Quantcast
Channel: รถใหม่ 2025-2026 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์
Viewing all 8760 articles
Browse latest View live

ใหม่ All New Hyundai Veloster 2014-2015 ราคา ฮุนได เวโลสเตอร์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0

ใหม่ All New Hyundai Veloster 2014-2015 ราคา ฮุนได เวโลสเตอร์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

All New Hyundai Veloster ครั้งแรกในโลกกับรถสปอร์ตแฮทช์แบ็คแบบ 2+1 เพิ่มบุคลิกให้กับความเป็นสปอร์ตแท้ๆ  ด้วยประตูอัจฉริยะ ที่สะท้อนความเป็นตัวตนแนวคิด New Thinking, New Possibilities. ได้อย่างลงตัว All-New Hyundai Veloster คือผลงานการออกแบบตามหลักปรัชญา Fluidic Sculpture Design สร้างสรรค์ความสวยงามที่เร้าใจ และสมรรถนะที่ทรงพลังของทุกเส้นสายในทุกการขับขี่ ท้าทายทุกสายตา ด้วยความเป็นตัวตน ที่ไม่เคยมีมาก่อน ดุจดั่งงานศิลปะระดับสูงที่ทรงคุณค่า และเติมเต็มทุกจินตนาการ ให้คุณเพลิดเพลินกับความเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวคุณเอง

Hyundai Veloster ราคา
ราคา Hyundai Veloster ฮุนได เวโลสเตอร์  1,299,000.
ราคา Hyundai Veloster Turbo ฮุนได เวโลสเตอร์ เทอร์โบ  1,739,000.

 ราคา ฮุนได เวโลสเตอร์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐาน Hyundai Veloster

ความยาว x ความกว้าง x ความสูง : 4,220 x 1,790 x 1,399
  Hyundai Veloster  ราคา 1,299,000.
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- ล้อ 17×7.0J 5-Spoke Alloys
- ขนาดยาง 215/45 R17
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ไฟ LED ประดับที่โคมไฟหน้า
- ไฟส่องสว่างทางเมื่อดับเครื่อง
- กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
- แผ่นซับเสียงใต้ฝากระโปรงหน้า
- เสาอากาศประดับแบบ Shark Fin
- ปลายท่อไอเสียแบบคู่

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- พวงมาลัย / คันเกียร์หุ้มหนังแท้
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง และ เข้า-ออก)
- ปุ่มปรับเครื่องเสียงและโทรศัพท์ที่พวงมาลัย
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- แผงคอนโซลสีดำเงา
- เบาะหลังพับแบบ 60/40
- ช่องเก็บของที่ด้านหน้าพนักพิงและเบาะคนนั่งด้านหน้า
- แป้นคันเร่งและแป้นเบรคอะลูมินัมแบบสปอร์ต
- ไฟส่องในช่องเก็บของด้านหน้า
- เบาะผ้าแบบ Tricot
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ และ ปุ่มสตาร์ท
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- กล่องเก็บแว่นที่คอนโซลเหนือศีรษะ

ระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อ
- หน้าจอสี LCD ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว แบบสัมผัส
- เครื่องเล่นแผ่น CD แบบ 1 แผ่น รองรับ MP3
- ช่องต่อสำหรับ AUX/ USB
- ระบบบลูทูธสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่
- ระบบบลูทูธเชื่อมต่อเครื่องเสียงพกพา

ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ฝั่งคนขับและคนนั่ง)
- พนักพิงศีรษะนิรภัย
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ไฟเบรกดวงที่สาม
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ระบบกระจกนิรภัย
- สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง

Hyundai Veloster Sport Turbo ราคา 1,739,000.
- ล้อ 18×7.5J 5-Spoke Alloys with Chrome Inserts
- ขนาดยาง 215/40 R18
- ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์เลนส์ พร้อมไฟวงแหวน
- ระบบปรับระดับไฟหน้าแบบแมนวล
- ไฟท้ายแบบ LED
- ไฟตัดหมอกหลัง
- หลังคากระจกไฟฟ้าแบบพาโนรามิค
- กันชนหน้าและหลังแบบสปอร์ต
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- ที่ดันหลังเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า
- เบาะนั่งแท้
- ตาข่ายเพื่อยึดสิ่งของในที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
- ระบบปรับความอุ่นที่เบาะหน้า
- ใบปัดน้ำฝนแบบลู่ลม
- มาตรวัดเรืองแสง
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย
- ระบบควบคุมสเถียรภาพ ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
- ระบบจัดการสเถียรภาพรวม VSM
- ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน
- จุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก

EXTERIOR ภายนอก  Hyundai Veloster

INTERIOR ภายใน Hyundai Veloster

ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง และออกแบบการจัดวางตำแหน่งปุ่มควบคุมให้ง่ายต่อการใช้งานจริง การออกแบบเน้นรายละเอียดใช้ Silver Accents กับ glossy black ในจุดต่างๆบนคอนโซล ยกระดับห้องโดยสารให้ดูสปอร์ตและหรูหรา

Performance เครื่องยนต์ Hyundai Veloster

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำระดับแถวหน้า ทำให้เครื่องยนต์ฮุนไดเดินเรียบนิ่ง ทรงพลัง และให้ประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมระบบ D-CVVT วาล์วแปรผันคู่ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ระบบฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้แบบ Multi-Point Injection (เครื่อง G4FC ในรุ่น Veloster) และ แบบ Direct Injection (GDI) พร้อมระบบ Turbo อัดอากาศ (เครื่อง C4FJ ในรุ่น Veloster Sport Turbo) ให้การตอบสนองอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจและประหยัดน้ำมัน

เครื่องยนต์ C4FJ 1.6 ลิตร Turbo GDI DOHC 16V D-CVVT

เครื่องยนต์ G4FC 1.6 ลิตร MPI DOHC 16V D-CVVT

ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut และด้านหลังแบบ Torsion Beam (CTBA)

พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า MDPS

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Torque Convertor

Unique Confidence

ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด-สำหรับรถยนต์ฮุนได เพราะคุณคือสิ่งที่ล้ำค่า ฮุนไดนำเทคโนโลยีล่าสุดมาบรรจุไว้ใน All-New Hyundau Veloster เพื่อความมั่นใจสูงสุดสำหรับคุณในทุกการเดินทาง

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (อุปกรณ์มาตรฐาน) และถุงลมนิรภัยด้านข้างพร้อมม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะในรุ่น Sport Turbo)

ถุงลมนิรภัยด้านหน้าแบบ SRS ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อปกป้องคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าจากการชนแบบ Frontal Inpact

ดิสก์เบรครอบทิศทาง เสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรค ABS ระบบ BA และระบบ EBD

พนักพิงศีรษะนิรภัย Active Headrest

โครงสร้างนิรภัยแข็งแกร่งด้วยการใช่เหล็ก Ultra-Hight Tensile Steel สำหรับเสากลาง และจุดสำคัญต่างๆ ทั่วตัวรถเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

หมดความกังวล เมื่อต้องจอดรถอยู่บนทางลาดชัน ด้วยระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC จะคงแรงดันเบรคไว้ 2 วินาที ป้องกันไม่ให้รถไหล เมื่อปล่อยเบรคเพื่อกดคันเร่ง *มีเฉพาะรุ่น Sport Turbo

มั่นใจด้วยระบบรักษาสเถียรภาพการขับขี่ ESP ที่ช่วยควบคุมการทรงตัว พร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS และ ระบบ VSM ที่ช่วยควบคุมการทรงตัว ด้วยการควบคุมการผ่อนแรงของพวงมาลัย

COLORS สี Hyundai Veloster

Hyundai Veloster มีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ได้แก่ 1.สีเหลือง  2.สีเงิน  3.สีเขียว  4.สีฟ้า  5.สีส้ม  6.สีแดง  7.สีขาว  9.สีเทาด้าน

Hyundai Veloster สีเหลือง *มีเฉพาะในรุ่นธรรมดา

Hyundai Veloster สีเงิน *มีเฉพาะในรุ่นธรรมดา

Hyundai Veloster สีเขียว *มีเฉพาะในรุ่นธรรมดา

Hyundai Veloster สีน้ำเงิน

Hyundai Veloster สีส้ม

Hyundai Veloster สีแดง

Hyundai Veloster สีขาว

Hyundai Veloster สีเทาด้าน *มีเฉพาะในรุ่น Sport Turbo


ใหม่ Subaru XV ราคา ซูบารุ XV ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0

ใหม่ Subaru XV ราคา ซูบารุ XV ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์


เชื่อสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในและใช้มันพาไปสู่ความสำเร็จในชีวิตคุณ
สิ่งที่มาพร้อมทางเลือกของคุณ เมื่อใดก็ตามที่คุณเคลื่อนไปสู่จุดหมาย เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน The All-New Subaru XV จะพาคุณผ่านการผจญภัยในเมืองทั้งสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นเองและสถานะการณ์ที่ คุณวางแผนที่จะลุยไป ด้วยจิตวิญญานและการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย ถูกหล่อหลอมมาเป็นสไตล์เฉพาะของ SUBARU XV เพื่อให้คุณใช้งานได้หลากหลายตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับของคุณ

ราคา SUBARU XV ซูบารุ XV รุ่น 2.0i Premium ราคา 1,350,000.

ราคา ซูบารุ XV ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

การผสมผสานกันระหว่างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตรกับเครื่องยนต์ SUBARU BOXER ให้การขับขี่ที่เร้าใจและตอบสนองความมั่นใจด้วยระบบควบคุมที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพบนท้องถนน คุณจะพบความรู้สึกที่สัมผัสได้,ปลอดภัยและเร้าใจ ทำให้ Subaru XV เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง เพราะสิ่งที่อยู่ภายในซูบารุจะทำให้คุณมีความเชื่อมั่นที่ไม่เหมือนใคร

ไฟหน้าแบบฮาโลเจนซึ่งปรับระดับอัตโนมัติ ช่วยให้แน่ใจว่าไฟจะส่องนำทางเสมอในมุมที่ถูกต้อง เพื่อการแสดงผลที่ดีที่สุด(XV ในประเทศไทย ไม่มีฟังก์ชั่นนี้)

ไฟตัดหมอก ส่องไฟตัดหมอกออกแบบมาให้ส่องไฟเป็นมุมกว้าง แสงสว่างส่องในแนวราบทำให้การสะท้อนแสงจากหมอกน้อยเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

กระจกพับไฟฟ้า ได้รับการออกแบบ aerodynamically เพื่อลดเสียงลมปะทะ และออกแบบเป็นกระจกบานใหญ่ไฟฟ้าสามารถพับได้สำหรับที่จอดและและถนนที่แคบ

ราวหลังคา สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อตอบโจทย์ในแต่ละรูปแบบการใช้ชีวิต ราวหลังตาของ Subaru XV ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้อรรถประโยชน์ได้เต็มความต้องการ

กล้องมองหลัง (2.0i พรีเมี่ยม) กล้องมองหลังช่วยแสดงมุมมองขณะขับถอยหลังเพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์ในขณะขับรถ

พวงมาลัยแบบปรับระดับได้ ช่วยคุณปรับเปลี่ยนตำแหน่งการขับขี่ที่ดีที่สุดของคุณ พวงมาลัยปรับขึ้น-ลงและเข้า-ออก

ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่ ระบบความคุมความเร็วคนขับรถสามารถตั้งค่าและควบคุมความเร็วให้คงที่สะดวกสำหรับการขับขี่ทางไกล เชนบนมอเตอร์เวย์

ที่วางแก้ว2ที่ด้านหน้า คนขับและผู้โดยสารมีที่วางแก้วที่สะดวกในการเก็บเครื่องดื่มอีกทั้งยังง่ายต่อการหยิบใช้

ม่านปิดสัมภาระด้านท้าย ม่านช่องสัมภาระสามารถถอดเก็บได้ ทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา

แก่นแท้ของการควบคุมทั้งหมด
Symmetrical All-Wheel Drive ความพึงพอใจของการขับขี่มาจากความสมมาตรและความสมดุล นั่นคือเหตุผลที่ซูบารุได้รับการพัฒนาและปรับปรุงระบบ ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical AWD) ตั้งแต่ปี 1972 ผสานกับเครื่องยนต์ SUBARU BOXER ส่งผลให้มีความใกล้เคียงกับความสมมาตรในอุดมคติ แต่ก็มีความสามารถพอที่จะให้เสถียรภาพในการขับเคลื่อนและความสมดุลย์โดยรวมในทุกสภาพถนน

ผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพตามหลักพลศาสตร์
การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ก่อให้เกิดอัตราเร่งบนท้องถนนดีเยี่ยมและตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเร้าใจ ความสมมาตรของตัวรถส่งผลให้ Subaru XV ให้มีเสถียรภาพมากขึ้นและตอบสนองในขณะเลี้ยวโค้งให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ของการควบคุมในทุกๆสถานการณ์

หน้าสัมผัสที่มั่นคง
ยิ่งยางของคุณมีสัมผัสที่ดีกับพื้นผิวถนนมาก การควบคุม ความปลอดภัยและการขับขี่ของคุณมีจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กำลังของเครื่องยนต์จะถูกกระจายไปยังล้อทั้งสี่ตลอดเวลาการเพื่อการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ

ความคล่องตัวในกรณีฉุกเฉิน
ในสภาพอากาศที่ไม่ดีหรือในวินาทีที่ล่อแหลมมันจะใช้เพื่อการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉับพลัน ระบบขับเคลื่อนแบบสมมาตรจะส่งถ่ายความสมดุลจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นคง ความคล่องตัวและแรงฉุดจะช่วยให้คุณก้าวข้ามอุปสรรคที่อันตรายไปได้

POWER BRINGS OUT ITS PLAYFUL SIDE.

เครื่องยนต์ SUBARU BOXER มีรถยนต์ไม่มากที่มอบความตื่นเต้นที่น่าตื่นเต้นและความคล่องตัว แต่ Subaru XV สามารถทำได้ ด้วยเครื่องยนต์สูบนอน (BOXER engine) ซึ่งออกแบบลูกสูบอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน ทำมุม 180 องศา ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ประเภทอื่น ๆสิ่งนี้คือแหล่งพลังงานที่ส่งออกไปขับเคลื่อนทั้งคันรถ จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำก่อให้เกิดความสกว่าศูนย์ของแรงถ่วงและการกระจายน้ำหนักที่สมดุลมากขึ้น นอกจากนี้ลูกสูบ ที่วางอยู่ตรงข้ามกันจะช่วยลดการสั่นสะเทือนตามธรรมชาติอีกด้วย


ความมีเสถียรภาพที่เพิ่มขึ้น
เพราะบล็อคเครื่องยนต์ถูกติดตั้งในจุดที่ต่ำสุด เครื่องยนต์โดยรวมจึงมีสเถียรภาพและการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม

ราบรื่นและตื่นเต้น
ในทุกรอบความเร็ว เครื่องยนต์จะส่งผ่านกำลังอย่างราบเรียบ ให้ความพึงพอใจในการขับขี่ โดยไม่สูญเสียความสะดวกสบาย พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันขณะในงานในชีวิตประจำวัน

ประสิทธิภาพที่ยาวนาน
เครื่องยนต์ถูกออกแบบจากแก่นแท้ของความทนทานและยังมีความสมดุลในตัวเอง, การสร้างการสั่นสะเทือนที่น้อยกว่า เครื่องยนต์แบบ V-type หรือเครื่องยนต์แบบ inline ทำให้เครื่องยนค์มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานสามารถเชื่อถือได้

การตอบสนองที่มีชีวิตชีวา
ในขณะที่เครื่องยนต์ SUBARU BOXER ให้ความสมดุลสุดพิเศษและตอบสนองได้อย่างราบรื่น ทำให้ได้รับประสบการณ์สุดวิเศษจากการขับขี่รถซูบารุมากขึ้น เหล่าวิศวกรของเราพิจารณาประสิทธิภาพของส่วนประกอบทุกชิ้น ทุกวาล์ว ทุกพอร์ตและทุกลูกสูบ สร้างเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเบาและการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น และมันไม่เพียงประสบความสำเร็จในความมีประสิทธิภาพขั้นสูง แต่ยังมีแรงบิดในช่วง Low end torque ที่มากขึ้นทำให้กระตุ้นการตอบสนองทุกครั้งที่คุณเหยียบคันเร่ง

2.0 ลิตร DOHC SUBARU BOXER
กำลังสูงสุด : 110 กิโลวัตต์ (150 PS) / 6,200 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด : 196 นิวตันเมตร (20.0 kgfm) / 4,200 รอบต่อนาที

อัตตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง *1 : 7.9 lit./100 กิโลเมตร (Lineartronic)
การปล่อยแก็สไอเสีย CO2 *1 : 187 กรัม / กิโลเมตร (Lineartronic)

พลังที่จะกระตุ้นความตื่นเต้นมาจากการตอบสนองที่หลากหลายและเกิดขึ้นทันที…. ขุมพลัง เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร DOHC ระบบควบคุมวาล์วแปรผัน (AVCS) และการเพิ่มแรงบิดในขณะที่รอบเครื่องต่ำทำให้ได้อัตราเร่งความเร็วที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะขับขี่อยู่บนถนนในภูมิประเทศแบบใดก็ตาม ประสิทธิภาพที่ได้มานั้นเกิดจาก หัวฉีดที่ติดตั้งอยู่ในแต่ละสูบ ลูกสูบและก้านสูบที่มีน้ำหนักเบา นั้นหมายความว่า การฉีดน้ำมันในแต่ละครั้ง น้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกเผาใหม้อย่างหมดจดและมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด นอกจากนี้เครื่องยนต์SUBARU BOXER ถูกออกแบบให้มีการหักล้างการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ทั้งหมดนี้ทำให้เครื่องยนต์มีพลังงานและประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับการปรับแต่งให้เข้ากับการใช้ชีวิตในเมือง

เตรียมพร้อมสำหรับทุกๆสิ่งรอบๆตัว

อะไรอยู่ข้างใน : ความปราดเปรื่องทางวิศวกรรม การผลิตที่เข้มงวดและเทคโนโลยีขั้นสูงจะปกป้องอันตรายที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่

บางครั้งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเฉี่ยวชนได้ แต่เชื่อเถอะคุณสามารถไว้วางใจที่จะอยู่บนยานพาหนะที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยปกป้องคุณได้

ความปลอดภัยเชิงรับเพื่อเพิ่มการรอดชีวิตจากการชนปะทะ
การปกป้องผู้ใช้รถคือองค์ประกอบสำคัญสูงสุดของซูบารุ XV ยกตัวอย่างเช่น ที่นั่งคนขับถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแป้นเยียบ,โครงสร้างของตัวถังใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงในพื้นที่วิกฤตโดยจะช่วยลดแรงกระแทกที่จะเข้ามาในห้องโดยสาร นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะอีกมากมายด้านความปลอดภัยขั้นสูงภายในที่จะช่วยปกป้องผู้โดยสาร

การป้องกันคนเดินเท้า
สร้างขึ้นมาเพื่อภูมิทัศน์ในเมือง ซูบารุ XV ให้ความสำคัญสูงของการป้องกันคนเดินเท้า โดยให้มีการดูดซับแรงปะทะจากช่องว่างระหว่างฝากระโปรงกับเครื่องยนต์เป็นช่วยลดการบาดเจ็บของคนเดินเท้าเมื่อมีเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นเช่นเดียวกับการดูดซับแรงกระแทกด้านหน้ากันชนและยังให้ความสำคัญกับการออกแบบใบปัดน้ำฝนบริเวณกระจกหน้ารถเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคนที่เดินบนท้องถนนหลังจากการชน

โครงสร้างเสริมแรงทรงวงแหวน
โครงสร้างเสริมแรงทรงวงแหวนทำให้ห้องผู้โดยสารแข็งแรงขึ้นจากหลังคามายังประตู เสาห้องโดยสาร และพี้นห้องโดยสาร การออกแบบในลักษณะนี้ช่วยเบี่ยงเบนและกระจายพลังงานจากการปะทะออกไปจากห้องโดยสารเมื่อเกิดการชนปะทะ โครงสร้างห้องโดยสารสำหรับ Subaru XV มีคุณลักษณะแรงดึงสูงจากเหล็กซึ่งมีการออกแบบให้มีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นแต่มีน้ำหนักเบา

ที่นั่ง เข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย SRS*1
เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าที่สามารถปรับความสูงได้ช่วยในการยึดให้ผู้โดยสารอยู่กับที่อย่างมั่นคง และในซูบารุ XV นี้เบาะนั่งและหมอนรองศีรษะที่สามารถช่วยป้องกันผู้โดยสารด้านหน้าจากการบาดเจ็บในระหว่างการปะทะกันด้านหลัง ทุกที่นั่งด้านหลังมีประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันผู้โดยสาร ซึ่งตำแหน่งด้านหลังมีการปรับปรุงในการชนปะทะด้านหลัง ด้านข้าง ทางด้านหน้าและถุงลมนิรภัย ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในขณะนี้ และยังมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย

เครื่องยนต์ BREAKAWAY
แต่ละรุ่นของซูบารุ มีความเหนือกว่าจากรถยนต์ทั่วๆไปโดยมีการคำนึงถึงความปลอดภัย ในกรณีที่เกิดการปะทะกันจากส่วนหน้า เครื่องยนต์ของ SUBARU BOXER และระบบเกียร์ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นการป้องกันห้องโดยสารเป็นการดูดซับผลกระทบจากแรงกระแทก

 

Subaru XV 2.0i Premium
ขนาด : 4,450 x 1,780 x 1,615 มม.
เครื่องยนต์ : แบบสูบนอน 4 สูบ, 16 วาล์ว,DOHC
ความจุ : 1,995 ซีซี
กำลังสูงสุด : 110 กิโลวัตต์ (150 PS) / 6,200 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด : 196 นิวตันเมตร (20.0 kgfm) / 4,200 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง : Lineartronic CVT, AWD

โชว์รูม และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ SUBARU 15 แห่ง ทั่วประเทศ ได้แก่
ซูบารุ @ ถนนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ โทร: 02-725-1888
ซูบารุ @ ปิ่นเกล้า อาคารอรรถบูรณ์ ถ.จรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โทร: 02-886-1212
ซูบารุ @ บางนา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โทร: 02-312-6677
ซูบารุ @ วิภาวดี เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โทร: 02-956-4133
ซูบารุ @ ปทุมธานี โทร: 02 581 3111, 02 581 3431
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ ถ.เพชรบุรี ห้วยขวาง กรุงเทพฯ โทร: 02-319-7132-3
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ ถ.พระราม 3 ยานนาวา กรุงเทพฯ โทร: 02-682-0888
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ นนทบุรี โทร: 02-968-3355
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ เชียงใหม่ โทร: 053-850-825-6
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ เชียงราย โทร: 053-166-799
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ นครราชสีมา โทร: 044-261-670
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ ขอนแก่น โทร: 043-332-777
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ พัทยา โทร: 038-241-552
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ นครสวรรค์ โทร: 056-340-511-6
ตัวแทนจำหน่าย ซูบารุ @ สุราษฎร์ธานี โทร: 077-224-114

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^

ใหม่ Hyundai Grand Starex 2014-2015 ราคา ฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0

ใหม่ Hyundai Grand Starex 2014-2015 ราคา ฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์


Hyundai Grand Starex ราคา
ราคา Hyundai Grand Starex Primium ฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ พรีเมี่ยม  1,928,000.
ราคา Hyundai Grand Starex VIP ฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ วีไอพี  1,978,000.

ราคา ฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐาน Hyundai Starex

ความยาว x ความกว้าง x ความสูง : 5,125 x 1,920 x 1,925

Hyundai Starex รุ่น PREMIUM  1,928,000.

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- ไฟหน้าแบบ Multi-Reflector
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ไฟส่องสว่างนำทางเมื่อดับเครื่อง
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบ LED
- กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจังหน้าตกแต่งโครเมี่ยม
- กาบข้างสีเดียวกับตัวรถ
- มือเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
- กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วป้ายทะเบียนหลังโครเมียม
- สปอยเลอร์หลังประตูท้ายรถ
- ประตูด้านหน้าแบบ Tilting Door
- ประตูห้องโดยสารแบบสไลด์สองข้าง
- ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าปรับหน่วงเวลาได้
- ที่ปัดน้ำฝนหลัง
- เสาอากาศวิทยุแบบ Short-Type

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- พวงมาลัยหุ้มหนัง
- พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ
- ปุ่มปรับเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
- ระบบปรับอากาศแบบแมนวล พร้อมปุ่มควบคุมสำหรับด้านหลัง
- ช่องลมปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- กระจกไฟฟ้าสำหรับประตูหน้า
- กล่องเก็บแว่นตาที่คอนโซลเหนือศีรษะ
- แผงคอนโซลลายไม้
- สีภายในแบบ Two-Tone
- กระจกแบบ Flush Glass ที่ประตูสไลด์
- กุญแจรีโมท
- รูเสียบกุญแจแบบเรืองแสง
- ระบบไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED พร้อม Mood Lighting เปลี่ยนได้ 6 สี
- กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
- เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์
- พนักพิงและที่พักขาของที่นั่ง VIP ปรับด้วยไฟฟ้า
- พนังพิงศีรษะแบบผีเสื้อ
- ที่วางของและวางแก้วตอนกลางพับเก็บได้
- ผ้าม่านรอบห้องโดยสาร ชนิดไม่ลามไฟ
- ประตูคู่หน้าภายในตกแต่งด้วยหนังและลายไม้
- ประตูสไลด์ตกแต่งลายไม้ด้านใน
- มือเปิดประตูด้านในสีเมทัลลิก
- เส้นไล่ฝ้าที่กระจกประตูท้ายรถ
- แผงบังแดดพร้อมกระจกและไฟส่อง
- กล่องใส่ของหน้ารถแบบสองชั้น

ระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อ
- เครื่องเสียงตอนหน้า DVD/ CD พร้อมจอสัมผัสรองรับ iPod และ USB
- ระบบบลูทูธสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่
- ระบบบลูทูธสำหรับเชื่อมต่อเครื่องเสียงพกพา
- ปุ่มปรับเครื่องเสียง จอภาพ LCD ติดเพดาน ขนาด 10.1 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมกับช่องต่อ USB และ HDMI
- ระบบนำทาง GPS
- ลำโพง 6 ตัว

ระบบความปลอดภัย
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS
- สัญญาณกันขโมย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
- สัญญาณเตือนกะระยะขณะถอยหลัง
- กล้องมองภาพด้านหลัง พร้อมเส้นกะระยะและเปลี่ยนมุมกดอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยชนิด 3 จุด สำหรับที่นั่ง VIP
- เข็มขัดนิรภัยชนิด 2 จุด สำหรับที่นั่งด้านหลัง
- โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Four Ring

Hyundai Starex รุ่น VIP  1,978,000.
- เคาเตอร์ VIP ตกแต่งลายไม้ พร้อมช่องเก็บของ
- ไฟส่องพื้นใต้เคาน์เตอร์
- เครื่องเสียงตอนหลัง DVD/ CD/ MP3 จาก Kenwood
- ลำโพงตอนหลังจาก Kenwood
- จอด้านหลังขนาด 22 นิ้ว
- ลำโพง 6 ตัว

 

Hyundai Grand Starex Primium อีกระดับของความสบายกับพื้นที่ส่วนตัวที่มากกว่านวัตกรรมแห่งความพรีเมี่ยมที่เหนือระดับ

Hyundai Grand Starex VIP  วัฒนธรรมที่เหนือกว่าเพื่อบุคคลระดับ VIP ตอกย้ำวิสัยทัศน์ และมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์

 

EXTERIOR ภายนอก Hyundai Grand Starex

สัมผัสกับวัฒนธรรม VIP สำหรับบุคคลระดับผู้นำกับ Full-Size 7 ที่นั่งแท้ๆ จากโรงงาน ที่เหนือกว่าทุกรายละเอียด

ไฟหน้าแบบ Multi-Reflector พร้อมระบบไฟนำทาง ไฟหน้าดวงใหญ่ ดีไซน์เด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาพร้อมกับระบบไฟนำทาง ที่จะส่องสว่างเป็นเวลา 20 วินาที เมื่อดับเครื่องและล็อครถ ช่วยให้การเดินเข้าบ้าน ยามค่ำคืนเป็นไปได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

กระจังหน้าโครเมี่ยมลายใหม่ ทันสมัยหรูหราอย่างมีระดับ

ไฟตัดหมอก ถูกวางไว้อย่างลงตัวที่กันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่ เพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในการขับขี่

กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ปรับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า

ประตูสไลด์ 2 ด้าน เพิ่มความสะดวกทั้งขึ้นและลงด้วยประตูสไลด์ทั้ง 2 ฝั่ง

INTERIOR ภายใน Hyundai Grand Starex

เคาน์เตอร์ VIP ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ที่หรูหราและมีระดับมากกว่าเดิม บ่งบอกความมีรสนิยมของบุคคลระดับ VIP ยกระดับ Entertainment เต็มรูปแบบกับจอ LCD ขนาด 22 นิ้ว แบบ Full-HD เปิดขึ้น-ลงด้วยไฟฟ้า และระบบเครื่องเสียงจาก Kenwood ในรุ่น VIP

ห้องโดยสารแบบ First Class ห้องโดยสารตอนหลังแบบ 5 ที่นั่ง ให้ความสบายสูงสุด ด้วยหนังแท้ลายใหม่ ยกระดับการเดินทางในทุกเส้นทางให้คุณสัมผัสถึงความ First Class ในทุกความสบาย ไม่ว่าจะเดินทางไกลหรือในการจราจรที่แออัด

เบาะ Super VIP ที่เป็นเอกลักษณ์ มาตรฐานแห่งนวัตกรรมเพื่อความสบายกับเบาะ Super VIP ปรับเอนนอน และปรับที่พักขาด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหมอนรองศีรษะดีไซน์ใหม่ที่สบายกว่า

พวงมาลัยหุ้มหนัง สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมปุ่มปรับเครื่องเสียงที่พวงมาลัย

จอ LCD ติดเพดาน เหนือระดับด้วยจอขนาด 10.1 นิ้ว เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ต่อเชื่อมเครื่องเล่น DVD ด้านหน้าเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลังในรุ่น Premium

กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ อีกระดับของความปลอดภัย เมื่อขับขี่ยามค่ำคืน ระบบตัดแสงอัตโนมัติจะทำงานเอง เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับว่า มีไฟส่องแยงตาจากทางด้านหลัง โดยระบบจะปรับเพิ่มความเข้มของกระจกเพื่อลดแสงสะท้อน

คอนโซลเหนือศีรษะ อเนกประสงค์ด้วยกล่องเก็บแว่นตาและดวงไฟส่องสว่างที่คอนโซลเหนือศีรษะ

PERFORMANCE

เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร CRDi DOHC 16V VGT ขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซลแบบ Commonrail Direct Injection พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน VGT สร้างกำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดระดับมหาศาล 441 นิวตัน-เมตร ช่วยให้ Grand Starex มีการตอบสนองในการขับขี่อย่างดีเยี่ยมในฐานะรถยนต์ MPV ขนาดใหญ่

เบรกและช่วงล่าง มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบป้องกันล้อล็อค ABS ช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Struls ด้านหลังแบบ 5-Link Rigid Axle ที่ให้การยึดเกาะที่เหนือชั้นและความนุ่มนวลในระดับที่สัมผัสได้

เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมระบบ Sequential Shift สะดวกสบายด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 จังหวะ ที่ให้ความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยประหยัดน้ำมัน เนื่องจากเครื่องยนต์สามารถทำงานในรอบที่ต่ำกว่าเมื่อขับขี่ทางไกล มาพร้อมระบบ Sequenlial Shift ให้คุณเปลี่ยนเกียร์เองได้ดั่งใจ

SAFETY

โครงสร้างนิรภัยแบบ Four Rings Grand Starex ใช้โครงสร้างจากเหล็กแบบ High Tensile Strength แบบโครงสร้างลักษณะ Four Rings รวมถึงชิ้นส่วนอื่นๆ เพื่อความแข็งแรง ปลอดภัย ให้ความมั่นใจในความปลอดภัยทุกการเดินทาง

ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS ปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า เพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจการขับขี่จากเหตุที่ไม่คาดฝัน

CONVENIENCE

อิสระในการปรับพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารและบริเวณเก็บสัมภาระ คือ ความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ The New Hyundai Grand Starex ทั้ง 2 รุ่น ด้วยรางเลื่อนนิรภัยจากโรงงานที่ทนทาน และปลอดภัยด้วยมาตรฐานฮุนได

COLORS สี  Hyundai Grand Starex

Hyundai  Grand Starex มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ 1.สีขาว  2.สีดำ  3.สีเงิน  4.สีน้ำตาล

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^

Test Drive : รีวิว Mitsubishi Attrage GLS สวยหรูเกินราคา โดดเด่นเหนือใคร

$
0
0

Test Drive : รีวิว Mitsubishi Attrage GLS สวยหรูเกินราคา โดดเด่นเหนือใคร


มิดซูบิชิ แอททราจ อีโคคาร์ซีดาน สวยงามหรูหราโดดเด่นบนท้องถนน ห้องโดยสารสะดวกสบาย กว้างขวางเกินคาด แม้ว่าจะมองดูจากสายตาด้วยภายนอก หลายคนอาจคิดว่าเป็นรถยนต์ขนาดเล็กมาก ไม่ใช่แค่กว้างขวางเกินคาดเท่านั้น แต่ยังเหนือชั้นกว่าคู่แข่ง ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ทำได้ถึง 22 กิโลเมตร/ลิตร นอกจากนี้ยังมีชุดแต่งจาก RalliArt ให้เลือกตกแต่งได้สวยงามหรูหราเกินหน้าอีโคคาร์ที่วิ่งเกลื่อนตลาดทั่วไป

ในช่วงนี้ Mitsubishi ก็โหมโฆษณาโปรโมชั่นของแอททราจฉลองครบ 1 ปีในสื่อต่าง ๆ ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ เพราะมีให้เลือกทั้งของแถมมากมายหรือดอกเบี้ย 0% ก็ได้ ได้กระแสตอบรับที่ดีเลยทีเดียว จึงพบเห็นแอททราจป้ายแดงมากมายบนท้องถนนทั่วประเทศ

แม้ว่า Attrage จะใช้ขิ้นส่วนและโครงสร้างร่วมกันกับ Mirage ที่มาพัฒนาต่อยอดจาก Hatchback ให้กลายเป็น Sedan แต่ดีไซน์ด้านหน้าของ Attrage นั้นกลับมีความหรูหราสวยงามมากกว่า Mirage หลายเท่า โดยเฉพาะกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบโครเมียมดุจรถหรูราคาแพง

กันชนหน้า ไฟตัดหมอก และโครเมียมข้างไฟตัดหมอก มีดีไซน์ที่ดูสวยงามลงตัว ได้อารมณ์สปอร์ตและหรูหรา

กระจังหน้า 3 เส้นพร้อมกรอบโครเมียม

ไฟหน้าแบบ Halogen

ไฟตัดหมอกหน้าพร้อมแถบโครเมียม เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรุ่น GLS และ GLS Ltd

มาดูดีไซน์ด้านข้างกันบ้าง

รูปทรงของ Attrage ดูไม่ยาว แต่ก็มีห้องโดยสารที่กว้างขวางพอใช้ได้

ล้ออัลลอย 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/55 R15 ให้มากับรุ่น GLS และ GLS Ltd

กันสาด เป็นของแถมที่สามารถขอกับพนักงานขายได้หากต้องการติดตั้งเพิ่ม

ที่เปิดประตูแบบย้อนยุค สีเดียวกับตัวรถ มีช่องกุญแจในฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า

สำหรับฝั่งคนขับ มีปุ่มกดเพื่อล็อคหรือปลดล็อคประตู ทำงานเมื่อมีกุญแจรีโมทอยู่ภายนอกตัวรถในระยะใกล้

กระจกมองข้าง ให้มุมมองที่กว้างดี พร้อมไฟเลี้ยว LED สีเหลืองอำพัน

เสาอากาศวิทยุ

ส่วนท้ายของตัวรถก็มีการออกแบบที่สวยงามลงตัว ค่อนข้างทันสมัย

โคมไฟท้ายแบบสองชั้น แบ่งสัดส่วนสีแดงกับใส 50:50

โลโก้ Attrage

แถบโครเมียมท้ายขนาดใหญ่ ดูหรูหรา ถัดลงมาเป็นปุ่มกดเปิดฝาท้าย (ทำงานเมื่อรถไม่ได้ล็อค)

สามารถกดปุ่มเปิดฝาท้ายจากกุญแจรีโมทได้ด้วย (ทำงานได้แม้ว่ารถล็อคอยู่)

ฝาท้ายมีน้ำหนักเบา ยกเปิดและปิดโดยไม่ต้องออกแรง

มีไฟส่องสว่างให้ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ

เก็บสัมภาระได้มากมายแม้ว่าติดตั้งถังแก๊ส LPG ยังเหลือพื้นที่มากพอ

ยางอะไหล่ขนาดเล็ก และเครื่องมือเปลี่ยนยาง

ไฟท้ายขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดเจน

ไม่มีไฟตัดหมอกหลัง แต่มีแถบสะท้อนแสง

สิ่งที่น่าประทับใจใน Attrage ก็คือ เมื่อล็อครถ กระจกมองไฟฟ้าจะพับเก็บอัตโนมัติ และเมื่อปลดล็อค สตาร์ตรถ กระจกมองข้างก็จะปรับคืนในตำแหน่งเดิมให้ทันที

เข้ามาดูกันต่อในห้องโดยสาร เริ่มต้นที่ฝั่งคนขับ นี่คือด้านในของประตู

สวิตช์ปรับและล็อคกระจกหน้าต่าง

ที่เปิดประตูแบบโครเมียม

มีลำโพงและช่องใส่ขวดน้ำขนาดเล็ก ใส่ของใช้จุกจิกได้อีกนิดหน่อย

ทัศนวิสัยดี ขับง่าย มุมมองกว้างไกล เมื่อปรับความสูงของเบาะที่นั่งคนขับให้สูงอย่างเหมาะสมกับสรีระ

- เสาหลังคาทั้งสองข้างขนาดเล็ก มองสะดวกขณะเลี้ยว

- ช่องลมเครื่องปรับอากาสขนาดใหญ่พอตัว ส่งความเย็นทั่วถึงไปยังที่นั่งด้านหลัง

ไม่มีไฟส่องสว่างในช่วงกลางห้องโดยสาร

ที่บังแดด มีกระจกส่องหน้าทั้ง 2 ฝั่ง

ไฟส่องแผนที่ กระจกมองหลัง และกระจกส่องหน้าขนาดใหญ่

ห้องโดยสาร โทนสีเทาเข้ม ไม่ถึงกับดำจนมืดเกินไป

พวงมาลัยสีเทาแบบเรียบ ๆ ค่อนข้างเชย ไม่มีปุ่มสั่งงาน แต่ก็มีถุงลมนิรภัย SRS

ที่ปรับระดับของพวงมาลัยอยู่ด้านซ้ายมือ ไม่ต้องคลำหา

เบาะผ้าสีเทา ไม่มีลวดลาย ไม่มีลูกเล่นหรือความโค้งเว้าอะไร

เบาะที่นั่งคนขับสามารถหมุนปรับความสูงได้

มีที่พักเท้าซ้ายให้ด้วย

หลุมด้านขวาของภาพ เป็นปุ่มงัดเปิดฝากระโปรงหน้า

บนพื้น ใกล้ขอบประตู มีคันโยกงัดเปิดฝาถังน้ำมันและฝาช่องเก็บสัมภาระท้ายรถ

ที่พิงศีรษะ โค้งกลมมน มุมพอดีกับศีรษะ ไม่เอนหรือก้มมากเกินไปอย่างที่เป็นปัญหาในรถยนต์บางรุ่น

เบาะพิงหลัง ทำมุมค่อนข้างดี

เบาะรองนั่ง ดูเหมือนสั้น แต่ก็ไม่ได้สั้นเกินไป รองรับหลังเข่าได้พอดี คนรูปร่างเตี้ยก็ขับได้

ปุ่ม Start / Stop อยู่ด้านขวามือ

มาตรวัดแบบเรียบ ๆ ไม่มีไฟเรืองแสงแบบสปอร์ต มีหน้าจอ LCD แสดงอัตราการใช้น้ำมัน Litre/100km.

 

หน้าจอแสดงตำแหน่งเกียร์และกำหนดระยะที่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ

สวิตช์ไฟเลี้ยว ไฟหน้า และที่ปัดน้ำฝน

ช่องลมเครื่องปรับอากาศแบบกลม ปรับทิศทางได้สะดวก

ปุ่มปรับมุมกระจกมองข้างไฟฟ้าซ้ายขวา และพื้นที่สำหรับติดตั้งสวิตช์แก๊สเพิ่มเติม หรือสวิตช์ไฟ Daytime Running Light ที่เป็นอุปกรณ์เสริมยอดนิยมในยุคนี้

แผงเครื่องปรับอากาศและเครื่องเสียง

จอแสดงผล ไฟเรืองแสงสีส้ม เล่นแผ่น CD ได้ ใช้งานง่าย

เครื่องปรับอากาศแบบดิจิตอล

เกียร์อัตโนมัติ CVT ดีไซน์สวยเหมือนรถหรูราคาแพง

ใกล้เกียร์ มีช่องวางขวดน้ำ กุญแจรถ โทรศัพท์มือถือ

เบรคมือ และช่องใส่ขวดน้ำหรือแก้วเครื่องดื่ม มีให้อีก 1 ช่อง

ประตูในฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า มีที่วางแขนทำมุมได้ดี วางได้นานโดยไม่เมื่อย

มีช่องใส่ขวดน้ำและของจุกจิกที่ประตูได้มากพอสมควร

พื้นที่วางขา มีมากเพียงพอ มีระยะห่างจากช่องเก็บของถึงหัวเข่าอยู่พอสมควร ไม่รู้สึกอึดอัด

ช่องเก็บของด้านหน้า

ด้านในช่องเก็บของ มองเห็นสายไฟฟ้านิดหน่อย

ขั้วต่อ USB Flashdrive ซ่อนอยู่ในช่องเก็บของนี้

ช่องต่อ Car Charger พร้อมฝาปิด

เข็มขัดนิรภัย ไม่สามารถปรับความสูงได้ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร

ประตูหลัง มีลำโพงและที่วางแขนขนาดใหญ่ แต่ไม่มีช่องใส่ขวดน้ำดื่ม

ไม่มีช่องใส่ของจุกจิกที่ประตูหลังทั้งสองฝั่ง

ห้องโดยสารตอนหลัง กว้างกว่าที่คิด เบาะนุ่ม

เบาะรองก้น ไม่สั้นหรือยาวเกินไป เด็กเล็กก็นั่งได้

พื้นที่วางขาหรือ Leg room กว้าง ไม่อึดอัด วางของได้

ระยะห่างจากหัวเข่าถึงเบาะหน้าเหลือเฟือจนสามารถนั่งไขว่ห้างได้เลย

มีช่องใส่หนังสือที่หลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้า แต่ไม่มีที่หลังเบาะคนขับ

พื้นห้องโดยสาร ปูด้วยพรม 3 แผ่นจากโรงงาน ทำลวดลายกระดานหมากรุก

ที่เกี่ยวถุงพลาสติก สำหรับแขวนถุงกับข้าวหรือขนมที่แวะซื้อมาจาก 7-Eleven ได้พอดี

มีที่วางแขน/ช่องใส่เครื่องดื่ม ซึ่งเมื่อพับเก็บ ก็สามารถนั่งตรงกลางได้ เพราะวัสดุที่ใช้ เป็นแบบนุ่ม ไม่แข็งจนดังหลัง เพราะฉะนั้นเบาะหลังของ Attrage สามารถนั่งได้ 3 คนแบบสบาย ๆ กว้างมากพอและพึงหลังได้ตามปกติ

ที่พิงศีรษะ ขนาดเล็กน่ารัก

มุมมองด้านหลัง เสาหลังคาไม่เกะกะ ถอยจอดได้สะดวกพอสมควร

รองรับน้ำมัน Gasohol 91 ขึ้นไป รวมถึง E10 E20 แต่ไม่รองรับ E85

ในส่วนของเครื่องยนต์เป็นรหัส 3A92 แบบเบนซิน 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว 1,193 ซีซี 78 แรงม้า แรงบิด 10.2 กก.-ม. ให้สมรรถนะที่เพียงพอแม้ใช้งานเดินทางไกล อัตราเร่งเริ่มไหลลื่นเมื่อผ่าน 2,500 รอบต่อนาที และมีเกียร์โหมด S ช่วยรักษารอบไม่ให้ตกเมื่อผ่อนคันเร่ง ช่วยให้การเร่งแซงฉับไวขึ้น เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ไม่มีช่วงรอบตก ช่วยให้อัตราเร่งดีขึ้นอีกพอสมควร ส่วนการขับด้วยความเร็วคงที่ก็ใช้รอบไม่สูง โดยที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้รอบประมาณ 1,900 รอบต่อนาที สำหรับรถคันที่รีวิวนี้ ได้มีการติดตั้งระบบแก๊สรถยนต์ทันทีที่ออกมาจากโชว์รูม

ทดสอบไฟส่องสว่าง

ไฟหน้า ไฟตัดหมอกหน้า และไฟท้ายให้ความสว่างและมุมในการมองเห็นได้ดี แต่ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง มีความสว่างน้อยเกินไป มองเห็นได้ยากในเวลากลางวัน ไม่สามารถสู้แสงแดดจัดได้

ทดสอบการขับขี่และประสิทธิภาพ

เราได้ทดสอบ Mitsubishi Attrage GLS ที่ติดตั้งระบบแก๊สรถยนต์ LPG ของ Versus บนถนนราชพฤกษ์และนครอินทร์ในสภาพการจราจรจริง โดยใช้เชื้อเพลิงทั้งสองชนิด ได้ข้อสรุปดังนี้

  • เสียงเครื่องยนต์ดังกว่าที่คิด ไม่ว่าจะทำงานในช่วงรอบต่ำที่รถจอดสนิท หรือขณะรอบสูงในทุกความเร็วที่ขับขี่
  • ออกตัวได้เร็วดีปานกลาง เร่งแซงได้ค่อนข้างสนุก ในขณะเร่งแซง เครื่องยนต์และเกียร์จะตอบสนองช้าหรือหน่วงอยู่ประมาณเกือบ 1 วินาที หลังจากนั้นรถก็จะพุ่งไปข้างหน้าด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างสูง ให้ความมั่นใจได้ในขณะแซงเมื่อขับรถทางไกล
  • ความแรงของเครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะใช้น้ำมันหรือแก๊ส แต่อัตราเร่งดีกว่าเมื่อใช้น้ำมัน
  • ระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง ดีน่าพอใจ เกาะถนนดี ไม่รู้สึกถึงอาการท้ายปัด หรือลอยเมื่อขับผ่านเนินคอสะพาน ควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้งได้ดี
  • มีไฟแสดงถึงการขับขี่ในแบบ Eco หรือประหยัด ไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งลึกในช่วงเกียร์สูง แค่เลี้ยงคันเร่งเบา ๆ รถก็ยังทำความเร็วได้ดี ขับความเร็วคงที่ ก็จะประหยัดน้ำมันได้จริง ตัวเลขประหยัดน้ำมัน 18-20 กม./ลิตร เป็นตัวที่ทุกคนทำได้จริงสำหรับ Attrage
  • Attrage GLS ที่นำมาทดสอบขับในบทความนี้ ไม่ใช่รุ่นท็อปสุด แต่ก็ให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพียงพอต่อการใช้งาน คุ้มค่ากับราคา 5.3 แสนบาท
  • การเก็บเสียงทำได้ดี ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบ ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอกไม่มากนัก แต่เสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาในห้องโดยสารแบบชัดเจนมาก ต้องเปิดเพลงกลบเสียงเครื่องยนต์
  • เครื่องเสียงและลำโพงที่ให้มา คุณภาพเสียงพอใช้ได้
  • ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ระบบกันสะเทือน ช่วงล่าง และหลายอย่างโดยรวมยังด้อยกว่า Toyota Yaris 1.2 แต่ดีกว่า Nissan Almera
  • ห้องโดยสารกว้างพอตัว หลังคาค่อนข้างสูง ไม่ค่อยมีปัญหาเพดานติดศีรษะกับผู้ที่สูงไม่เกิน 175 cm.
  • กุญแจรีโมต มีความอัจฉริยะเกินตัว เปิดฝาท้ายได้ พับกระจกมองข้างทันทีที่ล็อครถ ปุ่มกดที่ประตูทำงานสัมพันธ์กับตำแหน่งของกุญแจรีโมทได้ดี
  • เบรคทำงานได้ดีน่าพอใจ ระยะเบรคสั้นและมั่นใจกับการทรงตัวเมื่อเบรค
  • พวงมาลัยก็มีน้ำหนักที่ลงตัว ไม่หนักเกินไปอย่าง Chevrolet หรือเบาเกินไปอย่าง Nissan
  • ขับทางไกลสนุก ทำความเร็วได้ 80-120 กม./ชม. ประหยัดน้ำมันทำได้  19.2 กม./ลิตร

ข้อสังเกตุ

  • มีเสียงลมปะทะตัวรถ เมื่อทำความเร็วเกิน 110 กม./ชม.
  • ไม่มีปุ่มปรับเพิ่ม-ลด พัดลม ตรงกลางคอนโทรล
  • มาตรวัดมืดไปหน่อย  ไฟเรืองแสงไม่ทำงาน ถ้าไม่เปิดไฟหน้ารถ
  • ไฟห้องโดยสารตรงกลางไม่มี
  • USB อยู่ในช่องเก็บของคอนโซลหน้า ใช้งานไม่ค่อยสะดวกสำหรับคนขับ
  • ช่องเก็บของคอนโซลหน้า มีระบบสายไฟอยู่ ซึ่งน่าจะจัดเก็บให้มิดชิด
  • ปุ่มกดที่ประตูสำหรับกุญแจรีโมต มีฝั่งคนขับฝั่งเดียว (ซึ่งรถทั่วไปต้องมี 2 ฝั่ง คนขับและผู้โดยสาร)
  • ปุุ่มข้างประตูทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสาร ถ้าใช้งานตอนค่ำจะมืดมาก มองไม่เห็น  (แก้ไขโดยนำเอาสติ๊กเกอร์สีมาแปะ)
  • ไฟภายในห้องโดยสารสว่างเกินแสบตา  (แก้ไขโดยการตัดแฟ้มพลาสติกหนาๆ เลือกสีฟ้า เขียว หรือขาว ใส่เข้าไปใต้หลอดไฟจะทำให้ความสว่างพอดีไม่จร้าเกินไป)

ตัวเลือกอื่น ๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน

  • มีเพียง Nissan Almera กับ Honda Brio Amaze เท่านั้นที่เป็น Eco Car แบบซีดานเหมือนกับ Mitsubishi Attrage โดยรวมต้องยกให้ Attrage เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะความหรูหรา ความสวยงาม ความสะดวกสบาย ความกว้างขวาง ช่วงล่าง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ทำได้ดีกว่าคู่แข่ง ส่วน Brio Amaze นั้นภายนอกดูไม่ค่อยสวยและภายในวัสดุธรรมดา ดีไซน์แย่มาก เลยไม่ประสบความสำเร็จ และ Almera ใหม่ที่ดูสวยงามมากขึ้น ภายในออฟชั่นจัดเต็ม แต่ก็ยังมีช่วงล่างและการควบคุมพวงมาลัยที่ทำได้แย่กว่ามาก จึงขอยกให้ Attrage เป็นตัวที่เลือกที่ดีที่สุดในระดับราคา 5 แสนกว่าบาท แม้ว่า Almera จะมียอดขายที่สูงมากกว่า แต่ไม่ใช่สิ่งที่การันตีว่าดีกว่า Attrage ในส่วนของ Brio Amaze เป็นรถที่มียอดขายน้อย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มองเห็นว่าเพิ่มเงินไปเลือก City คุ้มค่ากว่ามากมาย
  • เชื่อว่าหลายคนอาจจะเปรียบเทียบ Attrage ซึ่งเป็นตัวถังแบบ Sedan กับคู่แข่งรายอื่นที่เป็นตัวถัง Hatchback เนื่องจากมีระดับราคาใกล้เคียงกันมาก แต่ประโยชน์ใช้สอยต่างกัน
  • Toyota Yaris เป็น Eco car ที่ได้ทำดีในส่วนของภายในห้องโดยสาร หรูหรา สะดวกสบาย ล้ำสมัย กว้างขวาง ช่วงล่างดี การทรงตัวดี ขับสนุก พวงมาลัยน้ำหนักเหมาะสมดีมาก ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ตัวถังยาว ซึ่งความคล่องตัวจะน้อยกว่า
  • Suzuki Swift ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบตกแต่งรถยนต์ในสไตล์ของตัวเอง ดีไซน์ภายนอกถือว่าสวยงามที่สุดในกลุ่มรถยนต์ Eco Car Hatchback
  • ส่วน Nissan March และ Nissan Almera ถือว่าเก่าแล้ว ขาดความน่าสนใจ มีจุดอ่อนที่ต้องการปรับปรุงในรุ่นใหม่ ความน่าประทับใจในการขับขี่ ยังไม่ดีเท่า Eco Car รุ่นใหม่ ๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ใหม่ Mitsubishi Attrage ราคา มิตซูบิชิ แอททราจ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^

HONDA ฉลองผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ครบ 25 ล้านเครื่องในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าส่งออกเครื่องพ่นยาแบบสะพายหลังสู่ตลาดโลก

$
0
0

HONDA ฉลองผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ครบ 25 ล้านเครื่องในประเทศไทย
พร้อมเดินหน้าส่งออกเครื่องพ่นยาแบบสะพายหลังสู่ตลาดโลก


กรุงเทพฯ วันที่ 25 สิงหาคม 2557 — บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เปิดเผยถึงความสำเร็จของ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หนึ่งในฐานการผลิตรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ที่สำคัญของภูมิภาค โดยในวันนี้ บริษัท ไทยฮอนด้า มียอดการผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ครบ 25 ล้านเครื่อง พร้อมกันนี้ฮอนด้ายังเตรียมส่งออกเครื่องพ่นยาแบบสะพายหลังรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์อเนกประสงค์ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย มีกำหนดส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกในปีนี้

บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด นับเป็นโรงงานแห่งแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งเมื่อ  พ.ศ. 2508 เพื่อผลิตรถจักรยานยนต์ ต่อมาใน พ.ศ. 2530 จึงเริ่มการผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ปัจจุบันไทยฮอนด้ามียอดผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ครบ 25 ล้านเครื่อง โดยใช้เวลาเพียง  2 ปี หลังฉลองการผลิตครบ 20 ล้านเครื่องในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 โดยการฉลองความสำเร็จครั้งใหม่นี้จัดขึ้น ณ บริษัท ไทยฮอนด้า ซึ่งมีตัวแทนผู้บริหารและพนักงานร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี

ผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์อเนกประสงค์จากโรงงานของ ไทยฮอนด้า มีความหลากหลาย อาทิ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ต้นกำลัง เครื่องสูบน้ำ และเครื่องตัดหญ้า ตอบสนองการใช้งานในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น การเกษตร การก่อสร้าง การใช้งานในครัวเรือน และสันทนาการ โดยฮอนด้าส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์จากประเทศไทยไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก อาทิ ประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ รุ่น GX ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา พร้อมได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ 3 (Tier 3) โดยคณะกรรมการควบคุมมลพิษทางอากาศของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Air Resources Board: CARB)  ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมมลภาวะทางอากาศ ที่เข้มงวดที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน ไทยฮอนด้า มีกำลังการผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์3 ล้านเครื่องต่อปี

ฮอนด้าพร้อมก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้น ด้วยการส่งออกเครื่องพ่นยาสะพายหลัง รุ่น WJR4025T และรุ่น WJR2525T ใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์อเนกประสงค์รุ่นล่าสุดที่พัฒนาโดย บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้าประจำภูมิภาคอาเซียนซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จะผลิตเครื่องพ่นยาสะพายหลังนี้เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และอเมริกาใต้

เครื่องพ่นยาสะพายหลังรุ่นใหม่นี้ ทำงานด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 4 จังหวะ ที่ทนทาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมัน โดยเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยการออกแบบพิเศษที่รองรับด้วยแผ่นรองหลังตามหลักสรีระศาสตร์ รูปทรงของถังเก็บน้ำยาแบบสลิมช่วยเพิ่มความสบายขณะใช้งาน สายสะพายพร้อมหูเกี่ยวสายและตัวปั๊มแข็งแรงยิ่งขึ้น ทนทานต่อการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน  ระยะการพ่นน้ำยาไกลยิ่งขึ้นด้วยปั๊มและหัวฉีดคุณภาพสูง และที่ยึดจับด้ามพ่นยาออกแบบพิเศษโดยฮอนด้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งาน ทั้งนี้ฮอนด้าจะเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ในตลาดโลกตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 นี้ เป็นต้นไป

เกี่ยวกับบริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

สถานที่ตั้ง:                         นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพฯ

ประธานบริษัท:                      นายชุนอิจิ เอกุจิ

ทุนจดทะเบียน:                      150 ล้านบาท

สัดส่วนทุน:                         กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยถือหุ้นร้อยละ 83

ผลิตภัณฑ์:                         รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ และชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ

เริ่มเดินสายการผลิต:                  รถจักรยานยนต์ (พฤษภาคม 2510)
เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (กุมภาพันธ์ 2530)

กำลังการผลิต:                      รถจักรยานยนต์ 1,700,000 คันต่อปี

เครื่องยนต์อเนกประสงค์ 3,000,000 เครื่องต่อปี

การจ้างงาน:                          ประมาณ 8,100 อัตรา

รุ่นผลิตภัณฑ์:                        รถจักรยานยนต์ ได้แก่  รุ่น PCX, รุ่น CBR250R, CBR300, CBR650, MSX, Wave (110, 125), Scoopy, Click 125 เป็นต้น

เครื่องยนต์อเนกประสงค์ ได้แก่ เครื่องยนต์รุ่น GX เครื่องตัดหญ้า เครื่องสูบน้ำ และเครื่องพ่นยาสะพายหลัง

นิสสัน ส่ง 5 หนุ่มไทย บุกอังกฤษพิชิต Nissan GT Academy International Race Camp

$
0
0

นิสสัน ส่ง 5 หนุ่มไทย บุกอังกฤษพิชิต Nissan GT Academy International Race Camp
ฝึกทักษะนักแข่งรถมืออาชีพระดับโลกทีม NISMO


นิสสัน ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ส่ง 5 หนุ่ม “นิสสัน จีที อคาเดมี ประเทศไทย” ตะลุยอังกฤษ พิชิตด่านหฤโหด ขับเคี่ยวซูเปอร์คาร์นิสสันหลากหลายรุ่น ทั้ง Nissan GT-RNissan 370Z และ Nisan Juke NISMO ใน “GT Academy International Race Camp” ณ สนามซิลเวอร์สโตน ใช้ชีวิตติดขอบสนาม ฝึกฝนทักษะนักแข่งรถมืออาชีพทีม NISMO นานนับสัปดาห์ โดยมีนักแข่งระดับโลกคุณต่อ ศรีอาชวนนท์ เกรฟส์ เป็นโค้ชคู่ใจทีมไทย

มร. ร็อบ บาร์ฟ  (Rob Barff) หัวหน้าคณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน กล่าวว่า “ผมภูมิใจกับผู้เข้าแข่งขันทุกคน เพราะทุกคนทำเต็มที่ เรียนรู้เร็ว และมีพัฒนาการที่ดี โดยเฉพาะแชมป์จากประเทศไทย ออสเตรเลีย และเม็กซิโก มีฝีมือสูสีกันมาก ขับเคี่ยวกันมาตลอด


มาลุ้นกันว่า แชมป์นิสสัน จีที อคาเดมี 2014 ประจำประเทศไทย “ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ” จะคว้าโอกาสพลิกชีวิตสู่เส้นทางนักแข่งรถมืออาชีพระดับโลกทีม NISMO ได้สำเร็จหรือไม่ ท่ามกลางคู่แข่งกว่า 30 ชีวิต จาก 5 ประเทศ อย่าพลาดชม! รายการ “GT Academy” เรียลลิตี้ โชว์ สุดตื่นเต้น ไฮไลท์ช็อตเด็ดทุกวินาทีของการเฟ้นหานักแข่ง NISMO โดยพิธีกรสุดเท่ “เจ เจตริน วรรธนะสิน” ออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ ผ่านช่อง True Sport HD1  ช่อง True Asian HD  ช่อง True Sport 3  และ true4U เดือนพฤศจิกายนนี้!

HONDA จัดโครงการ “ฮอนด้า เรียนรู้ พร้อมสู้ภัยพิบัติ”

$
0
0

HONDA จัดโครงการ “ฮอนด้า เรียนรู้ พร้อมสู้ภัยพิบัติ”

กรุงเทพฯ วันที่ 25 สิงหาคม 2557 – กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดโครงการฝึกอบรม “ฮอนด้า เรียนรู้ พร้อมสู้ภัยพิบัติ” สานต่อพันธกิจเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติเป็นปีที่สอง โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้ในการรับมือภัยพิบัติแก่พนักงานกลุ่มบริษัทฮอนด้าประเทศไทย พร้อมการฝึกภาคปฏิบัติในการปฐมพยาบาล การฟื้นคืนชีวิต และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างถูกต้อง ณ ศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง

นางอรนุช พฤกษ์วัฒนานนท์ กรรมการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “เราไม่สามารถทราบล่วงหน้าว่าภัยพิบัติธรรมชาติจะเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ไหน รุนแรงอย่างไร แต่สิ่งสำคัญที่อาจช่วยบรรเทาความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สิน คือ การมีสติและความรู้ในการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ กองทุนฯ จึงได้เดินหน้าปฏิบัติหนึ่งในภารกิจสำคัญคือ  ด้านการส่งเสริมความรู้ ผ่านโครงการฮอนด้า เรียนรู้ พร้อมสู้ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นการให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติแก่พนักงานอาสาสมัครในกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยให้ได้มีทักษะ ความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องในการเอาชีวิตรอด และสามารถให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังมุ่งมั่นขยายภารกิจนี้ไปสู่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น จังหวัด น่าน ลำพูน เชียงราย เป็นต้น

นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยหลัก “หมอบ ป้อง เกาะ” และเทคนิคสร้างพื้นที่สามเหลี่ยมแห่งชีวิต พร้อม 12 เคล็ดลับเอาชีวิตรอดเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในอาคาร ได้แก่ 1. มีสติ ไม่หวั่นไหว 2. ตัดไฟ ปิดวาล์วน้ำ ถังก๊าซ 3. ตรวจสอบความปลอดภัยของบ้าน ยึดตรึงอุปกรณ์ของใช้ขนาดใหญ่ให้มั่นคง 4. เปิดประตูค้างไว้  5. อยู่ห่างจากหน้าต่าง หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อาจตกใส่ได้ 6. ไม่รีบวิ่งออกจากอาคารในทันที  7. ห้ามก่อประกายไฟ 8. งดใช้โทรศัพท์มือถือ  9. งดใช้ลิฟท์ 10. อพยพจากอาคารสูง 11. สวมรองเท้าเมื่อออกจากอาคารหลังแผ่นดินไหวหยุด 12. ห้ามกลับเข้าไปในจุดเกิดเหตุโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดเพลิงไหม้

ฟอร์ดเผยเบื้องหลังการพัฒนาเอสยูวีรุ่นล่าสุดด้วยระบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์โดยเฉพาะ

$
0
0

ฟอร์ดเผยเบื้องหลังการพัฒนาเอสยูวีรุ่นล่าสุด
ด้วยระบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลก
และผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์โดยเฉพาะ

  • ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก พร้อมเผยให้เห็นเบื้องหลังการพัฒนารถเอสยูวีระดับโลกรุ่นล่าสุดที่จะพลิกประวัติศาสตร์รถในตระกูลเอสยูวี และจะเป็นกุญแจสำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ดในตลาดโลก
  • ทีมวิศวกรและนักออกแบบของฟอร์ด ได้รับฟังความคิดเห็นและความต้องการของผู้บริโภคในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างสรรค์รถที่ตอบโจทย์ความต้องการและอยู่เหนือความคาดหวังของลูกค้า
  • ทีมนักออกแบบก้าวข้ามข้อจำกัดของโลกยานยนต์ด้วยการแสวงหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจากหลากหลายแหล่งก่อนเริ่มร่างแบบและสานต่อภาพร่างสองมิติให้กลายเป็นรถต้นแบบ
  • เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยประหยัดเวลาการทำงานและเปิดโอกาสให้ทีมงานทั่วโลกได้ออกแบบ ทดสอบ และตรวจสอบรถเสมือนจริงก่อนการผลิต
  • ฟอร์ดได้ผลิตรถต้นแบบถึง 200 คัน เพื่อบุกตะลุยในทุกสนามทดสอบทั่วโลก รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านกิโลเมตร

เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย 25 สิงหาคม 2557  ก่อนที่จะแนะนำรถเอสยูวี ใหม่ ระดับโลกออกสู่ถนนจริงนั้น ฟอร์ด รู้ดีว่ากลุ่มลูกค้าจะเป็นใคร  ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถกระบะรุ่นใหม่กระบวนการพัฒนารถของฟอร์ดจะเริ่มจากความต้องการของลูกค้าก่อนเสมอ

เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อรถอเนกประสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 มีอัตราการเติบโตของเซกเม้นต์นี้อยู่ที่ 13 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มที่จะยังคงเติบโตอีกอย่างรวดเร็ว ฟอร์ดจึงได้พัฒนาเอสยูวีอัจฉริยะสายพันธุ์ใหม่ที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลลัพธ์ก็คือรถระดับโลกรุ่นใหม่ที่สามารถแข่งกับคู่แข่งและตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้บริโภค รวมถึงเป็นกุญแจสำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ดทั่วโลก

SUV รุ่นล่าสุดนี้ จะได้รับการพัฒนาขึ้นจากทักษะความเชี่ยวชาญในการพัฒนารถเอสยูวีระดับตำนานของฟอร์ด ในฐานะผู้ผลิตรถอเนกประสงค์อันดับสองของโลก ทั้งนี้ ยอดขายเอสยูวีของฟอร์ดสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโลกในปี  2556 ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า 1.2 ล้านคัน

ผลการวิจัยพบว่า ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องการเอสยูวีที่สมบุกสมบันและทรงพลังในการขับเคลื่อนแบบออฟโรด แต่ก็สามารถมอบความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน พวกเขาต้องการดีไซน์ที่สื่อถึงความแข็งแกร่งรวมถึงภายในที่ชาญฉลาด และมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับครอบครัวและเพื่อนๆ นอกเหนือจากความสบายระดับพรีเมี่ยม ลูกค้าทุกคนยังต้องการยานพาหนะที่มีแอโรไดนามิคส์และประหยัดน้ำมัน

“เมื่อมองความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เราเล็งเห็นโอกาสในการเจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ต้องการรถอเนกประสงค์ที่มีความแข็งแกร่งสมบุกสมบัน แต่ยังให้ความสะดวกสบายทั้งเวลาขับขี่ในเมืองหรือใช้บุกป่าฝ่าดงขณะเดินทางไกล” นายจิม ฮอลแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าว

“เราได้ก้าวผ่านความท้าทายโดยการใช้ศักยภาพความเชี่ยวชาญจากแผน One Ford ซึ่งเป็นแผนงานระดับโลกของฟอร์ดอย่างเต็มที่ เราได้ผลิตรถที่ได้สร้างความคาดหวังใหม่ให้รถยนต์กลุ่มนี้ พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำและความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์เอสยูวีในตลาดโลก เราหวังว่ารถรุ่นล่าสุดจะเป็นรถรุ่นสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ด โดยเราจะยังคงเปิดตัวรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ทั่วโลก”

รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า

การเดินทางเริ่มต้นจากการที่ฟอร์ดได้ทุ่มเทศึกษาความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคเพื่อนำมาตั้งเป้าหมายการออกแบบสำหรับเอสยูวีรุ่นล่าสุดนี้  การศึกษาวิจัยอย่างรอบด้านคือขั้นตอนแรกในการพัฒนารถอเนกประสงค์รุ่นนี้และนับเป็นงานวิจัยที่ครบวงจรที่สุดเท่าที่ฟอร์ดเคยทำมาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

“ในช่วงเริ่มต้น ลูกค้าได้บอกสิ่งที่พวกเขาต้องการในรถคันใหม่ หลังจากนั้นเราได้ให้ความสำคัญและทบทวนผลตอบรับของผู้บริโภคในทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะผลิตรถที่ตอบสนองตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง” นายเอียน ฟอสตัน หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมรถอเนกประสงค์ กล่าว  “ในภูมิภาคที่มีความหลากหลายเช่นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความต้องการและความคาดหวังของแต่ละตลาดมีความเฉพาะตัวมาก  จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราต้องทำความเข้าใจความต้องการเหล่านั้นอย่างแท้จริง”

ตลาดในประเทศจีนมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความสนใจในรถเอสยูวีขนาดกลางในประเทศจีนมีสัดส่วนสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มตัวอย่างที่ฟอร์ดทำการสำรวจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถเอสยูวีรุ่นล่าสุดเป็นรถที่มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของทุกตลาดทั่วโลก นักออกแบบและวิศวกรจากฟอร์ดจึงได้เก็บข้อมูลความต้องการของลูกค้าจากทุกมุมโลก

นำแรงบันดาลใจสู่ชีวิตจริง

หลังจากจบการวิจัยขั้นต้น ทีมนักออกแบบได้เริ่มร่างสิ่งที่พวกเขาคิดว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดระดับโลกควรจะเป็นตั้งแต่ภายในจรดภายนอก นอกจากนี้ ทีมนักออกแบบของฟอร์ดยังได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของโลกยานยนต์ โดยหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจากงานสถาปัตยกรรม ภาพไลฟสไตล์ และผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค

ทีมนักออกแบบของฟอร์ดจากศูนย์ออกแบบประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้ตั้งเป้าหมายในการออกแบบที่เน้นความสมดุล ผสานความสมบุกสมบัน สมรรถนะ และความแข็งแกร่งเข้ากับความหรูหราและความประณีต รถต้นแบบ เอเวอร์เรสต์ คอนเซ็ปต์ ที่จัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ในกรุงเทพฯ และปักกิ่ง เป็นรถที่แสดงถึงการออกแบบขั้นตอนสุดท้ายของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

“เราต้องการการออกแบบที่สามารถสะท้อนสมรรถนะสมบุกสมบันแบบออฟโรด แต่ในขณะเดียวกันก็มีดีไซน์ล้ำสมัยที่แตกต่างไปจากเดิม” นายเดวิด เดอวิตต์ ผู้จัดการฝ่ายการออกแบบตัวถังภายนอกของรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด ออสเตรเลีย กล่าว “ สิ่งที่เรากำลังสื่อสารคือคุณสามารถมีรถที่ทรงพลัง แต่ยังคงความหรูหราและทันสมัยได้ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับดีเอ็นเอของฟอร์ดรวมถึงการนำเอาความเชี่ยวชาญด้านเอสยูวีที่มีอยู่มาใช้ เพื่อผลิตรถที่สะท้อนถึงความเป็นฟอร์ดได้ดีที่สุด”

หลังจากได้นำความคิดเห็นของลูกค้ามาปรับใช้ ทีมออกแบบของฟอร์ดจึงได้สานต่อภาพร่างสองมิติให้กลายเป็นโมเดลสามมิติด้วยดินปั้นที่มีคุณสมบัติคล้ายขี้ผึ้งและมีความนุ่มในอุณหภูมิอุ่น ดินปั้นเป็นวัสดุที่เหมาะสมในการถ่ายทอดดีไซน์ภายในและภายนอก นอกจากนี้  เมื่อมองในระยะใกล้ รายละเอียดของโมเดลที่สร้างเสร็จจนับว่ามีความคล้ายคลึงกับรถยนต์ที่ผลิตออกมาเลยทีเดียว

ปรับแก้ทุกปัญหาเสมือนจริง

ในขณะที่ทีมออกแบบทำการร่างแบบและขึ้นโมเดล ทีมวิศวกรฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุ่มเทเวลาในการออกแบบโครงสร้างเพื่อให้มั่นใจว่ารถอเนกประสงค์คันนี้ สามารถตอบโจทย์ความเป็นรถสมบุกสมบันที่มีดีไซน์สวยงามได้เป็นอย่างดี

ด้วยความทันสมัยของวิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิต (computer-aided engineering หรือ CAE) ฟอร์ดจึงสามารถปรับปรุงการออกแบบ ความปลอดภัย และอีกหลายๆ ส่วนที่เกี่ยวกับส่วนต่อประสานคนกับรถก่อนที่รถคันแรกจะผลิตออกมา ระบบวิศวกรรมแบบเสมือนจริงสามารถลดเวลาการพัฒนารถและลดค่าใช่จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการพัฒนา โดยการจำลองทุกองค์ประกอบและระบบภายในรถโดยละเอียด

“ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา วิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิตได้พัฒนาอย่างรวดเร็วโดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิศวกรรมยานยนต์” นายเอียน ฟอสตัน กล่าว “ในอดีต เราต้องผลิตรถต้นแบบขึ้นมาหลายร้อยคันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิศวกรรมยานยนต์  แต่ทุกวันนี้ เราสามารถใช้ประโยชน์จากกระบวนการนี้และส่วนประกอบเสมือนจริง ทำให้รถต้นแบบที่ผลิตออกมามีความใกล้เคียงกับรถที่เสร็จสมบูรณ์มากขึ้น”

วิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิตช่วยแก้ปัญหาความท้าทายด้านการออกแบบในรถขนาดใหญ่ได้ด้วยการวิเคราะห์การต้านลมแบบเสมือนจริง ทีมแอโรไดนามิคส์สามารถพัฒนาเอสยูวีที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศพลศาสตร์ต่ำที่สุดในท้องตลาด

เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทีมวิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิตจำลองโครงสร้างภายในห้องโดยสารที่มีความแข็งแกร่งและจำลองการชนแบบเสมือนจริงหลายพันครั้ง การจำลองในแต่ละครั้งนับว่ามีรายละเอียดเยอะมากจนคอมพิวเตอร์ธรรมดาต้องใช้เวลาถึง 12 เดือนในการประเมินผล แต่การนำซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อันอัจฉริยะมาใช้ ทำให้ฟอร์ดจำลองการชนแบบเสมือนจริงแต่ละครั้งได้ในเวลาเพียง 2-4 ชั่วโมง

ฟอร์ดยังได้ใช้ห้องทดลองฟอร์ด อิมเมอร์สีฟ เวอร์ชัวร์ เอ็นไวรอนเมนต์ (Ford immersive Virtual Environment – FiVE) ซึ่งเป็นสตูดิโอออกแบบในเมลเบิร์นที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการตรวจสอบรถแบบเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยสำหรับทีมดีไซเนอร์และวิศวกร ศูนย์ดังกล่าวมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะให้ทีมงานเดินศึกษารายละเอียดรอบรถขนาดใหญ่อย่างเอสยูวีได้

ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทีมงานในออสเตรเลียจึงสามารถตรวจสอบรถแบบเสมือนจริงได้พร้อมกับทีมงานในอเมริกา จีน และเยอรมนี เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจว่าการออกแบบจะออกเป็นมาอย่างไร โดยจำลองรูปแบบการใช้งานรถในขณะหยุดนิ่งแบบเดียวกับที่ผู้บริโภคจะใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตู ขึ้น-ลงจากรถ และขณะนั่งภายในรถ  ทีมวิศวกรและนักออกแบบสามารถระบุและตรวจสอบปัญหาความไม่สม่ำเสมอด้านการออกแบบ เพื่อปรับการออกแบบให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น

พร้อมขับเคลื่อนในโลกแห่งความจริง

ถึงแม้การจำลองทางคอมพิวเตอร์จะทันสมัยเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการทดลองในชีวิตจริงได้ ในขณะที่รายละเอียดด้านการออกแบบต่างๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการสรุป ทีมวิศวกรจึงสร้างรถต้นแบบ “ลูกผสม” ก่อนการผลิตขึ้นจากแพลตฟอร์มรถเอสยูวีที่มีความชาญฉลาด แข็งแกร่ง และเปี่ยมประสิทธิภาพ เพื่อเป็นแนวทางให้กับรถที่จะได้รับการผลิตในขั้นตอนสุดท้าย

ส่วนของรถลูกผสมคันนี้ผลิตขึ้นจากชิ้นส่วนของรถหลายๆ คันที่ผลิตขึ้นมาก่อนหน้า แม้ว่ารถคันนี้อาจมีรูปร่างแปลกแต่ก็มีความสำคัญมาก เนื่องจากวิศวกรจะนำระบบของรถไปทดสอบในสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมการขับขี่จริงอันหลากหลาย หลังจากนั้นจึงจะระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจจะไม่แสดงให้เห็นในช่วงของการทดลองแบบเสมือนจริง

สำหรับรถเอสยูวีระดับโลกรุ่นล่าสุดที่ได้รับการออกแบบให้มีสมรรถนะอันทรงพลังในขณะขับแบบออฟโรดและให้ความรู้สึกหรูหราขณะขับบนเส้นทางปกติ การทดสอบรถในขั้นตอนนี้จึงรวมถึงบททดสอบสุดโหดมากมาย

ทีมวิศวกรได้ทดสอบรถในระดับความสูงที่สูงชันบนยอดเขาในประเทศนิวซีแลนด์ ขับข้ามเดธแวลลีย์ในแคลิฟอร์เนีย และทะเลทรายซิมป์สันในประเทศออสเตรเลีย ลุยทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศสวีเดน บุกภูเขาอันห่างไกลในประเทศจีน และตะลุยหน้าหนาวสุดขีดในตอนเหนือของประเทศแคนาดา นอกจากนี้ ทีมวิศวกรยังได้ทดสอบความคงทนในห้องทดลองที่สามาถจำลองการใช้งานหลายปีให้แสดงผลภายในเวลาไม่กี่วัน

ในทุกขั้นตอนการทำงาน ทีมออกแบบและวิศวกรมุ่งมั่นในการปรับปรุงและพัฒนาผลงานให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง การสร้างรถต้นแบบด้วยมือที่มีความคล้ายคลึงกับรถที่พร้อมส่งผลิต ทั้งในด้านการออกแบบและโครงสร้าง ทำให้ทีมงานสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์และช่วงล่างได้เป็นอย่างดี

ตลอดระยะเวลาการทดสอบรถในสถานการณ์จริงและในช่วงของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฟอร์ดได้ผลิตรถต้นแบบถึง 200 คัน เพื่อบุกตะลุยในทุกสนามทดสอบรวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ทั้งในสถานที่จริงและในสนามทดสอบระดับโลกของฟอร์ด

“การได้ใช้เวลาทดลองขับรถในส่วนต่างๆ ของโลกช่วยให้เราเข้าใจสภาพถนนและพฤติกรรมการขับที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศมากขึ้น” นายเอียน ฟอสตัน กล่าว “ตัวอย่างเช่น เราพบว่าระหว่างขับรถ ผู้ขับขี่ชาวจีนจะเหยียบคลัตช์และเปลี่ยนเกียร์เร็วกว่าผู้ขับขี่ชาวออสเตรเลีย และในตลาดอื่น เราเห็นความสำคัญของการติดตั้งแตรที่มีความคงทนมากขึ้น”

ในช่วงเกือบสุดท้ายของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การได้ทดสอบรถอย่างรอบด้านบนถนนจริงๆ ทำให้ทีมงานของฟอร์ดได้เห็นพัฒนาการของรถตั้งแต่เริ่มต้นจนครบรอบวงจรผลิตภัณฑ์ ก่อนที่รถรุ่นใหม่จะเดินหน้าสู่สายการผลิตจริงและส่งมอบให้แก่ลูกค้า

“เราเริ่มจากความต้องการของลูกค้า และให้ความสำคัญสูงสุดแก่ลูกค้าของเราเสมอ” นายเอียน ฟอสตัน กล่าว “หลังจากการทำงานนานถึง 5 ปี  และความทุ่มเทกว่า 4,500 ชั่วโมง ในที่สุด เราก็ได้สร้างสรรค์รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและอยู่เหนือความคาดหวังของลูกค้าได้ นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก”



ใหม่ Hyundai Tucson 2014-2015 ราคา ฮุนได ทูซอน ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0

 ใหม่ Hyundai Tucson 2014-2015 ราคา ฮุนได ทูซอน  ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

Hyundai Tucson ใหม่
- ภายนอก The New Hyundai Tuscon Minor Change รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับความโดดเด่น ของการออกแบบภายนอก ที่ได้รับการเติมเต็ม ฉีกระดับไปสู่ความหรูหรา ในอีกมาตรฐานเพื่อคนไทย
- ภายใน ความกว้างขวางและสะดวกสบายในห้องโดยสาร คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของ The New Hyundai Tuscon มาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่โดยสาร หรือ พื้นที่เก็บสัมภาระ ที่ปรับขยายได้ด้วยการพับพนักที่นั่งตามความต้องการ
- สมรรถนะ ที่สุดของ Briliant Urban SUV ที่ทำให้คุณมากกว่าด้วยสมรรถนะแบบ On Road และ Off Road ที่คุณต้องทึ่งในแบบ 4WD ที่มีระดับ

ราคา Hyundai Tucson ฮุนได ทูซอน 1,690,000.

 *ของแถม Hyundai Tucson  จัดเต็ม  ติดต่อ  เซลล์ คุณกอล์ฟ บางนา 092-697-1499  

ราคา ฮุนได ทูซอน  ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐาน Hyundai Tucson

ความยาว x ความกว้าง x ความสูง : 4,410 x 1,820 x 1,655

Hyundai Tucson 2.0 D 4WD

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- ไฟหน้าแบบ HID พร้อมโปรเจคเตอร์
- ไฟท้ายแบบ LED
- ไฟตัดหมอกหน้า
- กระจังหน้าโครเมียม
- กันชนสีเดียวกับตัวรถ
- กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบ LED
- กระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฝ้า
- กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
- มือเปิดประตูด้านนอกโครเมียม
- ราวหลังคา
- กระจกตัดแสง

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- พวงมาลัย/ คันเกียร์หุ้มหนังแท้
- ระบบมัลติฟังก์ชั่นที่พวงมาลัย
- สัญญาณไฟเลี้ยวแบบ One Touch
- จอแสดงข้อมูลการเดินทาง
- ระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ปรับแยกซ้าย-ขวา พร้อมระบบฟอกอากาศ
- เบาะหลังปรับเอนได้
- เบาะหลังปรับพับแบบ 60:40
- ช่องเก็บของที่ด้านหลัง พนักพิงเบาะคนนั่งด้านหน้า
- ที่พักแขนคอนโซลกลางหุ้มหนัง
- กระจกไฟฟ้า
- พนักศีรษะปรับขึ้นลงได้
- ที่วางแขนของที่นั่งด้านหลัง พับเก็บได้พร้อมที่วางแก้ว
- ตาข่ายคลุมสัมภาระ
- ตาเขื่อกั้นเพื่อยึดสิ่งของในที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
- แผงตกแต่งที่ประตู
- แผงบังแดดพร้อมกระจกและไฟส่อง
- ไฟห้องโดยสารและกล่องเก็บแว่นตาที่คอนโซลเหนือศีรษะ
- จุดจ่ายไฟหน้าและหลัง
- มือเปิดประตูด้านในสีเมทัลลิก

ระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อ
- เครื่องเสียง DVD พร้อมระบบนำทาง
- ช่องต่อสำหรับ USB / AUX
- สายต่อพ่วง iPod
- ลำโพง 6 จุด

ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ Pretension
- สัญญาณกันขโมย
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบควบคุมสเถียรภาพ ESP
- ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- ไฟเบรกดวงที่สาม
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ระบบกระจกไฟฟ้านิรภัยด้านหน้าคนขับ
- ระบบเซ็นทรัลล็อค
- กล้องมองหลัง

 

EXTERIOR ภายนอก  Hyundai Tucson

ไฟหน้าแบบ Projector Lens โคมไฟหน้าแบบ Projector พร้อมไฟหรี่แบบเส้น เพิ่มความสวยงาม

กระจังหน้า แบบ 6 เหลี่ยม พร้อมคิ้วโครเมี่ยม เพิ่มความหรูหรา

สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ไฟท้ายแบบ LED เพิ่มความโดดเด่น ทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ไฟตัดหมอกหน้า เพิ่มทัศนวิสัยยามขับขี่ในสภาวะหมอกลงจัด และ ในกรณีที่ต้องการแสงสว่างเพิ่มเติม

ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง แบบ LED พร้อมกระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า

Alloy Wheel ล้ออัลลอย 17 ”

รูปทรงแบบ Fluidic Sculpture Design เอกลักษณ์การออกแบบของรถยนต์ Hyundai ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว และอากาศผลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม

INTERIOR ภายใน  Hyundai Tucson

Interior Color เบาะนั่งสีน้ำตาล

แผงควบคุมกระจกไฟฟ้า พร้อมปุ่มปรับและพับกระจกมองข้าง

เบาะแถวสองแบบปรับเอนได้ เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารตอนหลังมากยิ่งขึ้น

เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เพิ่มความเอนกประสงค์สูงสุดด้วยภายในที่กว้างขวาง รองรับสัมภาระได้มากกว่า

เซนเซอร์กะระยะหลังแบบ 4 จุด เพิ่มความปลอดภัยขณะจอด ร่วมกับกล้องมองหลังเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

กล้องมองหลัง ถอยจอดได้อย่างมั่นใจ โดยแสดงภาพผ่านจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว

PERFORMANCE เครื่องยนต์  ฮุนได ทูซอน

สมรรถนะและเทคโนโลยีที่ก้าวไกลไปอีกระดับ ผสมผสานกับความงดงามที่ได้รับการเติมเต็มอย่างลงตัว สร้างสรรค์ให้ The New Hyundai Tuscon เหนือกว่าทั้งบนทาง on-road แลพ off-road ให้คุณมั่นใจได้เต็มที่

เครื่องยนต์ R-Engine 2.0L CRDi 184 แรงม้า 392 นิวตัน-เมตร
เครื่องยนต์ Terbo Diesel ใหม่ล่าสุด รองรับมาตรฐาน EURO 4 ให้ความประหยัดและความแรง ในขณะเดียวกันด้วยแรงม้า ที่เพิ่มจากเดิมที่ 177 แรงม้า เป็น 184 แรงม้า


ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่คล่องตัว และมีอัตราเร่งที่เฉียบคม บนพื้นฐานความประหยัด

4 WD

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-Time On Demond ตรวจจับการลื่นไถล และควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า กระจายกำลังแบบ 50:50

แนวคิดใหม่ในการพัฒนารถยนต์ ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีรสนิยมและสมบูรณ์แบบในทุกสภาพถนน โดดเด่นกว่า Urban SUV และรถ Cross Over ในระดับเดียวกัน

SAFETY

ระบบ Keyless entry พร้อมปุ่ม Push Start เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยจากการโจรกรรม

DBC ระบบช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน HAC ระบบป้องกันรถไหลขณะขึ้นทางลาดชัน

ESP ระบบรักษาสเถียรภาพรถยนต์ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่

CONVENIENCE

ช่องวางแก้วขนาดใหญ่ บริเวณคอนโซลกลางพร้อมไฟส่องสว่าง

ช่องต่อไฟ 12V ที่ห้องสัมภาระ พร้อมไฟส่องสว่าง เพิ่มความสะดวกสบาย

กล่องเก็บของ เพิ่มความเอนกประสงค์ด้วยกล่องเก็บของใต้ที่วางแขนด้านหน้าแบบสองชั้น

ระบบแอร์อัตโนมัติ พร้อมแยกทำความเย็นอิสระสองด้าน

ปุ่มควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย

เครื่องเล่น DVD หน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง จาก Speed Navi

ช่องต่อสำหรับ USB / AUX

COLORS สี Hyundai Tucson

Hyundai Tucson มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ 1. สีขาว 2. สีเทา 3. สีดำ

 *ของแถม ฮุนได ทูซอน  จัดเต็ม  ติดต่อ  เซลล์ คุณกอล์ฟ บางนา 092-697-1499 

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^

Honda เตรียมเปิดตัว All New Honda Mobilio รถ 7 ที่นั่ง ใหม่ 12 ก.ย.57 นี้

$
0
0

Honda เตรียมเปิดตัว  All New Honda Mobilio รถ 7 ที่นั่ง ใหม่ 12 ก.ย.57 นี้

Honda เปิดตัวยนตรกรรม “ฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่” ในวันที่ 12 ก.ย.57 นี้ เวลา 12.00-16.00 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ B2 ชั้น 22 โรงแรมเซนทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับ Honda Mobilio ใหม่ เป็นรถครอบครัวเอนกประสงค์ MPV 7 ที่นั่ง ซึ่งเคยเปิดตัวในงาน อินโดนีเซีย มอเตอร์โชว์ 2013 ภายนอกและภายในมีลักษณะคล้ายๆ กับ Honda Brio ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1500 ซีซี  1.5L i-VETEC ที่ให้พละกำลังสูงถึง 119 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุดประมาณ 17.3 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่น 4 สี  ซึ่งราคาคาดว่าจะอยู่ที่ 6-7 แสนบาท

สำหรับคู่แข่งของ Honda Mobilio โดยตรง คงหนีไม่พ้น  Toyota Avanza ของค่ายโตโยต้า แน่นอน

 

ชมคลิป All New Honda Mobilio

Yamaha YZR-M1 คู่หูอดีตเเชมป์ 7 สมัย Valentino Rossi

$
0
0

Yamaha YZR-M1 คู่หูอดีตเเชมป์ 7 สมัย Valentino Rossi

Yamaha YZR-M1 (ยามาฮ่า YZR-M1)

เครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง 4

ขนาดความจุ 1,000 ซีซี.

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ระบบคลัทช์ แบบแห้งพร้อมด้วย Slipper Clutch

ระบบเกียร์ Cassette 6 สปีด

ท่อไอเสีย Akrapovic

Topspeed 360 กม./ชั่วโมง

เเรงม้าสูงสุด 240 แรงม้า

ระบบเบรค

- ด้านหน้า ดิสค์เบรคคู่ขนาด 320 มม.คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ Brembo

- ด้านหลัง ดิสค์เบรคเดี่ยว คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ Brembo

ล้อเเม็ก เเมกนิเซียม Forged

ระบบกันสะเทือน Ohlins

ยาง bridgestone

หากพูดถึง 10 อันดับรถเเรงตลอดกาลจะต้องมีเจ้าคันนี้ถูกรวบรวมอยู่อย่างเเน่นอน ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นคู่หูของเเชมโลกหลายสมัยที่พูดชื่อไปเเล้วไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง Valentino Rossi นักซิ่งขวัญใจมหาชน อดีตแชมป์โลก MotoGP ถึง 7 สมัยและความสำเร็จบนโพเดียมมากถึง 145 ครั้ง ซึ่งเขาเองได้ย้ายมาจากทีม Honda ในปี 2004 จึงเป็นเหตุผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของทีม Yamaha เป็นอย่างมากเเละถือกำเนิดเจ้า Yamaha YZR-M1 อีกด้วยครับเจ้าคันนี้ถูกพัฒนาโดยทีมเเข่งอย่าง Yamaha Factory Racing ได้ทำการออกแบบให้รถคันนี้มีมีลักษณะที่จำเพาะคือมีขนาดฐานล้อที่เเคบกว่าเดิม ส่งผลให้อัตราการเร่งนั้นดีกว่าเเละในระหว่างออกตัวหรือการเร่งเเซงนั้นมีประสิทธิภาพกว่าเดิม เเต่ก็ต้องต้องทดเเทนด้วย Top Speed ที่ตกลงด้วยนั้นเองครับ

เรามาชมด้านเครื่องยนต์อันทรงพลังกันดีกว่าครับ เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แถวเรียง 4 จังหวะ พร้อม crankshaft แบบ Crossplane ขนาดความจุ 1000 ซีซี.(ขนาดเดิมเป็น 800 ซีซี.ครับ) จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ ระบบคลัทช์แบบเเห้งพร้อมด้วย Slipper คลัทช์ ขับเคลื่อนผ่านกล่องเกียร์แบบ Cassette 6 สปีด โครงสร้างตัวถังเป็นแบบ Delta Box ท่อคู่ทำด้วยอลูมิเนียม มีสวิงอาร์มอลูมิเนียม ท่อไอเสียจากสำนัก Akrapovic ท่อไอเสียชั้นดีเสียงสนั่นหู ทางค่ายเคลมมาว่าเจ้าตัวนี้เรียกเเรงม้าออกมาได้กว่า 240 แรงม้า เเละความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ทะลุ 300 กม./ชั่วโมง เเละในบางสำนักที่ทำการเทส Top Speed ได้บอกอีกว่าได้ความเร็วสูงสุดถึง 360 กม./ชั่วโมงอีกด้วยครับ

ระบบกันสะเทือนเเละระบบเบรค โช๊คอัพระดับเทพ ด้านหน้าเทเลสโคปิคปรับตั้งค่าได้ ด้านหลังโช๊คอัพเดี่ยว Ohlins ทั้งคู่ ระบบเบรค เลือกใช้ของ Brembo ด้านหน้าจานเบรคขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ล้อเเม็กเเมกนิเซียม Forged ขึ้นรูปพิเศษเเข็งเเละเบากว่ามากขนาด 16.5 นิ้วรัดด้วยยาง bridgestone

เเรงสะใจแบบนี้เเละมาพร้อมกับการขับขี่ที่เรียกว่าสุดยอดที่สุดในปัจจุบัน อีกทั้งเจ้าคันนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างยาวนานอีกด้วยครับ สำหรับผู้ที่สนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของทางค่ายสนนราคามาที่ 30 ล้านบาทครับ เเละก็ไม่ขายขาดน่ะครับให้ยืมเฉยๆอีกด้วย เเหม่ห่วงกันสุดฤทธิ์สุดเดชเลยน่ะครับเนี่ย

Toyota Motorsport 2014…FAST FUN FEST ต่อเนื่องความมันส์สนามสองที่นครราชสีมา

$
0
0

Toyota Motorsport 2014…FAST FUN FEST  ต่อเนื่องความมันส์สนามสองที่นครราชสีมา

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย      นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเปิดการแข่งขัน โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2014” สนามที่ 2 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา

โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต ปีนี้ได้พัฒนาให้มีความตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “Fast Fun Fest” เพื่อให้สอดคล้องกับการเข้าสู่ยุคใหม่ของรถยนต์นั่งโตโยต้าที่มีดีไซน์โดดเด่น มีความเร้าใจและสนุกในการขับขี่ โดยได้เพิ่มกิจกรรมใหม่ๆอีกหลากหลายกิจกรรมในงาน เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ต นิสิตนักศึกษา ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถ และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมมากยิ่งขึ้น

การแสดงสมรรถนะของรถรุ่นต่างๆ

  • The Champion Show by Toyota Team Thailand…การแสดงสมรรถนะรถแข่งโตโยต้า 86 และโตโยต้า   โคโรลล่า อัลติส จาก Toyota Team Thailand ที่สร้างความเร้าใจไปกับเสียงดังกระหึ่มทั่วสนาม
  • The Excited Happening Show…การขับแสดงสมรรถนะของรถยนต์หลากรุ่น อาทิ โตโยต้า ยาริส โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส โตโยต้า วีออส และไฮลักซ์วีโก้ ที่สร้างความตื่นเต้นในกลุ่มผู้ชมทั่วสนาม
  • Corolla Altis ESport Show…การขับเพื่อโชว์สมรรถนะของช่วงล่างของรถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ที่ถูกออกแบบเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในขณะขับขี่ให้มากขึ้น โดยมีพรีเซ็นเตอร์นักแสดงชื่อดังอย่าง ไมค์ พิรัชต์ ร่วมนั่งมากับนักขับระดับประเทศ ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ ที่เรียกเสียงเชียร์ได้แบบล้นหลาม
  • VIGO Champ Stun Show…สตันท์โชว์ ที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของรถกระบะไฮลักซ์วีโก้ที่ทั้งแรง และหนึบ โดยมืออาชีพอย่าง พี่โต สตันท์แมน 
  • Toyota Super Drift Show…การโชว์ดริฟท์ที่สร้างความสนใจในกลุ่มผู้ชมแบบเกาะติดขอบสนาม โดยมีแชมป์ ดริฟท์ระดับประเทศ กีกี้ – ศักดิ์ นานา ที่ขับรถกระบะไฮลักซ์วีโก้ มาประชันกับแชมป์ดริฟท์ชาวญี่ปุ่น มาซาโตะ คาวาบาตะ ในรถโตโยต้า 86  แบบเร้าใจสุดๆ

กิจกรรมสร้างความบันเทิง เน้นเอาใจวัยมันส์

  • Toyota Fun Rally…แรลลี่ร่วมส่งความสุขของครอบครัวโตโยต้า ที่ได้ทั้งความผูกพัน แถมได้ความสนุกสนานไปพร้อมๆกัน กับการร่วมชมการแข่งขัน โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต
  • Walk About… กิจกรรมแบบเฉพาะกิจสุดๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้มีโอกาสสัมผัสรถแข่ง และทีมแข่งบน      แทร็คแบบใกล้ชิด และได้รับความสนใจแบบล้นหลาม
  • คอนเสิร์ต จาก Potato … วงดนตรีชั้นนำของประเทศที่สร้างความสนุกสนานได้แบบถึงใจผู้ร่วมชม
  • การประกวดกองเชียร์… เวทีแสดงความสามารถของคนรุ่นใหม่จากโรงเรียนและสถาบันการศึกษาในจังหวัด นครราชสีมา ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมทั่วไป ตลอดจน กลุ่มวัยรุ่นที่มาร่วมเชียร์เพื่อนๆ ผู้เข้าแข่งขัน
  • การประกวด Graffiti … เวทีแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานศิลปะที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากวัยรุ่นและบุคคลทั่วไป แถมได้ลุ้นรางวัลผ่านการโหวตโดยผู้เข้าชมผลงานด้วย

กิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน

  • โครงการโตโยต้าถนนสีขาว… การจัดอบรมและกิจกรรมเพื่อปลูกจิตสำนึกการขับขี่อย่างปลอดภัยและการใช้รถใช้ถนนที่ดีในกลุ่มเด็ก เยาวชน และบุคคลทั่วไป ผ่านการร่วมสนุกในเกมส์ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้และความเข้าใจแบบง่ายๆ

ผลการแข่งขัน โตโยต้า วันเมคเรซ 2014 สนามที่ 2

โคโรลล่า อัสติส วันเมคเรซ คลาสบี

อันดับ

หมายเลข

ชื่อนักแข่ง

ทีม

1

83

เดชพล ทองพูน MY AND CARR G’ZOX ELF BY PHUKET SRISUCHAT

2

11

สิทธิ์ ตันติพิสิฐกุล TOYOTA RACING STAR TEAM

3

1

พิมพรรณ หงษ์ปาน SITTIPOL TOTAL

4

2

เพียว หงษ์ปาน SITTIPOL TOTAL

5

50

ชิบะ เคนทาโร่ RUK SERVICE TEAM NETZ YASAKA

วีออส วันเมคเรซ คลาสซี

อันดับ

หมายเลข

ชื่อนักแข่ง

ทีม

1

70

นาโอกิ คาวามูร่า RUK SERVICE TEAM NETZ YASAKA

2

44

สาชัย ณัฐกุญชร TOYOTA RACING SCHOOL TEAM

3

66

จารุวัตร มณีรัตนชัยสิทธิ์ MILLERS-OILS-TOYOTA PATTAYA 1998

4

78

ไพรัตน์ จึงพิริยะ MY AND CARR G’ZOX ELF BY PHUKET SRISUCHAT

5

33

ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ 33 AUTO NGOW KOLLAKARN

วีออส วันเมคเรซ เลดี้คัพ

อันดับ

หมายเลข

ชื่อนักแข่ง

ทีม

1

59

ศุภักษร ไชยมงคล MY AND CARR G’ZOX ELF BY PHUKET SRISUCHAT

2

96

ณ้ฐนิช ลีวัฒนาวรากุล MORIN TOP1 RACING TEAM

3

39

ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ -

4

25

ฑิฆัมพร เรืองรองรัตนา SAT-SINGHA RACING TEAM

5

27

อลิสา อับดุลลาห์ H-DRIVE RACING

พบกับการแข่งขัน โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2014 สนามที่ 3 ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายนนี้

ใหม่ Hyundai H-1 2014-2015 ราคา ฮุนได เอชวัน ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0

ใหม่ Hyundai H-1 2014-2015 ราคา ฮุนได เอชวัน ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์


Hyundai H-1 เหนือกว่าด้วยดีไซน์และความหรูหรา
ความโดดเด่นที่ผสมผสานเป็นความคุ้มค่าที่ลงตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ และก้าวไปสู่อีกระดับของ “การเดินทางที่…สบายที่สุด”

Hyundai H-1 ราคา
ราคา Hyundai H-1 Touring ฮุนได เอชวัน ทัวริง รุ่น  2.5 CRDi MT  1,099,000.
ราคา Hyundai H-1 Elite ฮุนได เอชวัน อีลิท รุ่น 2.5 CRDi VGT  1,489,000.
ราคา Hyundai H-1 Deluxe ฮุนได เอชวัน เดอลุกซ์ รุ่น 2.5 CRDi VGT 1,599,000.

 *ของแถม Hyundai H-1  จัดเต็ม  ติดต่อ  เซลล์ คุณกอล์ฟ บางนา 092-697-1499

ราคา ฮุนได เอชวัน ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐาน Hyundai H1

ความยาว x ความกว้าง x ความสูง : 5,125 x 1,920 x 1,925

Hyundai H1 Series รุ่น Touring ราคา 1,099,000 บาท

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- ไฟหน้าแบบ Multi-Reflector
- ไฟตัดหมอกหน้า
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
- กระจังหน้าตกแต่งโครเมี่ยม
- มือเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
- ประตูด้านหน้าแบบ Tilting Door
- ประตูห้องโดยสารแบบสไลด์สองข้าง
- ที่ปีดน้ำฝนด้านหลัง
- เสาอากาศแบบ Short-Type

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ
- ระบบปรับอากาศแมนวล พร้อมปุ่มควบคุมสำหรับด้านหลัง
- ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแยกสำหรับด้านหลัง
- กระจกไฟฟ้าสำหรับประตูหน้า
- สีภายในแบบ Two-Tone
- รูเสียบกุญแจแบบเรืองแสง
- ที่ปัดน้ำฝนหน้าแบบปรับหน่วงเวลาได้
- เบาะแถวที่สอง ปรับหมุน 180′
- เบาะผ้าแบบ Tricot Suede
- เส้นไล่ฝ้าที่กระจกประตูท้ายรถ
- กล่องใส่ของหน้ารถแบบสองชั้น

ระบบเครื่องเสียงและวิทยุการเชื่อมต่อ
- เครื่องเสียง วิทยุ CD/ แบบ 1 แผ่น ขนาด 2 DIN รองรับไฟล์ MP3
- ลำโพง 4 ตัว

ระบบความปลอดภัย
- ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
- โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Four Ring

Hyundai H1 Series รุ่น Executive ราคา 1,489,000 บาท
- กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วป้ายทะเบียนหลังโครเมียม
- กล่องเก็บแว่นตาที่คอนโซลเหนือศีรษะ
- กระจกแบบ Flush Glass ที่ประตูสไลด์
- กุญแจรีโมท
- ระบบไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED พร้อม Mood Lighting เปลี่ยนได้ 6 สี
- กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
- แผงบังแดดพร้อมกระจกและไฟส่อง
- ลำโพง 6 ตัว
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS
- สัญญาณกันขโมย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- สัญญาณเตือนกะระยะขณะถอยหลัง

Hyundai H1 Series รุ่น Deluxe ราคา 1,599,000 บาท
- ไฟส่องสว่างนำทางเมื่อดับเครื่อง
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบ LED
- สปอยเลอร์ประตูท้ายรถ
- ปุ่มปรับเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
- แผงคอนโซลลายไม้
- เบาะหนังแท้
- เครื่องเสียง วิทยุ / CD / DVD แบบ 1 แผ่น ขนาด 2 DIN รองรับไฟล์ MP3 พร้อมหน้าจอ LCD ความละเอียดสูง ระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบบลูทูธสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่
- ระบบบลูทูธสำหรับเชื่อมต่อเครื่องเสียงพกพา
- ช่องต่อสำหรับ USB / AUX
- ระบบนำทาง GPS
- จอภาพ LCD ติดเพดาน ขนาด 10.1 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- กล้องมองภาพด้านหลังพร้อมเส้นกะระยะและเปลี่ยนมุมกดอัตโนมัติ

 

EXTERIOR ภายนอก  Hyundai H-1

กระจังหน้าใหม่ ออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัย โฉบเฉี่ยว และหรูหรา กลมกลืนกับตัวรถ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

กระจกมองข้าง ปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบ LED เพิ่มความสะดวกสบาย และสวยงามอย่างลงตัว

เสาอากาศแบบ Short-Type ให้การรับสัญญาณคลื่นวิทยุที่มีประสิทธิภาพ มีขนาดที่สั้นกระทัดรัด เพื่อความคล่องตัวในการเข้าอาคารหรือพื้นที่ที่จำกัดความสูง

ไฟตัดหมอก เพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัย เมื่อมีหมอกหนาทึบหรือสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก

กระจกที่ประตู แบบ Flush Glass ประตูสไลด์ติดตั้งกระจก ที่สามารถเปิดได้เพื่อรับลม เมื่อปิดแล้วจะเรียบสนิทในแบบ Flush Glass ให้อรรถประโยชน์ในการใช้งาน แต่ในขณะเดียวกัน สามารถคงลุคให้ดูหรูหรามีระดับ

กาบข้าง ออกแบบใหม่ในลักษณะ Extended ยืดชายด้านล่างให้ครอบบันไดข้าง ทำให้ดูกลมกลืน เรียบหรู ไร้รอยต่อ

กล้องมองหลัง ภาพด้านหลังแสดงที่หน้าจออัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์หลัง เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวาง พร้อมฟังก์ชั่น Bird’s Eye View โดยมุมกล้องจะปรับมุมให้กดลงอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวาง ให้คุณกะระยะได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และจอดรถได้อย่างมั่นใจ

ระบบไฟหน้านำทาง ระบบไฟส่องสว่างเป็นเวลา 20 วินาที หลังจากดับเครื่องและล็อครถ ช่วยให้มองเห็นทางเดินเข้าบ้านเพิ่มความสะดวกและปลอดภัย

ประตูหน้าแบบ Tilting Door ประตูด้านหน้าทั้งฝั่งคนขับและคนนั่ง ออกแบบให้บานพับเอียง ทำให้มุมด้านบนของประตูเปิดกว้าง เพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถ

INTERIOR ภายใน  Hyundai H-1

คอนโซลกลาง ออกแบบดีไซน์ใหม่ เพิ่มเส้นโค้ง ให้ดูทันสมัย ใช้สี Glossy Black และลายไม้ใหม่ Light Brown Sicilian Elm เพิ่มความหรูหราเหนือระดับ

เครื่องเสียง / ระบบบลูทูธ / ช่องต่อ USB AUX หน้าจอขนาด 7 นิ้ว แบบสัมผัส ความละเอียดสูง แสดงข้อมูลบนหน้าจออย่างชัดเจน ออกแบบใหม่ให้รับกับคอนโซลกลาง ให้ดูเป็นชิ้นเดียวกัน ภาคขยายกำลังขับระดับ 50W x 4 ให้พลังเสียงเบสที่หนักแน่น มาพร้อมกับเครื่องเล่น CD แบบ 1 แผ่น รองรับไฟล์ MP3 ระบบบลูทูธ ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ Handsfree ผ่านระบบบลูทูธ รองรับการเล่นเพลงจากเครื่องเสียงแบบพกพาโดยการ Streming ผ่านบลูทูธ

ระบบแผนที่นำทาง GPS จาก Power Map ด้วย GUI ล่าสุด ใช้งานสะดวกมากขึ้น พร้อมกับ POI มากกว่า 850,000 จุด ให้คุณเดินทางถึงที่หมายปลายทางได้อย่างมั่นใจ

ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัย สามารถควบคุมเครื่องเสียงโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย

ไฟส่องรูกุญแจ เพิ่มความสะดวกในเวลากลางคืน ช่วยให้สามารถหารูกุญแจเพื่อสตาร์ทรถได้ง่ายขึ้น

จอ LCD ติดเพดาน เหนือระดับด้วยหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ต่อเชื่อมกับเครื่องเล่น DVD ด้านหน้าเพื่อแสดงภาพให้ผู้โดยสารด้านหลัง

กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยเมื่อขับรถตอนกลางคืน ระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่ามีไฟส่องแยงตาจากด้านหลัง โดยระบบจะเพิ่มความเข้มของกระจกเพื่อลดแสงสะท้อน

ประโยชน์ใช้สอยที่เหนือระดับ เบาะ H-1 สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย ให้สอดคล้องกับทุกการใช้งาน สามารถปรับให้ผู้โดยสารนั่งได้ทั้งหมด 12 ที่นั่ง หรือจะปรับเลื่อนเบาะเพื่อบรรทุกสัมภาระ เบาะแถวที่สองยังสามารถหมุนได้ 180 องศา เพื่อรูปแบบการนั่งเหมือนดังห้องรับแขก

เบาะหนังลายใหม่ หนังคุณภาพสูง ได้ถูกนำมาใช้ใน H-1 ให้สัมผัสที่เนียนนุ่มสบาย พร้อมกับออกแบบดีไซน์ใหม่ให้ดูทันสมัย

ไฟภายในห้องโดยสาร ใช้ไฟแบบ LED ให้ความส่องสว่างอย่างทั่วถึง และประหยัดไฟ พร้อมกับ Mood Lighting เพิ่มบรรยากาศในการเดินทางให้กับผู้โดยสารอย่างมีระดับ

กล่องใส่แว่นตา พร้อมไฟส่องสว่างภายใน ติดตั้งกล่องใส่แว่นตาที่คอนโซลเหนือศีรษะ เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บ พร้อมกับไฟส่องสว่างภายใน

กุญแจรีโมท สะดวกสบายด้วยกุญแจแบบรีโมท ล็อค-ปลดล็อครถด้วยปลายนิ้วสัมผัส

ระบบปรับอากาศเย็นสบายอย่างทั่วถึง ระบบปรับอากาศแยกสำหรับด้านหน้าและด้านหลัง ปรับอิสระ ช่องลมปรับอากาศแยก สำหรับเบาะแถวที่ 2,3 และ 4 สร้างความเย็นสบายอย่างทั่วถึงแม้สภาพอากาศจะร้อน

PERFORMANCE เครื่องยนต์  Hyundai H-1

เครื่องยนต์ ดีเซล A2 2.5 ลิตร CRDi DOHC 16 Valve VGT ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลแบบ Commonrail Direct Injection พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน VGT สร้างกำลังสูงสุด 175 แรงม้า และ แรงบิดระดับมหาศาล 441 นิวตัน-เมตร ช่วยให้ H-1 มีการตอบสนองได้อย่างทันใจและคล่องตัวในทุกช่วงความเร็ว

เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift สะดวกสบายด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด ที่ให้ความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยประหยัดน้ำมัน เนื่องจากเครื่องยนต์สามารถทำงานในรอบที่ต่ำกว่า เมื่อขับขี่ทางไกลมาพร้อมระบบ Sequential Shift ให้คุณเปลี่ยนเกียร์เองได้ดั่งใจ

รัศมีวงเลี้ยว ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.6 เมตร ทำให้ MPV ขนาดใหญ่อย่าง H-1 มีความคล่องตัวที่เหนือความคาดหมาย

SAFETY ความปลอดภัย Hyundai H-1

เบรกและช่วงล่าง มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบป้องกันล้อล็อค ABS ช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Struts ด้านหลังแบบ 5-Link Rigid Axle ที่ให้การยึดเกาะที่เหนือชั้นและความนุ่มนวลในระดับที่สัมผัสได้

ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS ปกป้องคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าจากการชนแบบ Frontal impact เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

โครงสร้างนิรภัยแบบ Four Ring H-1 ใช้เหล็กแบบ Hight Tensile Strength Steel ที่โครงสร้างเสารถในลักษณะ Four Ring และในส่วนที่สำคัญอื่นๆ เพื่อความแข็งแรงสูงสุด ให้คุณมั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง แม้จะเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน

COLORS สี Hyundai H-1

Hyundai H-1 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ 1. สีเงิน  2.สีน้ำตาล  3. สีดำ

 *ของแถม ฮุนได เอชวัน  จัดเต็ม  ติดต่อ  เซลล์ คุณกอล์ฟ บางนา 092-697-1499

 ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^

ฟอร์ดนำเสนอ ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความปลอดภัยเหนือระดับและความยั่งยืน

$
0
0

ฟอร์ดนำเสนอ นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน ผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความปลอดภัยเหนือระดับและความยั่งยืน

  • จากการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์มานานกว่าศตวรรษ ฟอร์ดได้จัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุดในงาน นวัตกรรมเพื่อคนนับล้านตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ที่มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่ในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้
  • เทคโนโลยีที่ช่วยการขับขี่ เช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Cross Traffic Alert) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) และระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) คือพื้นฐานสำหรับการเดินทางอัจฉริยะและมีประสิทธิภาพในอนาคต
  • กุญแจสำคัญสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของฟอร์ด นั่นคือเครื่องยนต์ EcoBoost ที่มุ่งเน้นการลดน้ำหนัก ทำให้เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีสมรรถนะสูงเพื่อมอบประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน และประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย 26 สิงหาคม 2557 จากปณิธานของเฮนรี ฟอร์ด ที่ต้องการผลิตรถเพื่อทุกคน Ford ได้จัดแสดงเทคโนโลยีอันทันสมัยมากมายที่ช่วยให้รถฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และยั่งยืนขึ้นกว่าเดิม พร้อมเผยโฉมรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ลดการเกิดอุบัติเหตุ ประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นของฟอร์ดเพื่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

งาน ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ของฟอร์ดได้จัดแสดงเทคโนโลยีอันทันสมัย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดในด้านความปลอดภัยในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมจัดแสดงเข็มขัดนิรภัยพองลมสำหรับที่นั่งด้านหลังอันแรกของโลก (Rear Inflatable Seatbelt) รวมถึงระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS)  ระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Cross Traffic Alert) และระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) ฟอร์ดยังได้จัดแสดงนวัตกรรมที่จะสร้างจิตสำนึกสำหรับผู้ขับขี่ เช่น ชุดจำลองเมาแล้วขับ (Drink Driving Suit) รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเช่นระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) เครื่องยนต์ EcoBoost  รุ่นต่างๆ ชิ้นส่วนรถยนต์น้ำหนักเบาที่ประกอบขึ้นจากวัสดุหลากหลาย และเทคโนโลยีเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถฟอร์ด ซิงค์ (SYNC) รุ่นล่าสุด

“นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับฟอร์ดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรายังคงมุ่งมั่นในการมอบรถยนต์ที่พร้อมด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และบริการอันสะดวกสบายที่ลูกค้าต้องการและเห็นความสำคัญ” นายจิม ฮอลแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าว “เราไม่เพียงต้องการสร้างประสบการณ์ขับขี่ที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุดเท่านั้น แต่เรายังมุ่งหวังที่จะทำให้ทุกคนมีโอกาสได้สัมผัสกับนวัตกรรมเหล่านี้”

งาน ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ยังเปิดให้ชมลานทดสอบรถออสเตรเลียน พรูฟวิ่ง กราวด์ (Australian Proving Ground) ซึ่งเป็นสถานที่ที่วิศวกรของฟอร์ดใช้ทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ารถฟอร์ดทุกคันมีคุณภาพมาตรฐานที่ดีเยี่ยม นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟอีกมากมายที่ห้องทดลอง ฟอร์ด อิมเมอร์สีฟ เวอร์ชัวร์ เอ็นไวรอนเมนต์ (Ford immersive Virtual Environment – FiVE) ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในเมืองเมลเบิร์น

ห้องทดลอง FiVE ของฟอร์ดถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ทีมทำงานของฟอร์ดทั่วโลกทำงานร่วมกันได้ในเวลาเดียวกัน ห้องทดลองนี้เพียบพร้อมด้วยพื้นที่กว้างขวางเพียงพอให้ทีมงานเดินรอบรถขนาดใหญ่ที่สุดของฟอร์ดได้ พร้อมการจำลองภาพแบบเสมือนจริง ทำให้ทีมวิศวกรและนักออกแบบสามารถเห็นรถได้เหมือนกับในโชว์รูม

ฟอร์ดมีศูนย์ปฏิบัติการแบบเสมือนจริงในประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน อินเดีย บราซิล เม็กซิโก และออสเตรเลีย ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการวางโครงสร้างแบบเสมือนจริงของรถแต่ละรุ่น ห้องทดลองเหล่านี้เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและระบบคอมพิวเตอร์อันทันสมัยที่สามารถจำลองรถทั้งคันและทุกรายละเอียดก่อนการผลิตเป็นรถต้นแบบ  ทั้งนี้ การจำลองแบบเสมือนจริงช่วยรองรับการทดลองทุกส่วนของรถไม่ว่าจะเป็นระบบแอโรไดนามิคส์ ระบบความปลอดภัย และส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างมนุษย์และครื่องจักร ทำให้วิศวกรและนักออกแบบปรุงเปลี่ยนระบบและชิ้นส่วนต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมาก และช่วยให้รถต้นแบบที่ผลิตขึ้นจริงมีความใกล้เคียงกับรถที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีอัจฉริยะและความปลอดภัย

ฟอร์ดยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคสัมผัสได้โดยตรง อย่างเช่นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ในเมืองมีความปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น โดยภายในงาน ’นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ฟอร์ดได้จัดแสดงระบบช่วยจอดอัจฉริยะรุ่นใหม่ (Enhanced Active Park Assist) ที่สามารถช่วยจอดทั้งแบบคู่ขนานและเข้าซอง ระบบจะช่วยค้นหาที่จอดรถและช่วยควบคุมพวงมาลัยโดยไม่ต้องใช้มือ ผู้ขับขี่เพียงแค่เปลี่ยนเกียร์ เหยียบคันเร่งและเบรกเท่านั้น

ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) ของฟอร์ดได้รับการออกแบบเพื่อช่วยผู้ขับขี่ที่อาจจะเผลอไม่ทันระวัง ในขณะขับรถที่ความเร็วต่ำ ระบบจะใช้สัญญาณอินฟาเรดเพื่อตรวจจับระยะห่างและความเร็วของรถคันข้างหน้า และจะทำการช่วยเบรกอัตโนมัติ หากผู้ขับขี่ไม่เบรค ในระยะที่ระบบได้คำนวณไว้ว่าอาจจะเกิดการชนได้  ระบบสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการชนได้ที่ความเร็วไม่เกิน 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถบรรเทาความรุนแรงของอุบัติเหตุเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์ดยังเตรียมเปิดตัวระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำรุ่นใหม่ (Enhanced Active City Stop) ที่มอบความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วยการหยุดรถฉุกเฉินแบบอัตโนมัติสำหรับรถที่วิ่งในความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยการพัฒนาระบบเบรกที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชน ฟอร์ดยังได้สาธิตฟอร์ด ซิงค์ (SYNC) รุ่นล่าสุดเพื่อการเชื่อมต่อภายในรถจากหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ฟอร์ด ซิงค์ รุ่น 2 อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเดตและพัฒนาขึ้นใหม่ ฟอร์ดได้พัฒนาระบบการสั่งงานด้วยเสียงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น อาทิ เมื่อผู้ขับขี่เกิดหิวขึ้นมาระหว่างทาง เพียงสั่งงานกับฟอร์ด ซิงค์ รุ่น 2 ว่า “ฉันหิว” ระบบจะช่วยค้นหาและแสดงผลร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงให้ทันที

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ภายในงานนิทรรศการ ‘นวัตกรรมสำหรับทุกคน’ ได้แก่ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS®) พร้อมด้วยระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Cross Traffic Alert) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด(BLIS®) จะช่วยตรวจจับรถที่อยู่ในจุดบอด เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนและในขณะจอด โดยใช้เรดาร์ตรวจจับรถที่วิ่งเข้ามาในบริเวณจุดบอดและส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ด้วยการแสดงไฟและเสียง สัญญาณเตือนรถฝั่งตรงข้าม Cross Traffic Alert คือระบบที่ทำงานควบคู่กับระบบตรวจจับรถในจุดบอด เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรถคันอื่นๆ ในระยะห่างออกไป 20 เมตรในทุกทิศทาง หรือเทียบเท่ากับการสแกนที่จอดรถถัดออกไปถึง 7 คัน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ หากมีรถเข้ามาใกล้ในขณะที่กำลังถอยออกจากช่องจอดรถ นวัตกรรมด้านความปลอดภัยอันชาญฉลาดเหล่านี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ช่วยลดสิ่งกวนใจบนท้องถนน และลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุด้วย

นอกจากนั้น ฟอร์ดยังได้จัดแสดงชุดจำลองเมาแล้วขับ (Drink Driving Suit) นวัตกรรมพิเศษเพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าใจถึงประสิทธิภาพในการขับรถที่ลดลงเมื่อผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชุดจำลองเมาแล้วขับ ประกอบด้วย  แว่นที่จำกัดพื้นที่มองเห็น ที่อุดหู อุปกรณ์เพิ่มน้ำหนักข้อมือและข้อเท้า และผ้าบุข้อศอก คอ และเข่า ชุดนี้จะทำให้กิจกรรมง่ายๆ อย่างการเดินเป็นเส้นตรงกลายเป็นเรื่องยาก ฟอร์ดยังใช้นวัตกรรมพิเศษนี้เพื่อประกอบการให้ความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยและการมีสติบนท้องถนน ชุดจำลองเมาแล้วขับ คือตัวอย่างที่แฝงความรู้และให้ความเข้าใจในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อวิสัยทัศน์การมองเห็น การรับฟัง การควบคุม และการทรงตัวลดลง

เมื่อความคงทน พบประสิทธิภาพ

ทุกวันนี้ ผู้ขับขี่ต้องการรถที่สามารถช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลภาวะโดยที่ยังสามารถคงสมรรถนะในการขับขี่ได้อยู่ นวัตกรรมเครื่องยนต์ EcoBoost ของฟอร์ด คือหัวใจสำคัญในการมอบเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีราคาสมเหตุสมผล สำหรับรถยนต์ รถกระบะ และรถอเนกประสงค์  เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เครื่องยนต์ EcoBoost สามารถประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยยังคงสมรรถนะการขับขี่ไว้อย่างเต็มที่

“ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายของเครื่องยนต์ EcoBoost ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างสูงถึง120 เปอร์เซ็นต์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” นายฟิล ฟาเบียง วิศวกรด้านงานวิศวกรรมเครื่องยนต์ระดับโลก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว “เครื่องยนต์ EcoBoost จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าน้ำมัน และมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซมลภาวะ ความสำเร็จในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของฟอร์ดในการนำเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนในราคาที่เหมาะสมมาสู่ภูมิภาคนี้”

ปัจจุบัน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีรถฟอร์ด 10 รุ่น ที่ใช้เครื่องยนต์ EcoBoost และฟอร์ดตั้งใจจะเพิ่มเป็น 20 รุ่นภายในกลางทศวรรษนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 3 สูบ 1 ลิตร ของฟอร์ด ได้รับรางวัลเครื่องยนต์นานาชาติแห่งปี (International Engine of the Year) ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3

เครื่องยนต์ EcoBoost เป็นเพียงหนึ่งในหลายด้านของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของฟอร์ด นอกจากนี้ ฟอร์ดยังเลือกใช้วัสดุที่มีเนื้อเบาและผสมหลายวัสดุเข้าด้วยกัน บริษัทฯ ได้เลือกใช้เหล็กที่มีความแข็งแกร่ง อลูมิเนียม แมกนีเซียม เส้นใยธรรมชาติ และวัสดุที่ทำจากนาโนเทคโนโลยี การเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาลงและการออกแบบที่ดีขึ้น ช่วยให้ฟอร์ดผลิตรถที่สมรรถนะสูงและและประหยัดน้ำมัน ยกตัวอย่างเช่น ประตูรถของฟอร์ด เฟียสต้าและฟอร์ด โฟกัส ใช้เนื้อเยื่อไม้รีไซเคิล 84-92 เปอร์เซ็นต์ ที่สามารถช่วยลดน้ำหนักประตูได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์

ฟอร์ดเพิ่งเปิดตัวรถต้นแบบภายใต้แนวคิดรถ คอนเซ็ปต์น้ำหนักเบา ที่สามารถลดน้ำหนักโดยรวมของฟอร์ด  มอนดิโอ/ฟิวชั่น ได้เกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อศึกษาแนวทางการลดน้ำหนักรถที่จะผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อวางจำหน่ายจริง ฟอร์ดได้ใช้วัสดุที่มีความทันสมัยในทุกส่วนประกอบ อาทิ ขุมกำลังช่วงล่าง ตัวถัง แบตเตอรี่ ตลอดจนภายในของรถ นับเป็นการสร้างมาตรฐานในการใช้วัสดุที่มีความทันสมัยไว้ในรถคันเดียว

“นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับฟอร์ดและลูกค้า ที่จะได้สัมผัสนวัตกรรมหลากหลาย ตั้งแต่วิศวกรรมและการผลิตแบบเสมือนจริง รวมถึงฟีเจอร์ในการช่วยผู้ขับขี่ในด้านต่างๆ และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนอย่างเครื่องยนต์ EcoBoost  เราจะไม่หยุดนิ่ง และพร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลูกค้าทุกคน” นายจิม ฮอลแลนด์ กล่าว “งาน ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของพวกเราอีกด้วย”

มิตซูบิชิ ปรับโฉม มิราจใหม่ รุ่น GLS Ltd. – Make Life More Fun –สนุกได้มากกว่ากับมิตซูบิชิ มิราจใหม่

$
0
0

 มิตซูบิชิ ปรับโฉม มิราจใหม่ รุ่น GLS Ltd. – Make Life More Fun – สนุกได้มากกว่ากับมิตซูบิชิ มิราจใหม่

Mitsubishi ปรับโฉม Mitsubishi Mirage รุ่น GLS Ltd. เพิ่มดีไซน์ที่โดดเด่นกว่า เติมเต็มฟังก์ชั่นครบครันกว่า พร้อมข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ยต่ำสุด 0% เริ่มขายตั้งแต่ 11 สิงหาคมนี้ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ

มร. มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมปรับโฉม มิตซูบิชิ มิราจ รุ่น GLS Ltd. รถอีโคคาร์ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุด 22 กม./ลิตร* ด้วยการเพิ่มเติมดีไซน์ที่โดดเด่น พร้อมฟังก์ชั่นที่ครบครัน ซึ่งมาพร้อมแนวคิด Make Life More Fun – สนุกได้มากกว่า

มิตซูบิชิ มิราจ รุ่น GLS Ltd โฉมใหม่ได้รับการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้โดดเด่นมากขึ้นด้วยล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้ว กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED และเสาอากาศแบบสั้น พร้อมการตกแต่งภายในแบบ Piano black และพวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนังตกแต่งแบบ silver decoration พร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย แผงระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติตกแต่งโครเมียม และสะดวกสบายยิ่งขึ้นจากการปรับช่องใส่ของอเนกประสงค์ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มช่องเก็บของบริเวณใต้คอพวงมาลัยและราวจับเหนือศรีษะ 3 ตำแหน่ง ทั้งนี้มิตซูบิชิ มิราจ รุ่น GLS Ltd. ยังมาพร้อมระบบเครื่องเสียงพร้อมระบบนำทางใหม่ และจอภาพแบบ Touch screen รวมไปถึงไฟส่องสว่างห้องสัมภาระ และฐานเกียร์พร้อมไฟแสดงตำแหน่ง เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS (Emergency Stop Signal System) เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติคู่ด้านคนขับและเหล็กกันโคลงด้านหน้า โดยพร้อมจำหน่ายที่โชว์รูมมิตซูบิชิ ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป

มิตซูบิชิ มิราจใหม่รุ่น GLS Ltd.
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ปรับโฉม มิตซูบิชิ มิราจ รุ่น GLS Ltd. เพิ่มดีไซน์ที่โดดเด่นกว่า เติมเต็มฟังก์ชั่นครบครันกว่า พร้อมประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร* ให้คุณใช้ชีวิตได้สนุกครบครันมากยิ่งขึ้น

การออกแบบภายนอก  โดดเด่นกว่า
•    มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ มาพร้อมการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นกว่าตั้งแต่หน้าจรดท้าย ปราดเปรียวตอบรับทุกไลฟ์สไตล์
•    ล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว ดีไซน์ที่สวยงาม
•    กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED
•    เสาอากาศดีไซน์ทันสมัยแบบสั้น
•    ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยสีสันที่มากกว่าถึง 8 สี
(1) สีเหลือง     – Lemonade Yellow Metallic
(2) สีม่วง     – Blossom Purple
(3) สีฟ้า     – Cerulean Blue Mica
(4) สีแดง    – Red Metallic
(5) สีขาวมุก    – White Pearl
(6) สีบรอนซ์เงิน  – Cool Silver Metallic
(7) สีเทาดำ     – Eisen Gray Mica
(8) สีดำ     – Black Mica
* สีขาว ไวท์เพิร์ล ราคาเพิ่ม 5,000 บาท

ระบบความบันเทิงครบครันกว่า
•    พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันและใช้งานได้ง่ายมากขึ้นกับอุปกรณ์ มาตรฐานใหม่จากAttrageเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับการขับขี่ในทุกวันด้วย เนวิเกเตอร์รุ่นล่าสุด วิทยุ-เครื่องเล่นดีวีดี เอ็มพี 3 พร้อมจอภาพแบบสัมผัสขนาด  6.5 นิ้ว และ USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
•    ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย
•    พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อมการตกแต่งสีเงิน สไตล์ “ซิลเวอร์เดคอเรชั่น”และระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมากกว่า
•    ฐานเกียร์พร้อมไฟแสดงตำแหน่งเพื่อความสะดวกในการขับขี่ตอนกลางคืน
•    ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระเพิ่มความสะดวกสบายในเวลากลางคืนพร้อมแผ่นบังตาด้านหลัง
•    แผงระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ตกแต่งโครเมียม
•    ราวมือจับเหนือศรีษะ 3 ตำแหน่ง
•    ช่องเก็บของบริเวณใต้คอพวงมาลัย

ระบบความปลอดภัยครบครัน มั่นใจได้มากกว่า
•    รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.4 เมตร ช่วยการบังคับเลี้ยวในพื้นที่จำกัดเป็นไปได้ง่ายขึ้น
•    เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS
•    ระบบถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าเพื่อลดแรงกระแทกจากการชนด้านหน้า
•    เข็มขัดนิรภัยดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติแบบดึงกลับคู่ เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า และเป็นการลดการบาดเจ็บบริเวณหน้าอก
•    เหล็กกันโคลงหน้าช่วยควบคุมการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้น

ราคา
•    มิตซูบิชิ มิราจรุ่น GLS Ltd.     ราคา 552,000 บาท


4 สูบรุ่นเดียวของค่ายอิตาลี Ducati Desmosedici GP 14

$
0
0

4 สูบรุ่นเดียวของค่ายอิตาลี Ducati Desmosedici GP 14

Ducati Desmosedici GP 14 (ดูคาติ Desmosedici GP 14)

เครื่องยนต์  V4 4 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ desmodromic DOHC
ขนาดความจุ  1,000 ซีซี.
ระบบวาล์ว  EVO 2 TCF
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง  หัวฉีด Magneti Marelli
ระบบเกียร์  6 สปีด Ducati Seamless Transmission
ท่อไอเสีย  Akrapovic
ระบบเบรค  Brembo จานเบรคคาร์บอน
ระบบกันสะเทือน  OHLINS
น้ำหนัก  160 กิโลกรัม
น้ำมันเชื้อเพลิง  แบบพิเศษ Shell Racing V-Power

Ducati Desmosedici คือ สุดยอดรถแข่งตลอดกาลของ Ducati เป็นอีกหนึ่งคันที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เเละได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เเละล่าสุดเจ้าคันนี้ถูกควบโดยนักเเข่งสัญชาติอังกฤษ คาล ครัทช์โลว์ ในการเเข่งขัน Moto GP 2013 เค้าได้ควบเจ้า Ducati Desmosedici GP 13 เข้าเป็นที่ 4 ของรายการในปี 2013 เเละในปีต่อมาเค้าก็ได้รับมอบหมายในการควบเจ้า Desmosedici GP 14 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นในปีล่าสุดนี้อีกเช่นเคยครับ เเละเมื่อดูจากผลงานที่ผ่านๆมาทางค่ายไม่ค่อยพอใจในการขับขี่ของ คาล ครัทช์โลว์ เสียเท่าไหร่นัก เนื่องจากผลการเเข่งขันออกมาได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ เเละด้วยอาการบาดเจ็บบริเวณข้อมือของ คาล ครัทช์โลว์ ทางค่ายจึงได้ประกาศถอดเค้าออกเมื่อจบฤดูกาลการเเข่งขัน อย่างที่เราทราบๆกันดีว่ารถของดูคาตินั้นถูกออกมาให้ขับขี่ได้ยากเเละถูกบังคับให้นักขี่ต้องปรับตัวเข้าหารถ ไม่ใช้รถปรับเเต่งให้เข้ากับนักขี่ หลายๆท่านที่มาขับเจ้า Ducati Desmosedici ก็ต้องทำใจเบื้องต้นเอาไว้เลย เพราะ Ducati นั้นยืนยันว่ารถของตนนั้นดีอยู่เเล้ว

สำหรับความเเรงของเจ้าคันนี้ ถือว่าเป็นที่สุดเช่นเดียวกัน กับเครื่องยนต์แบบ V4 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ desmodromic DOHC เครื่องยนต์ที่เป็นระบบ 4 สูบ ซึ่งไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของ Ducati ว่าทำเครื่องยนต์ตัวนี้ออกมาขายในรถตามท้องตลาด มีเพียงเเต่การถ่ายทอดเทคโนโลยีไปเท่านั้นเอง ขนาดความจุ 1,000 ซีซี. แบบ 90 degree ระบบส่งกำลังเป็นแบบ Ducati Seamless Transmission เทคโนโลยีเฉพาะของค่าย ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีด Magneti Marelli สั่งการด้วยกล่อง ECU ระบบวาล์แบบ EVO 2 TCF ผีเสื้อ เเละน้ำมันที่ใช้เติมนั้นต้องเป็นของ Shell Racing V-Power อีกด้วยครับ ระบบเกียร์ 6 สปีด ท่อไอเสียจากเดิมเป็นของ Termignoni เเต่ในปัจจุบันหันมาใช้ Akrapovic แล้ว เพียงเท่านี้ก็สามารถเรียกเเรงม้าออกมาได้กว่า 235 ตัวเเละทางค่ายยังบอกวิ่งทะลุ 330 กม./ชั่วโมงอีกด้วยครับ

ระบบเบรคแบบพิเศษเป็นของ Brembo จานเบรคเป็ยแบบคาร์บอน ซึ่งให้ระยะเบรคที่สั้นเเละมีประสิทธิภาพมากกว่าจานธรรมดานั้นเอง โช๊คอัพเทพๆเป็น OHLINS ซึ่งสามารถปรับเเต่งได้อีกด้วย วัสดุที่ใช้ในรถคันนี้นั้นเป็นแบบ อลูมิเนียมเเละอย่างดี ที่ให้ทั้งความเบาเเละเเข็งเเรงจึงทำให้เจ้าคันนี้นั้นมีน้ำหนักตัวเพียงเเค่ 160 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งมันเบามากเมื่อเทียบกับ Super Bike ไซส์เดียวกัน(ขนาด Z800 ยัง 210 เลยอ่ะเเค่ 800 ซีซี.น่ะ ต่างกันตั้ง 50 โลเเนะ)

สำหรับค่าตัวของเจ้าคันนี้ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาครับเพราะทางค่ายนั้นไม่ได้วางจำหน่าย ถึงวางจำหน่ายก็ไม่มีอะไหล่ให้ซ่อมครับเพราะเนื่องจากเค้ากลัวข้อมูลเเละเทคนิคต่างๆรั่วไหลนั้นเอง มีเเต่รุ่นที่ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีลงมานั้นก็คือ Panigale 1199 R หากใครอยากขับเจ้า Ducati Desmos ก็ไปลอง Panigale ก่อนเเล้วกันครับเเรงไม่เเพ้กันพร้อมทั้งมีวางจำหน่ายในราคา 2 ล้านต้นๆเท่านั้น ใครกระเป๋าหนักก็จัดได้เลย ส่วนแอดมินขอบายคร๊าฟ..!

Video

กรุงศรี ออโต้ ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก สนับสนุนโครงการหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for TAX)” ที่ บิ๊กซี บางนา

$
0
0

กรุงศรี ออโต้ ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก สนับสนุนโครงการหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถ
“ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for TAX)” ที่ บิ๊กซี บางนา


กรุงเทพฯ, 27 สิงหาคม 2557 –  บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) ผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “กรุงศรี ออโต้” ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ดำเนินโครงการ “ขยายจุดบริการการออกหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี: ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for TAX)“ ที่บิ๊กซี บางนา เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าและประชาชน ให้มีความสะดวกในการชำระภาษีรถประจำปีในวันเสาร์และอาทิตย์

นายภิญโญ จันทสุวรรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริหารช่องทางจัดจำหน่ายบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ที่ดำเนินงานตามแนวปฏิบัติการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending: RL) บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไป ที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีให้สามารถชำระภาษีได้ที่ห้างสรรพสินค้าในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับ กรมการขนส่งทางบก และ บิ๊กซี ดำเนินโครงการ “ขยายจุดบริการการออกหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี – ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for TAX)” ที่ห้างบิ๊กซี บางนา ซึ่งประชาชนที่มาใช้บริการที่ห้าง หรือลูกค้าของกรุงศรี ออโต้ที่มาใช้บริการที่สาขา ก็สามารถแวะมาต่อภาษีรถประจำปีที่หน่วยเคลื่อนที่ฯ ได้ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2   บิ๊กซี บางนา อยู่ติดกับสาขากรุงศรี ออโต้ โดยหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี พร้อมเปิดให้บริการแก่ประชาชนทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาเวลา 9.00-17.00 น. ในเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป”

นายบรรณหาร อินทร์ภิรมย์ รองอธิบดี ฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า “กรมการขนส่งทางบก ได้ริเริ่มโครงการ “ขยายจุดบริการการออกหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี – ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for TAX)“ มาตั้งแต่ปี 2549 เพื่อยกระดับการบริการประชาชนด้วยการรับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชุมชนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยรับต่อภาษีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ ไม่ว่ารถนั้นจะจดทะเบียนไว้ที่จังหวัดใด โดยปัจจุบันได้ให้บริการหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา, ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์, ห้างบิ๊กซี ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 13 สาขา และล่าสุดได้เพิ่มช่องทางการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ “ห้างบิ๊กซี บางนา” ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรุงศรี ออโต้ ในการสนับสนุนพื้นที่ปฏิบัติงานและอุปกรณ์ในการดำเนินงานรับชำระภาษีรถประจำปี กรมการขนส่งทางบกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ภาคเอกชนให้ความร่วมมือในการสนับสนุนโครงการนี้ รวมถึงโครงการบริการประชาชนต่างๆ ที่ผ่านมา และยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับประชาชนตลอดไป”

 

ซื้อยางโตโย ไทร์ วันนี้ รับบัตรเติมน้ำมันฟรีมูลค่า 500 บาท

$
0
0

ซื้อยางโตโย ไทร์ วันนี้ รับบัตรเติมน้ำมันฟรีมูลค่า 500 บาท


กรุงเทพฯ : บริษัท โตโย ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด (ทีทีที) หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยียางรถยนต์ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากญี่ปุ่น จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มสำหรับคนรักรถทุกท่านที่ซื้อยางรถยนต์โตโย ไทร์ 4 เส้น เฉพาะรุ่น นาโนเอ็นเนอร์จี 3, Open Country U/T หรือ Proxes C1S กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยางโตโย ไทร์ ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รับฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 500 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 ตุลาคม 2557

ยางรถยนต์ โตโย ไทร์ รุ่น โตโย นาโนเอ็นเนอร์จี 3 สำหรับรถยนต์นั่งขนาดกลางถึงขนาดเล็ก ที่ต้องการความนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน วิ่งได้ระยะทางมากขึ้น และสะดวกสบายในยามขับขี่ รุ่น Open Country UT สำหรับรถเอสยูวี และรุ่น Proxes C1S ยอดเยี่ยมในด้านความนุ่มนวลเหมาะสำหรับรถซีดานขนาดใหญ่

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายการส่งเสริมการขายดังกล่าว สามารถเยี่ยมชมที่เวบไซต์ www.toyotires.co.th  และ www.facebook.com/toyotirethai

รายละเอียดและเงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย

  • ลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ วันที่ 15 สิงหาคม – 15 ตุลาคม 2557 นี้เท่านั้น หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
  • ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ
  • เงื่อนไขการใช้บัตรเติมน้ำมัน ปตท. ตามรายละเอียดที่ระบุบนบัตร
  • ไม่สามารถนำบัตรดังกล่าวแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
  • ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกโปรโมชั่น โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

Aston Martin พบปัญหา DB9 และ Vantage ในการทดสอบความปลอดภัย

$
0
0

Aston Martin พบปัญหา DB9 และ Vantage ในการทดสอบความปลอดภัย

Aston Martin ค่ายรถสปอร์ตจากประเทศอังกฤษชื่อดังนั้นเตรียมส่งรถสปอร์ตแบบใหม่ลุยตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วในรุ่นแบบ DB9 และ Vantage ที่ขายดีที่สุดในขณะนี้

โดยรถรุ่นใหม่ของทาง Aston Martin นั้นได้นำเสนอความปลอดภัยและมาตรฐานที่เข้ากันได้กับรถแบบใหม่ของพวกเขาผ่านทาง National Highway Traffic Safety (NHTSA) แต่ล่าสุดก็พบปัญหาเสียแล้ว

รถแบบ V8/V12 Coupe และ DB9 Coupe นั้นมีปัญหาเล็กน้อยทางด้านความปลอดภัย และพบว่ามีรถมากถึง 40% ในสโตร์ของผู้ขายที่มีปัญหาเหล่านี้หลงเหลืออยู่

ตามรายงานของ Bloomberg กล่าวว่าพวกเขาอาจจะต้องทำการทดสอบการชนใหม่ในด้านข้างและทางแคบภายในช่วงปีนี้ เพื่อความปลอดภัยหากรถเกิดชนต้นไม้หรือข้างทางในสถานการณ์จริง โดยมันจะใช้ในต้นแบบรถอย่าง DB9 ในปี 2016 และ Vantage ในปี 2017

Hyundai ยุติการทำรถแบบ Elantra Coupe โฉม 2015 ในอเมริกาแล้ว

$
0
0

Hyundai ยุติการทำรถแบบ Elantra Coupe โฉม 2015 ในอเมริกาแล้ว

รถตัวแทนจากประเทศเกาหลีอย่าง “Hyundai Elantra Coupe” นั้นล่าสุดได้ถูกถอนตัวออกจากตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วในรุ่นโฉมปี 2015  โดยจะเหลือขายแค่ช่วงปี 2013-2014 เท่านั้นเอง

โดยโฆษกของทาง Hyundai Motor America อย่างท่าน Jim Trainor ได้เผยกับสื่อชื่อดังอย่าง Edmunds ว่าพวกเขาจะไม่ทำรถในโฉมปัจจุบันต่อไปแล้ว

ซึ่งสาเหตุสำคัญๆนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่อยากจะเสี่ยงกับคู่แข่งชื่อดังอย่าง Honda Civic Coupe และ Kia Forte

และรถแบบ Elantra sedan นั้นจะเหลือเพียงแค่ในโฉมปี  2013-2014 model  โดยลูกค้าสามารถซื้อรถแบบ 2014 Elantra Coupe ได้ในราคา 20,410 ดอลล่าร์พร้อมค่าธรรมเนียมอีก 810 ดอล่าาร์

2014 Hyundai Elantra Coupe นั้นใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบ  direct-injection ให้กำลัง 173 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 154 lb-ft (209 Nm)

Viewing all 8760 articles
Browse latest View live