเสียง Voice Control
- ระบบ Paddle Shifts
- ระบบ Cruise Control
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
- ปุ่มสตาร์ทรถยนต์ Engine Start/Stop
- เบาะหลังปรับและพับได้ 50:50

อุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัย
- Air Bag คู่หน้าและด้านข้าง, ม่านนิรภัย
- ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ DSC
- ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ
- ระบบปลดล็อครถอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน หรือเกิดอุบัติเหตุ
- ตัวถังและคานเหล็กเสริมนิรภัย
- กระจกนิรภัย
- ดิสก์เบรค 4 ล้อ
- ระบบเซ็นทรัลล็อค
- ไฟเบรกดวงที่สาม แบบ LED
- กุญแจรีโมท
- กุญแจนิรภัย
- เข็มขัดนิรภัยปรับระดับได้
- พวงมาลัยยุบตัวได้
- อุปกรณ์ติดตั้งเบาะนั่งเด็ก ISOFIX

COLORS สี Mini Cooper S 2014

COLORS สี MINI COOPER S

Mini Cooper S 2014 มีให้เลือกทั้งหมด 11 สี (มีให้เลือกแบบหลังคาสีขาว และหลังคาสีดำ)
1. สีขาวมุก
2. สีเหลือง
3. สีเทา
4. สีแดง
5. สีดำ
6. สีเขียว
7. สีน้ำเงิน
8. สีเทา (หลังคาดำ)
9. สีน้ำตาล
10. สีขาว
11. สีแดง (หลังคาดำ)

ของแถมพิเศษ มินิ คูเปอร์ เอส  ติดต่อ เซลล์ K.เปิ้ล 092-2490259  MINI Millennium Auto พระราม 4

Chevrolet Captiva ให้ทุกการเดินทาง เป็นความทรงจำที่ดี ไม่มีลืมเลือน

เชฟโรเลต แคปติวา รถยนต์ SUV 7 ที่นั่ง ปรับโฉมใหม่ล่าสุดปี 2014 สวยและเท่กว่าเดิม มีให้เลิอกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร หรือจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรที่รองรับน้ำมันเบนซิน E20 / E85 แล้ว มั่นใจได้เลยว่าทุกการเดินทางของคุณจะสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน

ล่าสุด Chevrolet Captiva ได้รับรางวัลรถดึงดูดใจที่สุดแห่งปี 2013 จากสถาบัน เจ.ดี. พาวเวอร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัวทั้งสไตล์และสมรรถนะ ประสิทธิภาพการขับขี่ที่คล่องตัว รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมืองได้อย่างสมบรูณ์แบบ

ด้านหน้ามีการปรับดีไซน์ของสเกิร์ตและกรอบช่องไฟตัดหมอกให้สวยทันสมัยมากขึ้น

ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ทำงานอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่าภายนอกมีแสงสว่างไม่เพียงพอต่อการขับขี่ ปรับความสูงต่ำของไฟหน้าได้ 4 ระดับ พร้อมระบบ Automatic Parking Lamp เปิดไฟหน้าทิ้งไว้ 30 วินาทีหลังจากจอดรถในที่มืด ถือว่ารู้ใจผู้ขับขี่จริงๆ

กระจกมองข้างพับไฟฟ้า พร้อมระบบไล่ฝ้า ลดการเกาะตัวของหยดน้ำ

ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ปรับความเร็วในการปัดตามปริมาณน้ำฝนให้อัตโนมัติอีกด้วย

ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/50 R19

SUV สำหรับการเดินทางไกล แน่นอนว่าต้องมีราวสีเงินบนหลังคา

กันชนท้าย ไฟท้าย และปลายท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ดูสวยงามมากขึ้นตามยุคสมัย

สองทางเลือกที่เลือกได้ตามใจชอบ ใหม่ล่าสุดกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว 168 แรงม้า ที่รองรับทั้ง E20 และ E85 ช่วยให้ประหยัดเงิน ลดภาวะ

หรือเครื่องยนต์ดีเซล 163 แรงม้าที่ทำงานเงียบกว่าเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป และประหยัดเพราะค่าน้ำมันถูกกว่า

อีกจุดเด่นที่สำคัญของ Captiva ก็คือ เป็นรถ SUV 7 ที่นั่ง ที่สามารถเข้าออกห้องโดยสารได้สะดวก ปรับพับเบาะที่นั่งในสองแถวหลังให้เรียบไปกับพื้นได้อย่างอิสระ เพื่อใส่สัมภาระขนาดใหญ่ได้ สะดวกสบายสำหรับทุกการเดินทาง ห้องโดยสารกว้างแม้กระทั่งที่นั่งแถวหลังสุด เบาะสูงพอดี มี Leg room ที่พอเพียง ไม่เมื่อยล้าเมื่อนั่งนานๆ นอกจากนี้ยังเพลิดเพลินไปกับระบบเสียง 3 มิติภายในรถ สร้างสนามเสียงครอบคลุมทุกที่นั่ง

ยังไม่หมดแค่นั้น เบาะคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง และปรับความแรงลมเครื่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งตอนหลังได้มากถึง 3 ระดับ มั่นใจได้เลยว่าเย็นทั่วถึงทั้ง 7 ที่นั่งอย่างแน่นอน

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ และ Cruise Control

กุญแจ Immobilizer แบบใหม่ พกพาได้สะดวก สตาร์ตรถได้โดยไม่ต้องควักเสียบกุญแจ

มาตรวัดที่เปี่ยมไปด้วยอรรถประโยชน์เต็มพื้นที่ อ่านง่าย มองเห็นได้ชัดสะดุดตา พร้อมจอภาพแสดงข้อมูลที่ผู้ขับขี่ควรรู้

ไม่ต้องกลัวหลงทาง ด้วยระบบนำทาง สั่งงานด้วยระบบสัมผัสบนจอภาพขนาด 7 นิ้ว แสดงผลแผนที่แบบ 3 มิติ หรือใช้งานเป็นเครื่องเสียงเล่นไฟล์วิดีโอแบบ MP4 ก็ได้ ออกจอภาพเดียวกัน โดยไฟล์เพลงหรือวิดีโอที่เล่น จะต้องบันทึกใส่ SD Card ไว้ เสียบเข้ากับตัวเครื่องด้านหน้า

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Driver Shift Control เปลี่ยนเกียร์แบบกึ่ง Manual ได้ โดยเกียร์จะคำนวณความสัมพันธ์ของความเร็วรถ ความเร็วรอบ และแรงบิดของเครื่องยนต์ ประสานการทำงานกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ และระบบ ESP ให้รถทรงตัวดี เกาะถนนดีเยี่ยมในทุกสถานการณ์

ที่วางแขนพร้อมกล่องเก็บของ

ช่องเก็บของและที่วางแก้วเครื่องดื่มในขณะเดินทาง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

ระบบความปลอดภัยใน Chevrolet Captiva

Stability ระบบป้องกันและช่วยการควบคุมแบบ 360 องศา ทำงานร่วมกัน 6 ฟังก์ชัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและควบคุมได้ทุกสถานการณ์ ดังนี้

• ABS (Anti-Lock Braking System) ระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก เมื่อเบรกกะทันหัน

• EBD (Electronic Brake-Forve Distribution) ระบบกระจายแรงเบรก ที่ช่วยหยุดรถในระยะที่สั้นลง

• TCS (Traction Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล

• ESP (Electronic Stability Program) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

• ARP (Active Rollover Protection) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ช่วยกระจายแรงเบรกไปที่รถทั้ง 4 ล้ออย่างสมดุล เพื่อให้ควบคุมรถให้กลับสู่ภาวะปกติได้ง่ายยิ่งขึ้น

• HBA (Hydraulic Brake Assist) ระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮดรอลิก

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีระบบเข็มขัดนิรภัยดึงกลับอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยให้กับทุกที่นั่ง, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน HSA (Hill Start Assist) มั่นใจได้ว่าปลอดภัยทั้งขึ้นและลงทางลาดชัน

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่การันตีได้อย่างดีว่า Chevrolet ตั้งใจให้ Captiva เป็น SUV พันธุ์แท้ ที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน เพื่อให้ทุกการเดินทางของกลุ่มเพื่อน ญาติมิตร หรือครอบครัว เป็นความประทับใจไม่รู้ลืม ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำทั่วทั้งคัน ใส่สัมภาระได้เยอะมากขึ้นเมื่อปรับเบาะที่นั่ง เครื่องยนต์ก็มีให้เลือก 2 แบบ แต่ยังให้ความแรงและความประหยัดควบคู่ไปด้วยกัน สุดท้ายเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร ก็เป็นสิ่งที่ Chevrolet ให้ความสำคัญ จึงมีระบบ Safety ให้มาอย่างมากมาย มีประโยชน์ใช้งานได้จริง

FORD ชวนเออร์บันนิสต้าจัดโรดทริปสุดชิลไปกับ FORD EcoSport ใหม่

หลังจากทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่ตลอดสัปดาห์ ก็ถึงเวลาที่หนุ่มสาวเออร์บันนิสต้าจะเริ่มแพลนทริปชิลๆ ในช่วงสุดสัปดาห์  และเมื่อนึกถึง “กิจกรรมสนุกๆ” สำหรับวันหยุด หลายคนจึงคิดถึงการช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าหรูๆ หรือตระเวนชิมอาหารร้านเก๋ๆ ในเมือง แต่ช่วงหลังมานี้ คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจกับกิจกรรมเอ้าท์ดอร์มากขึ้น “ทริปชิล” ต่างจังหวัดจึงเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น หลายคนมองหาทางเลือกแปลกใหม่เพื่อหลบไปพักจากแสงสีเสียงในเมืองใหญ่ ‘รถเก๋ง’ จึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้อีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้ ฟอร์ดจึงได้ออกแบบฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ เอสยูวีดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ด้วยการผสมผสานความคล่องแคล่วทันสมัยกับการประหยัดน้ำมันของรถขนาดคอมแพค เข้ากับการใช้งานแบบอเนกประสงค์และความทนทานของรถเอสยูวี ทำให้ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ เป็นรถที่เพอร์เฟ็คที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวไปต่างจังหวัด

เริ่มทริป…ด้วยความสนุก

ทริปดีๆ ต้องเริ่มตั้งแต่นาทีแรก และเอคโค่สปอร์ต ก็คือรถที่พร้อมมอบความสนุกให้กับผู้ร่วมเดินทางทุกคน ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์หรือยูเอสบีเข้ากับเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลระดับโลกอย่างฟอร์ด ซิงค์ (Ford SYNC®) และเลือกเพลงโปรดผ่านบลูทูธในโทรศัพท์หรือจากยูเอสบีได้โดยใช้การสั่งงานด้วยเสียง

อุณหภูมิในรถก็มีความสำคัญ ยิ่งอากาศร้อนอย่างในประเทศไทย ยิ่งจำเป็นต้องเพิ่มความ “คูล” ให้กับผู้โดยสาร เอคโค่สปอร์ตมีระบบควบคุมความเย็นที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปรับอุณหภูมิภายในรถที่จอดกลางแดดจัดจาก 65 องศาเซลเซียส ให้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส ได้ภายในเวลาเพียง 10 นาที

เดินทางอย่างปลอดภัย

เวลาออกทริปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ บางครั้งผู้ขับขี่อาจสนุกสนานกับบทสนทนาจนลืมใส่ใจต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เอคโค่สปอร์ต มีเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น และยังสนุกกับเพื่อนได้โดยไม่เสียอรรถรส ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเซ็นเซอร์ถอยหลัง (Rear parking sensosr) ที่จะส่งสัญญาณเตือน หากมีสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหลังรถที่คนขับอาจมองไม่เห็น และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) ช่วยไม่ให้รถไหลขณะที่อยู่บนทางลาดชัน เหมาะสำหรับทั้งตอนขึ้นเขาและลงเขา

เอคโค่สปอร์ตยังมีพื้นที่ใต้ท้องรถสูงถึง 200 มิลลิเมตรจากพื้นถนน ช่วยให้คุณพร้อมลุยไปบนถนนที่ขรุขระ อีกทั้งยังมีมุมปะทะ (Approacher angle) 25 องศา และมุมจาก (Departure angle) 35 องศา ไม่ว่าแก๊งเพื่อนจะพากันบุกตะลุยไปที่ไหนก็ไม่หวั่น

การเดินทางในช่วงที่ฝนตกหนักก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณอีกต่อไป เพราะเอคโค่สปอร์ตลุยน้ำได้ลึกถึง 550 มิลลิเมตร น้ำท่วมขังระหว่างทางจึงกลายเรื่องเล็กไปเลย

นอกจากนี้ เทคโนโลยีพวงมาลัยพาวเวอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (EPAS) ของเอคโค่สปอร์ต ยังช่วยเสริมความมั่นใจในการขับขี่ อีกทั้งวงเลี้ยวที่แคบยังช่วยให้คุณกลับรถและหักเลี้ยวในถนนแคบๆ หรือในเส้นทางคดเคี้ยวได้อย่างง่ายดาย

จัดระเบียบสัมภาระ…จัดเต็มความสนุกสำหรับทริป

หลายคนคงเคยรู้สึกอายเวลาชวนเพื่อนร่วมออกเดินทางไปด้วยกัน แต่รถของคุณกลับเต็มไปด้วยข้าวของกระจัดกระจาย นอกจากจะไม่สวยงามและกินพื้นที่ในรถแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น กระป๋องหรือขวดน้ำอาจจะไปติดใต้คันเร่งหรือแป้นเบรคในขณะขับขี่

ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ทำให้การจัดระเบียบภายในรถง่ายขึ้น ด้วยช่องเก็บของถึง 20 จุด คุณจึงไม่ต้องวางของกระจัดกระจายบนเบาะหรือบนพื้นอีกต่อไป

นอกจากช่องเก็บของที่ผู้ขับขี่สามารถหยิบใช้งานได้ง่ายแล้ว เอคโค่สปอร์ต ยังมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างเยี่ยมยอด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสนุกให้กับทริปด้วยการจัดเต็มขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มอย่างเต็มที่ หรือแม้แต่อุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างครีมกันแดด และร่มก็มีช่องเก็บที่เหมาะสมเพื่อความพร้อมในการใช้งาน

คำแนะนำดีๆ…สำหรับทริปมันส์ๆ

การเดินทางจะสนุกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการวางแผนที่ดี และหากคุณเตรียมเดินทางไกล การเปลี่ยนคนขับบ้างก็น่าจะเป็นไอเดียดีๆ ที่ช่วยไม่ให้ผู้ขับขี่เหนื่อยล้าจนเกินไป

การแบ่งหน้าที่ให้ลงตัวก่อนออกเดินทางก็สำคัญ บางคนอาจเชี่ยวชาญการอ่านแผนที่ บางคนอาจถนัดวางแผนเลือกร้านอาหาร การตกลงแบ่งงานกันให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเดินทาง จะช่วยเพิ่มความสนุกและลดความกังวลระหว่างทริป

ราคาน้ำมันอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความกังวลให้กับหนุ่มสาวทั้งหลาย แต่ด้วยเครื่องยนต์ทีไอวีซีทีขนาด 1.5 ลิตร ที่มีประสิทธิภาพของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่  15.4 กิโลเมตร/ลิตร ผู้ขับขี่จึงอุ่นใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการขับรถเอสยูวีขนาดใหญ่

ชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินคืออีกสิ่งสำคัญที่ควรมีติดรถ โดยสิ่งจำเป็นต่างๆ ประกอบด้วย อุปกรณ์ไฟสัญญาณ น้ำ ขนมที่ให้พลังงานสูง และไฟฉาย เพียงเท่านี้ เออร์บันนิสต้าทั้งหลายก็พร้อมกระโดดขึ้นรถฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต คันเก่ง ออกตะลุยไปกับทริปมันส์ๆ ช่วงสุดสัปดาห์นี้กันแล้ว

Cadillac เตรียมใช้ “เทคโนโลยีการสื่อสารอัจฉริยะ” สุดล้ำ ในรถรุ่นปี 2017

ดีทรอยท์ – แมรี่ บาร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม เปิดเผยระหว่างงานประชุมอินเทลลิเจนท์ ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม เวิลด์ คองเกรส [Intelligent Transport System (ITS) World Congress] ในเมืองดีทรอยท์ว่า จีเอ็มจะเริ่มใช้ “เทคโนโลยีการสื่อสารอัจฉริยะ” ในรถคาดิลแลครุ่นปี 2017

ภายในอีกสองปีข้างหน้า รถคาดิลแลค รุ่นปี 2017 ใหม่ล่าสุดจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อันล้ำสมัยที่มีชื่อว่าซูเปอร์ครูส (Super Cruise) ขณะเดียวกันคาดิลแลค ซีทีเอส รุ่นปี 2017 จะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างยานยนต์หรือวีทูวี (vehicle-to-vehicle – V2V)

“นวัตกรรมช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์โลกและเรากำลังเดินหน้าพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไว้” บาร์ร่ากล่าว “เราไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีให้สูงขึ้นเท่านั้น แต่เรายังมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก เราจะยกระดับการขับขี่
ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันล้ำสมัย”

ซูเปอร์ครูสเป็นเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติของจีเอ็มที่ช่วยให้ลูกค้ามีประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นการขับอยู่ในช่องทางจราจร การเบรกและควบคุมความเร็วโดยอัตโนมัติบนถนน ระบบนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ที่มีความระมัดระวัง สามารถใช้งานได้ทั้งในสภาพการจราจรติดขัดและบนถนนทางไกล

ขณะที่เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างยานยนต์หรือวีทูวีสามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนถนนและบรรเทาปัญหาการจราจรอันติดขัดได้ด้วยการรับและส่งข้อมูลความปลอดภัยเบื้องต้น อาทิ ตำแหน่ง ความเร็วและทิศทางของรถยนต์ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าหากัน เทคโนโลยีนี้จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยเชิงรุกอย่างระบบแจ้งเตือนป้องกันการชนด้านหน้าซึ่งมีอยู่ในรถหลายรุ่นที่จำหน่ายในปัจจุบัน

อุบัติเหตุบนถนนยังคงเป็นปัญหาในทุกประเทศทั่วโลกเนื่องจากความต้องการในการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลกมีความแออัดมากยิ่งขึ้น ผลสำรวจล่าสุดของหน่วยงานเพื่อความปลอดภัยการจราจรแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Highway Traffic Safety Administration) คาดการณ์ว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนในสหรัฐฯ ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมรวมมูลค่ามากกว่า 870,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี  “การพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นถือเป็นความรับผิดชอบของเรา” บาร์ร่ากล่าว

รอยัล การ์เด้น พลาซ่า พัทยาฉลอง 25 ปีจัดแคมเปญลุ้นรถ MINI COOPER

กรุงเทพฯ – 4 สิงหาคม 2557 - ศูนย์การค้า รอยัลการ์เด้น พลาซ่า พัทยา ฉลองครบรอบ 25 ปี จัดแคมเปญลุ้นรับรถยนต์ MINI Cooper Countryman Look 1 และรางวัลอื่นๆอีกมากมายกว่า 2.5 ล้านบาท

ร่วมลุ้นเป็นเจ้าของรางวัลใหญ่ง่ายๆ ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 ตุลาคม 2557 เมื่อซื้อสินค้าครบทุก 300 บาท ที่ศูนย์การค้า รอยัลการ์เด้น พลาซ่า พัทยา รับคูปองชิงโชค 1 ใบ 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์

นายโรเบิร์ต คอลลินส์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้า รอยัล การ์เด้น พลาซ่า กล่าวถึงแคมเปญใหญ่ในครั้งนี้ว่า “ในปีนี้ ศูนย์การค้า รอยัลการ์เด้น พลาซ่า พัทยา เปิดให้บริการครบรอบ 25 ปี ทางเราจึงอยากมอบความสุข และคืนกำไรให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องกับแคมเปญ 25^th ANNIVERSARY CELEBRATION MINI GIVEWAY”

ของรางวัลสำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ รวมถึง รถยนต์ MINI Cooper Countryman Look1 มูลค่า 1,840,000 บาท 1 รางวัล,  iPad Mini 4 รางวัล มูลค่า 53,000 บาท,  สร้อยคอทองคำ 4 รางวัล มูลค่า 44,000 บาท และรางวัลอื่นๆ อาทิ โทรทัศน์ 42 นิ้ว และ Gift Voucher 2,000 บาท 80 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลทั้งหมดกว่า 2.5 ล้านบาท

ปิดรับคูปองวันที่ 24 ตุลาคม 2557  ที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น G ศูนย์การค้า รอยัลการ์เด้น พลาซ่า พัทยา  และประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 29 ตุลาคม 2557 ทางเว็บไซต์ http://www.royalgardenplaza.co.thและ www.facebook.com/royalgardenplazapattaya

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.royalgardenplaza.co.thและ http://www.facebook.com/royalgardenplazapattaya หรือโทรสอบถามข้อมูลที่ 038-710-294

Test Drive : รีวิว Chevrolet Sonic 1.6 LTZ สนุกและโดดเด่นอย่างมีสไตล์

ความแปลกใหม่ เอกลักษณ์ที่แตกต่าง กลายเป็นจุดเด่นของ เชฟโรเลต โซนิค ที่ถูกใจวัยรุ่น และยังจำกันได้หรือไม่ ในภาพยนตร์ Transformers 4 (ภาคล่าสุด) ก็ได้เห็นสมรรถนะที่ดีเยี่ยมของรถยนต์รุ่นนี้ ในขณะที่ถูกไล่ล่าจากองค์กรลับที่ต้องการกวาดล้างกลุ่ม Autobot ออกมาตามหารถบรรทุกหัวลากสภาพเก่าเป็นเศษเหล็ก หลบหนีการไล่ล่าแบบเอาเป็นเอาตายไปพร้อมกับ Optimus Prime บนเส้นทางสุดวิบากของไร่สวนที่ห่างไกลจากเมืองหลวง แทบไม่น่าเชื่อว่ารถยนต์รุ่นนี้จะมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ลุยในเส้นทางแบบโหดได้ นำพาตัวละครสำคัญในภาพยนตร์รอดพ้นมาได้สำเร็จ

เคยนำมาโชว์ที่สยามพารากอนด้วย เผื่อว่าใครสนใจจะแต่งรถ เลียนแบบในภาพยนตร์ แต่มีข้อสังเกตว่าหลังจากที่ภาพยนตร์ Transformers 4 ออกจากโรงไปแล้ว เราพบเห็น Sonic ป้ายแดงบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก

ในครั้งนี้ เป็นการรีวิวและทดสอบขับ Chevrolet Sonic 1.6 LTZ ตัวถังแบบ 5 ประตู สี Orange Rock ได้รับความเอื้อเฟื้อจากโชว์รูมเชฟโรเลต ราชเทวี ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ ผู้สนใจก็สามารถนัดหมายเพื่อแวะไปทดสอบขับได้เช่นกัน

ดีไซน์ภายนอกตัวรถ

มาดูดีไซน์รอบคันกันก่อน

ครบถ้วนทุกมุมมองเหมือนเห็นด้วยตาตัวเอง สวยเท่แบบนี้ โดนใจวัยรุ่นอย่างแน่นอน

มาเจาะลึก ดูกันทีละองค์ประกอบสำคัญกัน เริ่มจากไฟหน้า โคมไฟหน้าแบบฮาโลเจนขนาดใหญ่ ออกแบบให้ดูคล้ายโคมไฟแบบเปลือย พร้อมไฟเลี้ยวที่มุม เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร ฉีกความจำเจของรถยนต์คู่แข่งอันแสนน่าเบื่อ ที่วิ่งกันเกลื่อนเมือง ถ้าเป็นวัยรุ่นที่มีความ Indy อยู่ภายในตัว ไม่ตามแฟชั่น ไม่ชอบตามใคร อยากโดดเด่น ชอบความแปลกใหม่ เชื่อว่า Sonic จะสะท้อนอารมณ์นั้นได้

ไฟตัดหมอกหน้า มีดีไซน์ที่สอดรับกับไฟหน้า รถยนต์รุ่นนี้ใช้โคมไฟกลมทุกดวงตั้งแต่ไฟหน้ายันไฟท้าย

กระจังหน้าในสไตล์ที่คล้ายกับรุ่น Captiva

ดูห้องเครื่องยนต์กันหน่อย

ฝากระโปรงหน้า มีน้ำหนักที่ไม่หนักเกินไป นักเรียนนักศึกษาตัวเล็ก ๆ หรือสาว ๆ ก็สามารถเปิดเองได้

เครื่องยนต์เบนซิน ECOTEC แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1,598 ซีซี ให้กำลัง 115 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 155 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ที่สำคัญคือ รองรับน้ำมัน E85 ช่วยให้ประหยัดเงินไปได้เยอะ แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ จ่ายกระแสได้เยอะเต็มที่

มาดูด้านท้ายกันบ้าง โคมไฟท้ายก็มีเอกลักษณ์ในแนวทางเดียวไฟหน้า   โคมไฟกลมมีขนาดใหญ่กำลังดี

สปอยเลอร์สุดเท่ ติดตั้งมาจากโรงงาน

เสาอากาศวิทยุบนหลังคา

ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว มาพร้อมกับยางขนาด 205/55 R16

กระจกมองข้างรูปทรงสวยงามพร้อมไฟเลี้ยว LED เป็นแนวเส้น สว่างสวยงาม ชัดเจน

มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถพร้อมติดตั้งแถบโครเมียม

ที่เปิดประตูห้องโดยสารตอนหลัง แปลกใหม่

ขอบกระจก มีแนวเส้นโครเมียม เพิ่มความหรูหรา

ฝาถังน้ำมันอยู่ด้านขวา มีสติ๊กเกอร์ยืนยันว่ารองรับน้ำมัน E85 แล้ว

มีระบบไล่ฝ้าที่กระจกหลัง พร้อมที่ปัดน้ำฝน

โลโก้โบว์ไทด์ขนาดใหญ่ และแถบท้ายโครเมียม

เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด

มีบอกเกรด ว่าเป็น Sonic รุ่น LS, LT หรือ LTZ

ปุ่มเปิดฝาท้าย

ไฟเบรค LED ดวงที่ 3

ยางอะไหล่ พร้อมเครื่องมือเปลี่ยนล้อ

ฝาท้ายเปิดได้สูง ไม่เกะกะ ไม่ต้องกลัวว่าศีรษะจะไปชน

หลุมมือจับปิดฝาท้าย

ฝาท้าย มีน้ำหนักเบา เปิดได้ไม่ยาก มีโช้คอัพช่วยผ่อนแรงได้มาก

พื้นที่วางสัมภาระท้ายรถ

ถาดวางของหรือร่ม ซึ่งสามารถถอดออกได้หากรู้สึกว่าเกะกะ

พับเบาะหลังเพื่อเพิ่มความจุ ใส่สัมภาระขนาดใหญ่มากขึ้นได้

กุญแจรีโมท Immobilizer

พับเก็บได้ ดีดออกมาได้ง่ายเพียงกดปุ่ม

ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร

ทัศนวิสัยในการขับ ถือว่าค่อนข้างดี คอนโซลออกแบบได้สวยงามทันสมัยดี

แนวเสาหลังคา ตรงส่วนของฐานก้านกระจกมองข้าง ดูหนาไปหน่อย บดบังมุมมองพอสมควร

เครื่องเสียง ดูเรียบ ๆ มีปุ่มน้อย เพราะสั่งงานบนจอภาพ

รู้สึกว่ากระจกมองข้าง ยื่นออกไปข้าง ๆ มากกว่ารถทั่วไป

ติดตั้งลำโพง Tweeter ไว้ที่ฐานของเสาหลังคาทั้งสองฝั่ง

เริ่มต้นที่ฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า ประตูตกแต่งด้วยสีส้ม-เทา วัสดุเป็นพลาสติกล้วน ไม่มีหุ้มหนังเทียม

เข้าออกได้สะดวก แม้ว่ารถดูมีขนาดเล็ก

ห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำส้ม

เบาะผ้า ค่อนข้างนุ่ม สีดำ มีลวดลายตกแต่งให้ดูมีบุคลิกวัยรุ่นที่สดใส

ส่วนของสีส้ม ลากยาวจาก Dashboard ไปถึงแผงประตูทั้งสองข้างอย่างกลมกลืน

ความสูงของเบาะ ถือว่าเหมาะสม ไม่เตี้ยเกินไปจนรู้สึกเมื่อย

เบาะผ้า ทำความสะอาดไม่ยากเท่าไร แต่ต้องขยันดูดฝุ่น

ที่พิงศีรษะ แบบนุ่ม ทำมุมโน้มเอนกำลังดี เย็บด้วยด้ายสีส้ม ดูสวยงาม

ที่เปิดประตูเป็นแบบโครเมียม

ช่องใส่ของจุกจิกด้านหน้า มีทั้งด้านบนและด้านล่าง

แต่ในช่องด้านบน มีช่องต่อสัญญาณเสียง Aux และช่องต่อ USB เข้าไปยังเครื่องเสียง

ช่องลมเครื่องปรับอากาศแบบหมุนปรับความแรงลมและทิศทาง

ช่องลมเครื่องปรับอากาศที่มีช่องใส่ของเล็ก ๆ อยู่ขนาบข้าง

ที่วางโทรศัพท์มือถือ ไม่กลัวว่าจะลื่นตกหล่น

กระจกมองหลังแบบธรรมดา ไม่มีระบบตัดแสงอัตโนมัติ

ไฟส่องแผนที่

มีกระจกส่องหน้า ทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสาร

ลำโพง Tweeter

ลำโพง Woofer

ช่องใส่เครื่องดื่มหรือของใช้จุกจิกทั่วไป

เกียร์และปุ่มปรับเครื่องปรับอากาศ

มีที่เก็บแว่นตาของคนขับให้ด้วย

ที่ล็อคประตูเป็นแบบดึง/กด

สวิตช์กระจกหน้าต่างและปรับกระจกมองข้าง

แนวตกแต่งสีส้มเชื่อมต่อกันสวยงาม

มีช่องใส่ขวดน้ำดื่มหรือของใช้

เบรคและคันเร่ง ด้านขวาเป็นคันโยกเปิดฝากระโปรงหน้า

ช่องเสียบกุญแจ ซึ่งรุ่นนี้ยังไม่มีปุ่ม Push Start

เบาะที่นั่งคนขับ ปรับความสูงได้

ห้องโดยสารดูกว้าง อาศัยการตกแต่งดูหลอกตาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แคบจนเกินไป

พวงมาลัยใหญ่ จับกระชับมือดีมาก พร้อมปุ่มสั่งงานระบบเสียงด้านขวา

เกียร์มีปุ่ม +/- สำหรับใช้เปลี่ยนระดับเกียร์ด้วยตนเองในโหมด M หรือ Manual

ปุ่มปรับเครื่องปรับอากาศ หมุนเบา ๆ นุ่ม ๆ ไม่ต้องออกแรง ไม่มีเสียงรบกวนขณะปรับหมุน

ช่องจ่ายไฟสำหรับ Car Charger

จอภาพแสดงภาพจากกล้องมองหลังในขณะถอยหลัง ให้ข้อมูลเป็นภาษาไทย

จอแสดงผลของเครื่องเสียง คมชัด สวยงาม กราฟฟิคดูทันสมัยมาก ตัวอักษรคมกริบ อ่านได้ง่ายมาก ขนาด 7 นิ้ว สั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่ทำงานได้ไว ไม่ต้องใช้เล็บจิกหรือออกแรงจิ้มกดมาก

มาตรวัดความเร็วรอบพร้อมจอแสดงข้อมูลในการขับขี่ ทั้งความเร็ว เกียร์ ระดับน้ำมัน และระยะทาง

สวิตช์ไฟฉุกเฉินกับสวิตช์ล็อคประตู อยู่ใต้จอภาพเครื่องเสียง

มาดูฟังก์ชั่นของระบบเครื่องเสียง MyLink

เมนูสวยงาม ทันสมัย

เมนูการตั้งค่าหลักของนาฬิกา วิทยุ การเชื่อมต่อ การตั้งค่าของรถยนต์ และภาษา รวมไว้ที่นี่

ใช้งานกับแอพพลิเคชั่นเพื่อฟังวิทยุออนไลน์ก็ได้

การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่ารถยนต์คู่แข่ง

ปิดเสียงสัมผัสหน้าจอได้

ตั้งค่าวิทยุ

การตั้งค่าของตัวรถ ก็รวมอยู่ในนี้ เช่น ตั้งค่าการล็อคประตู และเมนูอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวก

ตั้งค่าการตอบสนองของไฟหน้าและไฟท้าย หรือเสียงเตือนในขณะล็อคหรือปลดล็อคได้

ตั้งค่าการล็อคประตูแบบอัตโนมัติ

กำหนดให้ไฟหน้าติดต้าง 30 วินาทีหลังจากออกจากรถ ล็อครถ แล้วเดินออกไปก็ได้

มาดูในส่วนของห้องโดยสารตอนหลังกันบ้าง

Leg room กว้างกำลังดี วางเท้าได้สะดวก

สามารถสอดเท้าไว้ใต้เบาะหน้าก็ได้ ถ้ารองเท้ามีขนาดไม่ใหญ่เกินไป

ที่พิงศีรษะ แบบนุ่ม พิงได้โดยไม่เมื่อยคอหรือเจ็บศีรษะ  พร้อมกดเพื่อพับเบาะที่นั่งลงมาได้ง่าย ข้างหลังใช้วางของใช้ทั่วไป

พับเบาะลงมาเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระท้าย

แถมเพิ่มเป็นอีกทางเลือก สำหรับที่อาจจะสนใจเปรียบเทียบกับรุ่น 4 ประตู ซึ่ง Sonic ในรุ่น 4 ประตูก็มีหลายคนนำไปเปรียบเทียบกับ Honda City และ Toyota Vios ทั้ง ๆ ที่เครื่องยนต์คนละขนาดกัน แต่มิติของตัวรถและราคา อยู่ในระดับเดียวกัน

โคมไฟท้ายก็ยังเน้น Concept กลม แต่ก็ไม่ได้แปลกแหวกแนวหลุดโลกจนเกินไป

ดีไซน์ของความเป็นรถเก๋ง มีส่วนท้าย นอกจากความสมส่วนแล้ว ก็ยังมีประโยชน์ใช้สอยในส่วนท้ายรถที่ดีกว่า

ดีไซน์ด้านหน้า ไม่แตกต่างจากรุ่น 5 ประตู Hatchback

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรถ และการตกแต่งภายในห้องโดยสาร ก็เหมือนกันทุกประการ

มีจุดล็อคกับที่นั่งเด็กทารก

มีลายจุดที่ขอบหลังคา เพื่อบังแสงแดดในเวลากลางวัน แก้ไขปัญหาหลังคามีขนาดสั้นเกินไป

ความกว้างของภายในห้องโดยสาร เท่ากัน

จุดเด่นอยู่ที่ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ กว้างขวางกว่ารุ่น 5 ประตูอย่างมาก มีไฟส่องสว่างให้ด้วย

ราคาจำหน่าย

Chevrolet Sonic รุ่นที่รีวิวในบทความนี้ เป็นเกรดท็อปสุด คือ 1.6 AT LTZ ราคาเท่ากันทั้งแบบตัวถัง 4 และ 5 ประตู คือ 7.19 แสนบาท

ทดสอบสมรรถนะ

เมื่อมองด้วยสายตาจากภายนอก แรกเห็นก็คิดว่า รถดูคันเล็ก ประเมินไว้ว่าน่าจะกว้างกว่ารถ Hatchback ที่เราพบเห็นบ่อยบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็น Mazda 2 หรือ Ford Fiesta แต่น่าจะเล็กกว่า Honda Jazz เมื่อเข้าไปนั่งและสตาร์ตรถ ก็พบว่าห้องโดยสารมีความกว้างที่ถือว่าพอดี ไม่อึดอัด เบาะกระชับกับสรีระดี เหลือพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะมากพอสมควร พิงศีรษะได้ ไม่แข็งจนกระแทกศีรษะ นุ่มสบายกำลังดี เบาะไม่แข็งจนเกินไป

ไฟเรืองแสงของปุ่มต่าง ๆ และมาตรวัด ใช้สีฟ้าน้ำทะเลเหมือนกันทั้งหมด ดูดีกว่าไฟสีส้มแบบที่ใช้รถยนต์ราคาถูก เครื่องปรับอากาศ เย็นเร็วดีพอสมควร ลมแรงจนทำให้เสียงดังไปหน่อย การตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ในช่วงออกตัว จะหน่วงเล็กน้อย ประมาณครึ่งวินาที ในขณะเร่งแซงก็เช่นเดียวกัน ไม่ได้ช้าอืดอาด ถือว่าขับสนุก เพียงแต่เกียร์เหมือนมีอาการลังเลบ้าง ตอบสนองช้าไปเล็กน้อย

เสียงการทำงานของเครื่องยนต์และเครื่องปรับอากาศ เข้ามาในห้องโดยสารบ้าง ไม่ถึงกับเงียบสนิท แต่ก็ไม่ได้ทำให้รำคาญใจ อัตราเร่งจะดีในช่วงปลายมากกว่าช่วงออกตัว พวงมาลัยมีน้ำหนักเยอะกว่ารถทั่วไป สาวตัวเล็กร่างบอบบาง อาจจะเหนื่อยหน่อยขณะที่เลี้ยวเข้าซอยหรือกลับรถที่เกาะกลางถนน ต้องหมุนพวงมาลัยกันเหนื่อย เมื่อขับด้วยความเร็วสูง พวงมาลัยก็เบาลงเล็กน้อย

สิ่งที่ประทับใจ

• ช่วงล่างเกาะถนนดีกว่ารถรุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกัน ทั้งทางตรง ทางโค้ง และบนถนนลื่น
• เกียร์ในโหมด Manual ขับสนุก ในโหมดเกียร์อัตโนมัติก็ตอบสนองได้ดี
• เบรคไว้ใจได้ ระยะเบรคเหมาะสม
• รองรับน้ำมัน E85
• มีกระจกส่องคู่หน้าที่แผงบังแดด
• เครื่องเสียงดีไซน์เมนูได้สวยงาม เสียงดีพอสมควร น่าใช้มากกว่าที่ติดมากับรถยี่ห้ออื่นในระดับเดียวกัน
• มีกล้องช่วยมองและกะระยะขณะถอยหลังเข้าจอด
• ไฟเรืองแสงของปุ่มภายในรถ เป็นสีฟ้าน้ำทะเล เย็นตา รู้สึกผ่อนคลายดีกว่าสีส้ม/แดง
• พวงมาลัยจับกระชับมือดี ไม่ลื่น ขนาดใหญ่เต็มมือ

สิ่งที่ไม่ประทับใจ

• เข็มขัดนิรภัยเฉพาะด้านคนขับเท่านั้นที่ปรับระดับสูงต่ำได้
• มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล ตัวเลขขนาดใหญ่ แสงรบกวนสายตา
• ล้ออัลลอย ดีไซน์ธรรมดา
• พวงมาลัยหนักเกินไปนิด
• หลังคาสั้นไปหน่อย แดดส่องเข้ามาในรถได้ง่ายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
• มุมมองของกระจกมองข้างน่าจะกว้างกว่านี้อีกนิด

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

• Honda City   และ Honda Jazz 1.5 เป็นคู่เปรียบเทียบกับ Sonic 1.6 LTZ ที่เหมือนมวยคนละรุ่น แต่ราคาอยู่ในระดับเดียวกัน ซึ่ง City / Jazz นั้นเพิ่งได้รับการทดสอบการชน ทำคะแนนด้านปลอดภัยได้ดี ออพชั่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีให้ใกล้เคียงกัน แต่สมรรถนะโดยรวมของ Sonic ดีกว่าเล็กน้อย
• Ford Fiesta 1.0L EcoBoost ที่มากับเทคโนโลยีใหม่ ทำให้แรงดุจรถแข่ง เร่งแซงสนุกมาก ออกตัวได้ว่องไว ขับสนุกมาก ห้องโดยสารค่อนข้างเล็ก แต่ก็ไม่ได้อึดอัดเท่าไรนัก โดยรวมสมรรถนะของ Sonic ยังสู้ไม่ได้ แต่ Ford บางคันก็มีปัญหาจุกจิกกวนใจ ส่วนงานบริการหลังการขายก็ยังไม่ค่อยน่าประทับใจ
• Mazda 2 กำลังจะตกรุ่นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ และห้องโดยสารแคบมาก เป็นตัวเลือกที่ควรหลีกเลี่ยง
• Suzuki Swift เครื่องยนต์ 1.2  อัตราการเร่งจะด้อยกว่า  ภายในห้องโดยสารจะคับแคบกว่า และศูนย์บริการมีน้อยและ อะไหล่แพง บริการยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร  แต่จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตสวยงาม ยังมีจุดเด่นและความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ดีไซน์สวยงาม สมรรถนะและความคุ้มค่าก็ถือว่าดีพอตัว ชุดแต่งมีให้เลือกมากมาย

ดูรายละเอียด CHEVROLET SONIC เพิ่มเติมแต่ละรุ่นและราคาได้ที่

ใหม่ Chevrolet Sonic 2014-2015 ราคา เชฟโรเลต โซนิค ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^

Morgan เปิดตัวรถแบบ SP1 Project ยุคคลาสสิกกลับมาทำใหม่

ค่ายรถสปอร์ตชื่อดังจากสหราชอาณาจักรอย่างMorgan นั้นได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่ารถแบบใหม่ของพวกเขาอย่างเจ้า “SP1” นั้นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ในรูปแบบรถคลาสสิกย้อนยุค
สำหรับรถสปอร์ต  Morgan SP1  นั้นมีชื่อเต็มๆว่า (Special Project 1) หรือเรียกว่า Morgan Special Projects Division นั้นก็ได้เตรียมจะส่งมอบให้ลูกค้ารายใหม่ๆในเร็วๆนี้ตามความต้องการ
โดยมันได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแบบ  2009 LifeCar concept แต่มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้เจ้ารถแบบ Morgan SP1 นั้นสามารถวิ่งบนถนนได้ตามปกติและดีขึ้นกว่าเดิม

การออกแบบย้อนยุคนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง นอกจากนี้มันยังสามารถตอบสนองการใช้งานในปัจจุบันได้ด้วยในรูปแบบ Morgan V6 Roadster ที่ขับเคลื่อนได้ดีกว่าเดิม” ผู้พัฒนาทิ้งท้าย