เนี้ยบมาก! ชมรถสปอร์ต Lamborghini Aventador ตกแต่งสีแบบ Hologram

รถสปอร์ตแบบ Supercar ของแบรนด์อย่าง Lamborghini ในรุ่นแบบ “Aventador” นั้นถือเป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่ได้รับความนิยมในการแต่งเพิ่มเติมมากที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกเลยทีเดียว และมักจะมีเจ้าประจำในแบรนด์ใหญ่ๆ เข้ามาแต่งรถรุ่นนี้ออกมาให้ได้ชมกันต่อเนื่องกัน เช่นแบรนด์อย่าง Novitec Design แบรนด์แต่งรถชื่อดัง

และล่าสุดนั้นเป็นทางแบรนด์อย่าง Dreams Factory Automotive แบรนด์แต่งรถน้องใหม่จากประเทศอย่างมาเลเซียบ้างที่ขอเสนอการ Wrap รถแบบชั้นสูงของพวกเขาในสไตล์สีแบบพิเศษสวยงาม ที่ต้องบอกเลยว่าฝีมือนั้นไม่เหมือนน้องใหม่ในวงการเลยทีเดียวทำรถออกมาได้สวยงามเป็นอย่างมากในภาพรวมของตัวรถ

โดยสติ๊กเกอร์ที่พวกเขาใช้นั้นเป็นสติ๊กเกอร์แบบ 3M สวยงามในโทนสีแบบ Hologram (สีรุ้ง) ที่ออกแบบดีไซน์สำหรับเจ้ารถสปอร์ตแบบ Lamborghini ในรุ่นแบบ “Aventador” คันนี้เป็นพิเศษ และมาพร้อมกับชุดแต่งกระจังหน้าแบบสปอร์ตทรง V-Shape และล้อแม็กซ์ขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 21 นิ้วรอบวงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ในส่วนของชุดแต่งเครื่องยนต์จะเป็นของ Novitec ที่มาพร้อมกับท่อไอเสียแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบ, ระบบกล่อง ECU คันเร่งเพิ่มอัตราความเร่งและการเร่งให้มากกว่าเดิม, เพิ่มกำลังมากถึงจากรถสปอร์ตแบบ “LP700-4 Aventador” รุ่นเดิม ทำกำลังจากเดิมประมาณ 700 PS (690 แรงม้า) ไปเป็น 728 PS (718 แรงม้า)

นอกจากนี้พวกเขายังเตรียมใช้เครื่องยนต์แบบซุปเปอร์ชาร์จ (supercharged) จากทาง Novitec Torado Roadster อีกด้วยที่ใกล้เคียงสเป็คกับรถแบบ Aventador SV, ให้กำลังทั้งสิ้นมากขึ้นไปจนถึงประมาณ 1,000 แรงม้า !!!!!

รอชมเลย! ทีมงาน Mercedes-AMG ยันรถรุ่นใหม่แบบ “all-new F1 W09 EQ Power+” พร้อมแข่งขันในปีนี้

ล่าสุดนั้นทีมรถแบบ Formula One อย่างแบรนด์รถ Mercedes-AMG นั้นได้เปิดตัวรถสูตรหนึ่งแบบใหม่ของพวกเขาออกมาแล้วในรุ่นอย่าง “all-new F1 W09 EQ Power+” ตัวใหม่ล่าสุดที่พวกเขาถือว่ามันเป็นรถแบบ Formula One ที่แรงที่สุดในโลกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

โดยรถแบบ Formula One คันล่าสุดนั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ “EQ-Power” แบบใหม่ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพแบบจัดเต็มอีกทั้งยังสามารถทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Version) ได้อีกด้วย พร้อมกับยางคุณภาพสูงของทาง Silverstone ซึ่งทางทีมผู้ผลิตของพวกเขาอย่าง Valtteri Bottas นั้นมาพร้อมกับการดูแลอย่างใกล้ชิดในหลายๆด้านให้มากกว่าเดิม

“รถแบบ Formula One อย่างเจ้า W08 รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นถือเป็นรถที่่เร็วที่สุดของพวกเราชาว Mercedes-AMG ซึ่งมันจะมาช่วยทำให้ทีมแข่งรถ Formula One ของเราเองนั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพวกเรามุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมากในการวิจัยครั้งนี้ ซึ่งแม้รู้ว่ามันจะยากมากๆเลยทีเดียวสำหรับการผลิตแต่เราก็ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจและพยายามมันอย่างเต็มที่” เขาทิ้งท้ายถึงการพัฒนา

สำหรับรถอย่าง Formula One รุ่นใหม่ของทีมงาน Mercedes-AMG ในรุ่นแบบ “all-new F1 W09 EQ Power+” นั้นจะมาพร้อมกับการเปิดตัวครั้งในสนามที่เมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย โดยมันจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการสนามแรกของการแข่งขัน 2018 Formula 1 season, ในวันที่ 25 มีนาคมนี้

สวยด้วยแรงด้วย!!! Carlex Design จัดให้พร้อมเปิดตัวชุดแต่ง “Ferrari 488 Spider” โทนเหลือง-ดำสปอร์ตเต็มพิกัด

แน่นอนว่าเมื่อเป็นรถสปอร์ตแบบ Supercar นั้นมันจะต้องตกแต่งให้สวยงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และล่าสุดนั้นรถสปอร์ตแบบ Ferrari 488 Spider รุ่นโฉมสีเหลืองสดใสนั้นก็ได้ถูกเปิดตัวออกมาแล้วพร้อมกับการตกแต่งภายในแบบสวยงามในโทนแบบเหลืองเช่นเดียวกันโดยทีมงานของแบรนด์ตกแต่งภายในแบบ Carlex Design ชื่อดัง

สำหรับแบรนด์อย่าง Carlex Design นั้นเป็นแบรนด์การตกแต่งภายในชื่อดังที่เปิดตัวชุดแต่งรถต่างๆมากมายมาแล้ว ซึ่งในงานนี้นั้นพวกเขาได้ตกแต่งรถแบบ Ferrari 488 Spider รุ่นใหม่ล่าสุดออกมาด้วยเบาะหนังแบบ Alcantara สีเหลืองสดใสภายในตัดสลับดำเข้ม, ใช้วัสดุราคาแพงที่มีคุณภาพสูงมากกว่าปกติและตกแต่งด้วยความสวยงามด้วยดีไซน์ที่เข้ากันกับตัวรถภายนอก

ในส่วนภายในนั้นเราจะสังเกตุเห็นทีมงานของแบรนด์ Carlex Design นั้นพยายามให้ส่วนต่างๆของรถสปอร์ต Supercar แบบ Ferrari 488 Spider นั้นใช้วัสดุหลายๆ อย่าง เช่น เบาะนั่งแบบสปอร์ต, แดชบอร์ดบริเวณกลางตัวรถที่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม, ประตูมือจับต่างๆที่เป็นสีเหลือง-ดำทั้งหมดและส่วนอื่นๆภายในที่แทรกเข้าไปได้พวกเขาก็พยายามคุมโทนสีให้อยู่ในแนวเดียวกันทั้งหมด

สเป็คเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตแบบ Ferrari 488 Spider คันนี้นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3.9 ลิตรแบบเทอร์โบคู่ (twin-turbo V8) ให้กำลังทั้งสิ้น 670 PS (ประมาณ 661 แรงม้า) พร้อมแรงบิดสูงสุดทั้งสิ้น 760 Nm. (561 ปอนด์/ฟุต) พร้อมทั้งใช้ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติขนาด 7 สปีด ทำความเร่งจาก 0-100 กม./ชม. (62 ไมล์) ภายในเวลาทั้งสิ้น 3.0 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 325 กม./ชม. (203 ไมล์) เลยทีเดียว!!!

Polestar 1 รถไฮบริดวิ่งไกลสุดในโลก!! โชว์ตัวแล้วที่งาน Geneva Auto Show

ในงานใหญ่อย่าง Geneva Auto Show เมื่อวันที่ 8 มีนาคมถึง 18 มีนาคมที่ผ่านมานั้นเพื่อนๆ หลายคนอาจจะได้เห็นแบรนด์ใหญ่อย่างทาง Polestar นั้นตัดสินใจเปิดตัวรถออกมาหลายรุ่นด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือรถแบบ “Polestar 1” ที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์รถของพวกเขาที่เปิดตัวด้วยการเป็นรถแบบพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของพวกเขาทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

“พวกเรามุ่งมั่นมากที่จะทำให้รถของทางแบรนด์อย่าง Polestar ในรุ่นแบบ Polestar 1 นั้นได้รับความนิยม ทำให้เราตัดสินใจเปิดตัวมันอย่างเป็นทางการในงานอย่าง Geneva Motor Show คันเดียวของทางแบรนด์ และนั่นก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีมากๆจากเหล่าบรรดาแฟนๆ และจากสื่อที่เข้ามาชมงานดังกล่าว” Thomas Ingenlath หัวหน้า CEO ของทาง Polestar กล่าว

หลังจากก่อนหน้านี้ตามข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับในงานอย่าง Shanghai Auto Show นั้นรถแบบ Polestar 1 จะได้รับต้นแบบมาจากรถอย่าง Volvo’s SPA platform ภายใต้ที่นั่งแบบ 2+2 GT พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบไฮบริด (Hybrid Powertrain) เต็มรูปแบบ ให้กำลังทั้งสิ้นประมาณ 600PS (592 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุดทั้งสิ้น 1,000 Nm. (ประมาณ 738 ปอนด์/ฟุต) โดยประมาณ

รถแบบ Polestar 1 ในโฉมแบบ “hybrid GT” นั้นจะวิ่งได้ประมาณ 150 กิโลเมตร (93 ไมล์) เลยทีเดียวซึ่งถือว่านานที่สุดในโลก โดยมันจะเปิดตัวเพียงแค่ 500 คันเท่านั้นในตลาดทั่วโลก (ถือเป็นรถแบบ Limited Edition รุ่นหนึ่ง) จะขายในกลางปี 2019 ที่ราคาเริ่มต้น 130,000 ยูโรไปจนถึง 150,000 ยูโรด้วยกัน (ประมาณ 160,129 – 184,765 ดอลล่าร์สหรัฐ) โดยประมาณ

สำหรับตลาดใหญ่ของ Polestar brand นั้นจะเปิดตัวในตลาด เช่น สหรัฐอเมริกา, ยุโรปทั้งทวีปและปิดท้ายด้วยประเทศจีนก่อน

ยอมรับผิด!! สาวขับกระบะ ไม่ชินทาง คุยมือถือ พุ่งชนรถไฟ

มื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนรถไฟด่วนพิเศษ กรุงเทพ-หาดใหญ่ ขบวนที่ 31 ที่บ้านทุ่งเฟื้อ หมู่ 5 ต.ธงชัย อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยสภาพในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อ ISUZU ทะเบียน กต-7861 สุพรรณบุรี พลิกคว่ำอยู่ บริเวณใกล้ๆ รถกระบะพบหญิงสาวยืนอยู่ ทราบชื่อภายหลังว่าคือ นางสาว รมิตา เจะโส๊ะเจะหลี อายุ 45 ปี  ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าว

โดยนางสาว รมิตา เจะโส๊ะเจะหลี ได้เล่าว่าตนกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังถนนเพชรเกษม ซึ่งในระหว่างทางได้คุยโทรศัพท์ไปด้วย และด้วยความที่ไม่ชินเส้นทาง พอถึงที่เกิดเหตุจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าเป็นทางตัดผ่านรถไฟ ทำรถของเธอพุ่งชนเข้ากับรถไฟที่วิ่งผ่านด้วยความเร็วจนรถของเธอหมุนและพลิกคว่ำ แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

ซึ่งในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทางรถไฟได้ประสานไปยังสถานีให้ส่งหัวรถลากขบวนใหม่ เพราะบริเวณด้านข้างของหัวลากรถไฟได้รับความเสียหายไม่สามารถไปต่อได้

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก www.khaosod.co.th

Ford Bronco DR รถออฟโรดสายฮาร์ดคอร์ ขุมพลังมากกว่า 400 แรงม้า ราคา 6,680,000.-

Ford Bronco DR (Desert Racer) รถออฟโรดสุดฮาร์ดคอร์ ที่ถูกสร้างขึ้นไว้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แนวผจญภัย รวมถึงสำหรับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตออฟโรด SCORE Baja 1000 ปี 2022

โดยรถรุ่นดังกล่าวถูกสร้างบนพื้นฐานของ Ford Bronco แบบ 4 ประตู แม้ว่าจะถูกยกประตูออกก็ตาม ปิดทับด้วยแผงไฟเบอร์กลาส กันชนหน้าท่อเหล็ก กระจังหน้าแบบชิ้นเดียว ไฟหน้าทรงกลม กระจกหน้าต่าง รวมถึงระบบปรับอากาศถูกถอดออก บนหลังคามีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ และไฟท้ายทรงเหลี่ยม

ภายในห้องโดยสารติดตั้งโครงนิรภัยเต็มรูปแบบ พร้อมเบาพนั่งสำหรับแข่งขัน และหน้าจอแสดงผล Motec C187 พร้อมด้วยอุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่น ๆ

ขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดมากกว่า 400 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบเดียวกับ Ford F-150 พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์

ระบบกันสะเทือนแบบ Off-Road Stability ประสิทธิภาพสูง (HOSS) ของบริษัท Multimatic ได้เพิ่ม Positional Selective DSSV Dampers และแขนควบคุมด้านล่างของ Billet อะลูมิเนียมที่ออกแบบโดย Multimatic

เมื่อเปรียบเทียบกับ Bronco Badlands แล้ว Ford Bronco DR มีระยะยุบตัวด้านหน้าเพิ่มขึ้นประมาณ 55 % ที่ 15.8 นิ้ว และด้านหลังเพิ่มขึ้น 58% ที่ 17.4 นิ้ว

รถออฟโรดยังมีมุมเข้าที่ 47 องศา มุมออก 37 องศา และมุมเบรก 33 องศา นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งล้อ Beadlock ขนาด 17 นิ้ว หุ้มด้วยยาง BFGoodrich Mud-Terrain T/A KM3 ขนาด 37 นิ้ว

ทั้งนี้ Ford Bronco DR จะถูกผลิตเพียง 50 คันเท่านั้น โดยมีราคาอยู่ที่ราว ๆ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6,680,000 บาท

The post Ford Bronco DR รถออฟโรดสายฮาร์ดคอร์ ขุมพลังมากกว่า 400 แรงม้า ราคา 6,680,000.- first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

SP Automotive เผยภาพต้นแบบ Cubicle EV และ Zion FCV

นอกเหนือจากการเปิดตัว Chaos ในฐานะ Ultracar คันแรกของโลกแล้ว SP Automotive ยังได้เปิดตัวภาพเรนเดอร์ของ Cubicle EV และ Zion FCV

โดย Cubicle EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้า แบบ 2 ที่นั่ง ให้กำลังสูงสุด 220 แรงม้า มาพร้อมกับดีไซน์ที่ล้ำสมัย หลังคากระจกแบบพาโนรามา ไฟท้ายแบบเต็มความกว้างแบบลอยตัว ด้านหน้าเป็นแบบขั้นบันไดที่ใช้วัสดุแบบชิ้นเดียวเชื่อมต่อกับซุ้มล้อ รวมไปถึงดิฟฟิวเซอร์ท้าย

ขณะที่อีกคันคือ Zion FCV เป็นรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ดีไซน์หรูขนาด 5 ที่นั่ง สไตล์โฉบเฉี่ยว หลังคาเรือนกระจกกว้าง ติดตั้งล้อขนาด 22 นิ้ว โดยมีมิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง เท่ากับ 5,030 x 2,040 x 1,345 มม. และระยะฐานล้อ 2,298 มม.

นอกจากนี้ผู้ผลิตยังเผยอีกว่า Zion FCV จะให้กำลังสูงสุด 680 – 1,750 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 1.8 – 3.5 วินาที

อย่างไรก็ตามสำหรับรายละเอียดอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ของ Cubicle EV และ Zion FCV ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาให้ทราบ ซึ่งทางทีมงานจะคอยติดตามข้อมูลนี้ต่อไป และถ้าหากทราบรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ

The post SP Automotive เผยภาพต้นแบบ Cubicle EV และ Zion FCV first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Hyundai Palisade ปรับโฉมใหม่ อ้างอิงดีไซน์จากภาพหลุดรถทดสอบ

Hyundai Palisade จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV สุดหรู และคาดว่าในรุ่นใหม่จะได้รับการปรับโฉมใหม่ให้โดดเด่นยิ่งกว่าเดิม หลังจากที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมารถรุ่นดังกล่าวถูกเก็บภาพได้ขณะทดสอบสมรรถนะในเกาหลีใต้ แต่มีการปกปิดดีไซน์ด้วยลายพราง

ล่าสุดทางชาแนลยูทูป Gotcha Cars ได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ แล้วนำมาจัดทำเป็นภาพเรนเดอร์ของ Hyundai Palisade ใหม่ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ดีไซน์คล้ายกับ Tucson และ Santa Cruz

ไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ที่ย้ายเข้าไปในกระจังหน้า ช่วยเสริมความดุดัน และดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงชุดไฟหน้าหลัง ในขณะเดียวกันก็แก้ไขไฟ DRL ที่อยู่ในตำแหน่งแนวตั้งด้วย

น่าเสียดายที่ภาพเรนเดอร์เหล่านี้ไม่ได้แสดงให้เห็นดีไซน์ด้านหลัง แต่ก็คาดว่าจะได้รับการปรับโฉมเช่นกัน

แม้ว่ารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hyundai Palisade รุ่นปรับโฉมใหม่ จะยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าภายในห้องโดยสารอาจได้รับการติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้ว และปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์แบบ Crystal Sphere เหมือนกับ Genesis GV60

อย่างไรก็ตามภาพและวิดีโอของที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงการสร้างสรรค์ขึ้นโดย Gotcha Cars ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องหรือรับรองจากทาง Hyundai แต่อย่างใด

ชมคลิป

The post Hyundai Palisade ปรับโฉมใหม่ อ้างอิงดีไซน์จากภาพหลุดรถทดสอบ first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Chevrolet Beast Concept รถออฟโรดสุดแกร่ง 650 แรงม้า สร้างบนพื้นฐานของ Chevrolet Silverado ถูกนำมาโชว์ในงาน SEMA Show 2021

Chevrolet Beast Concept เป็นรถออฟโรดดีไซน์แข็งแกร่ง บึกบึน และดูเหมือนรถลาดตระเวนของทหารต่างประเทศ แต่มีดีไซน์ล้ำสมัย ถูกนำมาโชว์ในงาน SEMA Show 2021

โดยรถคันดังกล่าวถูกสร้างบนแชสซีของ Chevrolet Silverado ที่ทำให้กระบะท้ายสั้นลง ท่อนบนเป็นท่อเหล็กโครโมลี่ 4130 แผงตัวถังเชิงมุม 2 -3 ชิ้น ส่วนหน้าแบบฝาพับ ติดตั้งประตูโครงเหล็ก กระจกบังลมขนาดเล็กด้านหน้า แถบไฟ LED บนหลังคา ด้านท้ายมีล้อยางอะไหล่ 1 คู่

ภายในห้องโดยสารแบบคัสตอมมีการออกแบบที่เน้นประโยชน์ใช้สอยแบบมินิมอล โดยมีเบาะนั่ง Recaro รองรับ 4 ที่นั่งพร้อมสายรัดแบบ 4 จุด รวมถึงจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว คอยตรวจสอบการทำงานของรถและข้อมูลประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงระยะพิตช์และการหมุนตัว

ขุมพลังมาจาก Chevrolet Performance LT4 ซูเปอร์ชาร์จ V8 ขนาด 6.2 ลิตร ให้กำลัง 650 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ หากเทียบกับ Chevrolet Silverado ด้านหน้ามีแขนควบคุมบนและล่างตามแนวคิดพร้อมสตรัทแบบปรับได้ ส่วนด้านหลังเป็น 5 Link พร้อมแถบ Panhard และโช้คแบบปรับได้ ล้อ Beadlock ขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยางออฟโรดขนาด 37 นิ้ว

ทั้งนี้สำหรับ Chevrolet Beast Concept จะถูกจัดแสดงในงาน SEMA Show 2021 ที่ Las Vegas Convention Center ตั้งแต่วันที่ 2-5 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงรถกระบะอีกหลายรุ่น อีกด้วย

The post Chevrolet Beast Concept รถออฟโรดสุดแกร่ง 650 แรงม้า สร้างบนพื้นฐานของ Chevrolet Silverado ถูกนำมาโชว์ในงาน SEMA Show 2021 first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Dodge Durango Mopar Edition เปิดตัวที่งาน SEMA SHOW 2021 จำกัดเพียงแค่ 250 คันเท่านั้น

Stellantis ฉลองครบรอบ 85 ปี ด้วยการเปิดตัว Dodge Durango Mopar Edition ที่ถูกสร้างบนพื้นฐานของ Dodge Durango R/T AWD ในงาน SEMA Show 2021 และจะพร้อมรับการสั่งซื้อในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022

Dodge Durango Mopar Edition มาพร้อมกับแถบสีน้ำเงินที่ด้านหน้า มีตัวอักษร Mopar สีน้ำเงินที่กระจังหน้า ล้อขนาด 20 นิ้ว คาลิเปอร์ Brembo สีน้ำเงิน และยังได้มีการปรับให้ตัวรถต่ำลง 25 มม. ส่วนด้านท้ายก็มีแถบสีน้ำเงินเช่นกัน

ภายในห้องโดยสารออกแบบในโทนสีดำ ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง และหนังกลับ บริเวณพนักพิงมีตัวอักษร Mopar พร้อมโลโก้สีน้ำเงิน รวมถึงการเดินตะเข็บภายในทั้งหมดเป็นสีน้ำเงิน แป้นเหยียบแบบสปอร์ต พรมปูพื้น และป้ายระบุหมายเลขบนแดชบอร์ด

ใต้ฝากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์ HEMI V8 ขนาด 5.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป และระบบกันสะเทือนแบบแอ็คทีฟ

Dodge Durango Mopar Edition จะผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 250 คัน แบ่งเป็น 200 คัน สำหรับตลาดอเมริกา และ 50 คัน สำหรับตลาดแคนาดา ซึ่งแพ็คเกจมีราคาอยู่ที่ 3,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 133,000 บาท (ไม่รวมราคารถ) โดยตัวแทนจำหน่ายจะเปิดรับคำสั่งซื้อต้นปีหน้า

The post Dodge Durango Mopar Edition เปิดตัวที่งาน SEMA SHOW 2021 จำกัดเพียงแค่ 250 คันเท่านั้น first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

ใหม่ All new Toyota Camry 2021-2022 ราคา โตโยต้า คัมรี่ ตารางผ่อน-ดาวน์

SEGMENT ใกล้เคียง Honda Accord | Honda Accord Hybrid | Nissan Teana | Toyota Camry | Toyota Camry Hybrid

> คลิกอ่าน รีวิว TOYOTA CAMRY HYBRID (TNGA) สปอร์ตหรูดูแพง แฝงด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ลงตัวกว่าเดิม

Toyota แนะนำ  Toyota Camry 2021 รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ ภายใต้แนวคิดการสื่อสาร “The Absolute Perfection…ความสมบูรณ์แบบที่เป็นคุณ” ด้วยการปรับรูปลักษณ์ภายนอก และภายในใหม่ ให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น

มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ควบคู่ไปกับสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ตลอดจนประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม และที่สำคัญยังคงไว้ซึ่งความเงียบ ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายตลอดการเดินทาง”

โตโยต้า คัมรี ได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดรถยนต์ประเทศไทยครั้งแรกในปี 2536 ในรูปแบบรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูป ด้วยภาพลักษณ์แห่งการเป็นรถยนต์หรูเหนือระดับสำหรับผู้นำ โดยได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี ส่งผลให้ คัมรี เจเนอเรชั่นที่ 4 ได้นำมาประกอบ ณ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าในประเทศไทย เมื่อปี 2542

ยิ่งไปกว่านั้น โตโยต้ายังเป็นผู้บุกเบิกยนตรกรรมระบบไฮบริดเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2552 และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดจำหน่ายสะสมรวมกว่า 224,000  คัน* (*ข้อมูลยอดขายสะสมปี 2542 – 2564) และในปีพ.ศ. 2561 โตโยต้าได้แนะนำคัมรีใหม่ (All-New Camry) ภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change” หรือ“ปรากฎการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่” เพื่อยกระดับเทคโนโลยีโตโยต้าขึ้นไปอีกขั้น

โดยการแนะนำแพลตฟอร์มใหม่ของโตโยต้า สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดของโตโยต้าอย่างครบครัน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ซึ่งประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย ด้วยยอดขายเกือบ 22,000 คัน ตั้งแต่เปิดตัวเข้าสู่ตลาด

โดยมีจุดขายหลัก ของ New Toyota Camry 2021 คือ นั่งสบาย ขับสนุก แรงและประหยัดน้ำมัน วัสดุภายในปราณีต พิถีพิถัน และลูกค้าทุกคนของเราภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของรถคันนี้”

All New Toyota 2021 ราคา

Toyota Camry
ราคา Toyota Camry โตโยต้า คัมรี่ 2.0G 1,475,000.
ราคา Toyota Camry โตโยต้า คัมรี่ 2.5G 1,599,000.

Toyota Camry Hybrid
ราคา Toyota Camry Hybrid โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด 2.5 HV 1,659,000.
ราคา Toyota Camry Hybrid โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด 2.5 HV Premium 1,809,000.

โปรโมชั่นพิเศษ TOYOTA ทุกรุ่น ติดต่อ
เซลล์ คุณตั้ม :
LINE : https://bit.ly/สอบถามเพิ่มเติมแอดมินรถ68
FB : รถ68
WEB : https://bit.ly/เยี่ยมชมเวปไซต์รถ68
*เซลล์ใจดีให้คำปรึกษาฟรี สินเชื่อปล่อยง่าย ดันทุกเคส ออกรถง่ายๆจร้า

พร้อมโปรโมชั่นสุดว้าว
ดาวน์น้อยหาคนค้ำไม่ได้..ทักมาได้เลยนะครับ

ราคา โตโยต้า คัมรี่ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐาน ALL NEW TOYOTA CAMRY 2.0G
อุปกรณ์ภายนอก
– ขนาดล้ออัลลอย 205/65 R16
– ขนาดยางล้ออะไหล่ 205/65 R16
– ไฟหน้า LED พร้อม LED Daytime Running Lights
– ไฟท้าย LED
– ไฟตัดหมอกหน้า LED
– ไฟตัดหมอกหลัง
– ไฟเบรกดวงที่ 3
– ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง LED
– กระจกหน้า AC HSEA (Acoustic High Solar Energy Absorb)
– กระจกมองข้างแบบลดการเกาะตัวของหยดน้ำ (Hydrophilic) ปรับไฟฟ้า, ระบบบันทึก, Reverse Link และ Auto Retractable

อุปกรณ์ภายใน
– ระบบปรับอากาศ อัตโนมัติ 2 โซน (ปรับอิสระแยกซ้าย,ขวา)
– วัสดุหุ้มเบาะ หนังและวัสดุสังเคราะห์
– เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– ปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า (Lumbar Support) ด้านคนขับ
– พนักพิงศีรษะผู้โดยสารด้านหน้าแบบพับลงต่ำได้
– ที่วางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ

มาตรวัด และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
– ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home
– ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Push Start & Smart Enty)
– ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System)
– ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่และกระจกมองข้าง
– ที่ปัดน้ำฝน แบบตั้งเวลาหน่วง พร้อมระบบควบคุมการปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
– กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic)
– ม่านบังแดดผู้โดยสารด้านหลัง กระจกหลังปรับไฟฟ้า
– ม่านบังแดดผู้โดยสารด้านหลัง ประตูหลังปรับธรรมดา
– หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) ขนาด 4.2 นิ้ว
– สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้ายและที่มุมกันชนทั้ง 4 มุม
– เบรกมือไฟฟ้า EP8
– ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH
– อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)

ระบบความปลอดภัย
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบเสริมแรงเบรก BA
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
– เข็มขัดนิรภัย ด้านหน้า 2 จุด, ด้านหลัง 3 จุด
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS คู่หน้า
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS ด้านข้าง
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS ม่านด้านข้าง
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS หัวเข่าฝั่งคนขับ
– ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง TPMS
– กล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อมแนะนำเส้นทางการถอย
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
– ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
– สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
– ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และ สัญญาณเสียงเตือนการโจรกรรม

ระบบเครื่องเสียง
– เครื่องเล่น DVD พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง จอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว
– ช่องเชื่อมต่อ USB หน้า 1 จุด และ หลัง 2 จุด
– ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
– ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย

อุปกรณ์มาตรฐาน ALL NEW TOYOTA CAMRY 2.5G
อุปกรณ์ภายนอก
– ขนาดล้ออัลลอย 235/45 R18
– ขนาดยางล้ออะไหล่ 235/45 R18
– หลังคามูนรูฟ
– ท่อไอเสียคู่

มาตรวัด และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
– ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
– ระบบ Eco Drive, Normal Drive, Sport Drive
– หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) ขนาด 7 นิ้ว

อุปกรณ์มาตรฐาน ALL NEW TOYOTA CAMRY 2.5 HV
อุปกรณ์ภายนอก
– ขนาดล้ออัลลอย 215/55 R17
– ขนาดยางล้ออะไหล่ 215/55 R17
– ไฟหน้า LED พร้อม LED Daytime Running Lights แบบ HV
– ไฟท้าย LED แบบ HV
– กระจังหน้าโครเมียม
– คิ้วฝาท้ายโครเมียม

อุปกรณ์ภายใน
– วัสดุหุ้มเบาะ หน้งแบบ Smooth Leather และวัสดุสังเคราะห์

มาตรวัด และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
– พวงมาลัยปรับตำแหน่งไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง
– ระบบ EV Drive
– ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe

ระบบเครื่องเสียง
– ระบบ T-Connect TELEMATICS

อุปกรณ์มาตรฐาน ALL NEW TOYOTA CAMRY 2.5 HV Premium
อุปกรณ์ภายใน
– ระบบปรับอากาศ อัตโนมัติ 3 โซน (ปรับอิสระแยกซ้าย, ขวา, หลัง)
– ปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า (Lumbar Support) ด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
– เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนไฟฟ้า
– ที่วางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ พร้อมแผงควบคุมแบบดิจิทัล

มาตรวัด และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
– เบาะนั่ง Seat Ventilator คู่หน้า
– หน้าจอ HUD แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี

ระบบความปลอดภัย
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS ด้านเบาะหลัง
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) พร้อมระบบ Dynamic Radar Cruise Control
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB
– ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
– ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LKA

ระบบเครื่องเสียง
– เครื่องเล่น DVD พร้อมระบบนำทาง (In-car Navigator) และลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง จอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว

คัมรี รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ “The Absolute Perfection…ความสมบูรณ์แบบที่เป็นคุณ”

คัมรี รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ล่าสุด มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น นำเสนอความสมบูรณ์แบบด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถิพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดการตกแต่ง ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย สร้างความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับ

และที่สำคัญด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจและปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า “Toyota Safety Sense” เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เหนือความคาดหมาย

เสน่ห์ความสปอร์ตเหนือระดับ แฝงไปด้วยแนวคิดการดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์

– ดีไซน์ภายนอก หรูหรา และสปอร์ตยิ่งขึ้น  

ดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ ที่มาพร้อมกับคิ้วโครเมียม ชุดโคมไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวในทุกรุ่น ปรับดีไซน์และเพิ่มขนาดล้ออัลลอยใหญ่ขึ้นเป็น 18 นิ้ว

– ดีไซน์ภายใน ปราณีต พิถีพิถัน

วัสดุตกแต่งภายในลายไม้แบบใหม่ หนังหุ้มเบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มพิเศษ พร้อมการตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคู่หน้า Ventilator พร้อมพัดลมจากใต้เบาะและพนักพิงให้ความรู้สึก Premium

เบาะนั่งด้านหลังปรับไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมที่คอนโซลด้านหลัง หน้าจอแบบ Floating type ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 9 นิ้ว แบบใหม่ สามารถเชื่อมต่อทุกความสะดวกผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto 

– ก้าวสู่อีกขั้นของความสะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองผู้ขับขี่ได้อย่างไร้ที่ติ 

เบาะนั่งสบาย ขนาดเบาะกว้าง โอบกระชับสรีระผู้โดยสารเมื่อนั่งด้านหลัง หมอนพิงศีรษะเบาะหน้าปรับพับเก็บได้ เพิ่มทัศนวิสัยให้กับผู้โดยสารด้านหลัง พนักพิงเบาะสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าให้ความรู้สึกผ่อนคลายและไม่เมื่อยล้าเมื่อต้องนั่งทางไกล

พร้อมทั้งแผงควบคุมหน้าจอสัมผัสแบบดิจิทัลที่เบาะนั่งด้านหลังเพื่อให้สามารถควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ตามต้องการเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ระบบเปิดประตูอัจฉริยะฝั่งผู้โดยสาร และที่สำคัญห้องโดยสารกว้างขวาง และความเงียบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง

– สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม 

โครงสร้างสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย มุมมองการเข้าโค้งดีเยี่ยม มั่นใจทุกสภาพถนน ขับสนุก ทรงพลังแต่นุ่มนวล เกาะถนนดีเยี่ยม เงียบ ขับสบาย พรอ้มอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม

– เครื่องยนต์สำหรับรุ่นไฮบริด…ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้า x เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force ทำงานร่วมกันอัตโนมัติ ให้การตอบสนองเต็มกำลัง และเกียร์ E-CVT ขีดสุดแห่งพลังขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อความทนทานและประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม

รุ่น 2.5 HEV Premium Luxury และรุ่น 2.5 HEV Premium

เครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 2.5 ลิตร Dynamic Force (A25A-FXS) 

กำลังสูงสุด 131 กิโลวัตต์ (178 แรงม้า) ที่ 5,700 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที

มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร

กำลังสูงสุด 88 กิโลวัตต์ / แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร

แบตเตอรี่ไฮบริดชนิด นิกเกิลเมตัลไฮดราย

ความจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์-ชั่วโมง

เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า 

กำลังสูงสุด 155 กิโลวัตต์ (211 แรงม้า)

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 

23.8 กิโลเมตร/ ลิตร

– เครื่องยนต์สำหรับรุ่นเบนซิน…เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขีดสุดแห่งสมรรถนะ เร้าใจในทุกช่วงความเร็ว ด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force ให้อัตราเร่งเต็มพลังตอบสนองได้ดั่งใจ แต่คงไว้ซึ่งอัตราประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจ

รุ่น 2.5 Premium และรุ่น 2.5 Sport

เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร Dynamic Force (A25A-FKB) 

กำลังสูงสุด 154 กิโลวัตต์ (209 แรงม้า) ที่ 6,600 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน

15.6 กิโลเมตร/ ลิตร

– มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ที่เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันอุบัติเหตุ มั่นใจในทุกการเดินทาง

– ใหม่…เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) แบบใหม่ ที่เพิ่มระบบการตรวจจับคนเดินเท้าและคนขี่จักรยาน โดยระบบจะเตือนและช่วยเบรกอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-Speed สามารถลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง ที่มาพร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน และช่วยลดความเร็วขณะเข้าโค้ง (Curve Speed Reduction) อีกด้วย

– ใหม่…ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ (Intelligent Clearance Sonar with Rear Cross Traffic Braking) ป้องกันอุบัติเหตุและช่วยให้ขับถอยออกจากช่องจอดได้มั่นใจยิ่งขึ้น

– ใหม่…กล้องมองรอบคัน 360 องศา (Panoramic View Monitor) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยรอบด้าน ด้วยภาพที่คมชัด เพิ่มความอุ่นใจในการจอดรถ

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “คัมรี รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ มีให้เลือก 4 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซิน ได้แก่ 

• รุ่น 2.5 HEV Premium Luxury และ รุ่น 2.5 HEV Premium สำหรับผู้บริหารระดับ Executive ด้วยห้องโดยสารที่ให้ความสะดวกสบาย กว้างขวาง ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีความปลอดภัยสูงสุด

• รุ่น 2.5 Premium สำหรับผู้บริหารที่ชื่นชอบการขับรถด้วยตัวเอง ด้วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic force และความปลอดภัยขั้นสุดจาก Toyota Safety Sense

• รุ่น 2.5 Sport สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่า ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครันในราคาที่จับต้องได้ ให้สมรรถนะแรงยิ่งขึ้น และประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์รุ่น 2.0 เดิม

นอกจากนี้เรายังมีทางเลือกให้กับลูกค้าที่มองหารถที่มีดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม เน้นความหรูหรามีสไตล์ และมีระดับ ด้วยชุดแต่งสุดพิเศษ Modellista ที่ได้รับการออกแบบจากประเทศญี่ปุ่น

โดยเป็นที่นิยมและยอมรับในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ภายใต้แนวคิด Tokyo Style ตามแบบฉบับของแบรนด์ Modellista ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เสริมความโดดเด่นให้พรีเมียมมากยิ่งขึ้น ในราคาเพียง 41,000 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถติดตั้งได้กับคัมรีใหม่นี้ทุกรุ่น

ทั้งนี้ Modellista package จะเป็นตัวช่วยในการเสริมภาพลักษณ์ความหรูหรา และสปอร์ตของคัมรี ตอกย้ำภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จ และสร้างความภูมิใจที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของให้กับลูกค้าทุกท่าน”

Toyota Camry 2021 รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ มีสีภายนอก 6 สี 

และสีภายใน 2 สี (สีดำ และสีครีม)

• ใหม่… Metal Stream Metallic

• Attitude Black

• Graphite Metallic

• Premium Red

• Platinum White Pearl

• Burning Black Crystal (เฉพาะรุ่น 2.5 HEV Premium Luxury)

The post ใหม่ All New Toyota Camry 2021-2022 ราคา โตโยต้า คัมรี่ ตารางผ่อน-ดาวน์ first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Mini ปล่อยทีเซอร์ New Hatch 2023 พร้อมคอนเฟิร์ม Countryman รุ่นใหม่ และทิศทางของรถ EV ในอนาคต

Mini กำลังก้าวเข้าสู่ยุคไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว โดยจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นอย่างเป็นทางการในปีต่อ ๆ มา ก่อนจะกลายเป็นแบรนด์ไฟฟ้าทั้งหมดในช่วงต้นปี 2030

ทั้ง Mini Hatch เจเนอเรชั่นใหม่ และรุ่นสืบทอดของ Countryman ในกลุ่มรถซับคอมแพ็คระดับพรีเมียมจะเปิดตัวในปี 2023 ตามด้วยรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอีกรุ่น

เริ่มจาก Mini Hatch ซึ่งเป็นรุ่นหลักของแบรนด์มาโดยตลอด โดยจะมีทั้งรุ่นขับเคลื่อน ICE และรุ่น BEV

ทาง Mini กล่าวว่า “รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลที่มีประสิทธิภาพสูงจะยังคงเป็นทางออกที่ดีในอนาคตสำหรับกลุ่มเป้าหมาย และภูมิภาคที่ยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งหมด” ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์สันดาป (ICE) อาจยังคงอยู่ได้ในอีกไม่กี่ปี

รูปภาพอย่างเป็นทางการของต้นแบบลายพรางแสดงให้เห็นแนวทางการออกแบบที่มีวิวัฒนาการซึ่งคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า จากการปรับโฉมในปี 2001 โดย Mini Hatch ใหม่ ยังคงเอกลักษณ์ของสไตล์ตัวถัง 3 ประตู ด้วยสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับรุ่นก่อน

ซึ่งมันดูเล็กกว่าเมื่อก่อนด้วยไฟหน้าที่ขยายใหญ่ขึ้น ระยะ Overhangs สั้นลง ล้อขนาดใหญ่ขึ้น และเรือนกระจกอันเป็นเอกลักษณ์

Mini Hatch ใหม่ จะถูกผลิตในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ คาดว่าจะใช้แพลตฟอร์ม FAAR แบบเดียวกับ Mini Countryman, BMW 1-Series, BMW 2-Series Active Tourer, BMW X1 และ BMW X2

ขณะที่ Mini Countryman ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่ารุ่นสืบทอดตำแหน่งเป็นรถครอสโอเวอร์ในกลุ่มซับคอมแพคระดับพรีเมียม ที่มีทั้งระบบส่งกำลังไฟฟ้า และแบบธรรมดา

โดยจะถูกสร้างขึ้นในโรงงาน BMW Group Plant Leipzig ในเยอรมนี ควบคู่ไปกับพี่น้อง BMW X1/X2 ซึ่งจะมีการเพิ่มขนาดตัวรถให้ยาวขึ้น เพื่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Mini Urbanaut

นอกจากนั้นยังไม่รายงานอีกว่า Mini กำลังพัฒนารถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กลง โดยโมเดลนี้จะถูกผลิตขึ้นในโรงงานแห่งใหม่ที่ประเทศจีน ตั้งแต่ปี 2023

และจะเข้ามาทำตลาดแข่งขันกับ Smart Electric Crossover ที่กำลังจะมีขึ้น และรถ B-SUV ไฟฟ้า อื่น ๆ ในอนาคต

ทั้งนี้ Mini ยืนยันว่าจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นสุดท้ายที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ภายในปี 2025

หลังจากนั้นจะเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมตั้งเป้าทำยอดขายได้ 50% จากยอดขายทั่วโลกของ Mini ภายในปี 2027 ก่อนที่จะกลายเป็นแบรนด์ไฟฟ้าทั้งหมดในช่วงต้นปี 2030

อย่างไรก็ตามทางทีมงานจะคอยติดตามข้อมูลนี้ต่อไป และถ้าหากทราบรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ

The post Mini ปล่อยทีเซอร์ New Hatch 2023 พร้อมคอนเฟิร์ม Countryman รุ่นใหม่ และทิศทางของรถ EV ในอนาคต first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

All New Suzuki Celerio เปิดจองแล้ว! พร้อมประกาศเป็นรถเครื่องยนต์เบนซิน ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในอินเดีย

Maruti Suzuki เริ่มเปิดรับจอง Celerio รุ่นใหม่ในอินเดียแล้ว บริษัทได้ปล่อยวิดีโอทีเซอร์ที่แสดงดีไซน์การออกแบบหลายจุดของโมเดล A-Segment ราคาประหยัด

ซึ่งมีเป้าหมายในการเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในอินเดีย แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขออกมาก็ตาม

อย่างที่เราเห็น Suzuki Celerio รุ่นใหม่ มาพร้อมกับดีไซน์ดีมีความโค้งมนมากกว่ารุ่นก่อน ซึ่งทาง Suzuki เรียกการออกแบบนี้ว่า “Dynamic 3D Organic Sculpting”

ไฟหน้าขนาดใหญ่ กระจังหน้าขนาดเล็กลง กันชนหน้าแบบสปอร์ตพร้อมช่องดักอากาศ และซุ้มล้อที่กระชับ

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบ Infotainment ติดตั้งเหนือคอนโซลกลาง ที่ล้อมด้วยช่องปรับอากาศที่ทันสมัย เกียร์แบบใหม่ แผงหน้าปัดแบบอนาล็อก

และจะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ทันสมัยยิ่งขึ้น

Suzuki Celerio รุ่นใหม่ คาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Heartect ที่มีอยู่ใน Suzuki Swift ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย

ใต้ฝากระโปรงหน้าติดตั้งเครื่องยนต์ Dual Jet แบบ K-Series ขนาด 1.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับปรุง Dual VVT Engine พร้อมระบบ Idle Start-Stop

ซึ่งทางผู้ผลิตอ้างว่า Suzuki Celerio รุ่นใหม่ จะเป็นรถเครื่องยนต์เบนซินที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในอินเดีย ตามดข้อมูลจาก JATO Dynamics

อย่างไรก็ตามเราคงได้ทราบรายละเอียดอื่น ๆ ของ Suzuki Celerio รุ่นใหม่ เพิ่มเติมในงานเปิดตัว ที่คาดว่าจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้

ชมคลิป

The post All New Suzuki Celerio เปิดจองแล้ว! พร้อมประกาศเป็นรถเครื่องยนต์เบนซิน ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในอินเดีย first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Skoda Slavia รุ่นใหม่ อวดดีไซน์ ก่อนเปิดตัวภายในเดือนนี้

Skoda เตรียมพร้อมที่จะเปิดตัว Skoda Slavia รุ่นใหม่ รถ Sub-Compact Sedan สำหรับตลาดอินเดีย ที่จะเข้ามาแทน Skoda Rapid รุ่นเก่า หลังจากการประกาศครั้งแรก ก็ได้มีภาพตัวแบบที่ถูกปกคลุมด้วยลายพราง

ล่าสุดค่ายผู้ผลิตได้ปล่อยภาพร่างของ Skoda Slavia รุ่นใหม่ ทั้งหมด 2 ภาพ ออกมาให้ได้ชมก่อนที่จะมีการเปิดตัว

โดยมาพร้อมกับกระจังหน้าคล้ายกับ Skoda Fabia และดีไซน์ด้านท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ ไฟท้ายแบบ LED สปอยเลอร์ตูดเป็ดแบบเดียวกับ Audi A4 และมีแนวหลังคาลาดเอียงสไตล์คูเป้อีกด้วย

Skoda Slavia รุ่นใหม่ จะมีขนาดเล็กกว่า Octavia และ Superb โดยมีมิติตัวรถ กว้าง x ยาว x สูง เท่ากับ 4,541 x 1,752 x 1,487 มม. ระยะฐานล้อ 2,651 มม. แต่มีขนาดตัวรถยาวกว่า Volkswagen Virtus เล็กน้อย ที่มีความยาว 4,482 มม.

Skoda Slavia รุ่นใหม่ จะใช้แพลตฟอร์ม MQB-A0-IN ที่พัฒนาโดย Skoda สำหรับตลาดอินเดียโดยเฉพาะ โดย 95% ของส่วนประกอบมาจากท้องถิ่น

ขุมพลังจะมีให้เลือก 2 รุ่น ดังนี้
– เครื่องยนต์ 1.0 TSI 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
– เครื่องยนต์ 1.5 TSI 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้า จับคู่เกียร์ DSG 7 สปีด

ทั้งนี้ทางค่ายผู้ผลิตยืนยันว่า Skoda Slavia รุ่นใหม่ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งนี่น่าจะเป็นรุ่นที่ 2 จากโคงการ India 2.0 ต่อจาก Skoda Kushaq B-SUV ทั้งสองรุ่นจะผลิตในเมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย

สุดท้ายนี้ถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ

The post Skoda Slavia รุ่นใหม่ อวดดีไซน์ ก่อนเปิดตัวภายในเดือนนี้ first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Hyundai ปล่อยทีเซอร์ Ioniq 7 ว่าที่รถ SUV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ 

Hyundai กำลังเดินหน้าด้วยแผนรถพลังงานไฟฟ้า ภายใต้แนวคิดชื่อใหม่ SEVEN ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน AutoMobility LA ในเดือนนี้ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้

SEVEN จะแสดงตัวอย่างสำหรับการผลิต SUV ไฟฟ้า Ioniq 7 ซึ่งตามที่ Hyundai ประกาศก่อนหน้านี้ จะเข้าสู่ตลาดในปี 2024 ตามรอย Hyundai Palisade ทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่ง

บริษัทผู้ผลิตจากเกาหลีใต้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับแนวคิดนี้ แต่มีการบอกใบ้ว่าจะมาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Hyundai Ioniq 5 และ Hyundai Staria ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Josh Byrnes นักออกแบบของ CarScoops ได้พยายามคาดเดาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของ Ioniq 7 โดยอ้างอิงจากทีเซอร์ที่ปล่อยออกมาในเดือนกันยายน และจัดทำเป็นภาพเรนเดอร์ออกมาให้ได้ชมกัน

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม Hyundai ได้ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า Ioniq ทั้งหมดจะใช้แพลตฟอร์ม E-GMP ติดตั้งแบตเตอรี่ SK Innovation ใหม่ที่มีความจุ 100 kWh และ 800 โวลต์

สามารถวิ่งได้ในระยะทาง 483 กม. รองรับการชาร์จดร็ว 0-80% ภายในเวลาประมาณ 18 นาที

นอกจากนี้ยังมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ให้กำลังสูงสุดรวม 308 แรงม้า ที่คาดว่าจะเปิดตัวในภายหลัง

อย่างไรก็ตามทางทีมงานจะคอยติดตามข้อมูลนี้ต่อไป และถ้าหากทราบรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ

The post Hyundai ปล่อยทีเซอร์ Ioniq 7 ว่าที่รถ SUV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่  first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

CEO Ferrari ยืนยัน Icona รุ่นใหม่ จะเปิดตัวในเดือนนี้

Benedetto Vigna ผู้บริหารระดับสูงของ Ferrari ยืนยันว่าบริษัทจะเปิดตัว Icona ใหม่ ภายในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

ข่าวลือเกี่ยวกับรถรุ่นใหม่นี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไม่กี่เดือนก่อน โดยมีการคาดเดาว่า Supercar รุ่นนี้จะถูกผลิตในจำนวนจำกัด ผ่านแผนกโครงการพิเศษของ Ferrari

หลังจากนั้นทางแบรนด์ก็เริ่มส่งคำเชิญไปยังลูกค้าคนสำคัญในเดือนตุลาคม โดยเปิดตัวเผยรถรุ่นดังกล่าวจะมีการเปิดตัวภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน และจะเปิดตัวต่อสาธารณชนในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้

ตามรายงานของ Automotive News นั้น Benedetto Vigna ได้พูดถึงรถยนต์รุ่นนี้ในระหว่างการโทรแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทเมื่อเร็วๆ นี้กับนักลงทุน และกล่าวว่าจะเดินตามรอย Monza SP1 และ SP2

แม้ว่าทาง Ferrari จะยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับ Icona รุ่นใหม่ แต่ข่าวลือล่าสุดชี้ไปที่แชสซีคาร์บอนไฟเบอร์ของ LaFerrari Aperta ในขณะที่การออกแบบน่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง Ferrari 330 P4 ปี 1960

และมีการตามเก็บภาพได้ขณะทดสอบ ที่มีการปกปิดดีไซน์ด้วยผ้าคลุมสีดำ โดยเผยให้เห็นเส้นหลังคาที่โค้งมน กระจกมองข้างติดตั้งบนซุ้มล้อหน้า สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ และดีไซน์อื่น ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยุคก่อน

สำหรับในด้านขุมพลังคาดว่าจะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบเดียวกับ Ferrari 812 Competizione ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ต้องรอติดตามกันในวันเปิดตัว

ซึ่งถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลเพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งนะครับ

ชมคลิป

The post CEO Ferrari ยืนยัน Icona รุ่นใหม่ จะเปิดตัวในเดือนนี้ first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Nissan Leaf สไตล์ Crossover สายลุย จากสำนักแต่งในญี่ปุ่น

Nissan Leaf มีมาตั้งแต่ปี 2010 โดยผู้บุกเบิก EV ทั้ง 2 รุ่นใช้ตัวถังแบบ Hatchback 5 ประตู มีข่าวลือว่ารุ่นถัดไปจะเปลี่ยนเป็นรถ Crossover แต่ล่าสุด ESB สำนักแต่งที่ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้เผยโฉมชุดแต่งสไตล์สายลุยสำหรับรถรุ่นดังกล่าวออกมาให้ชม

สิ่งแรกที่สังเกตเห็นใน Nissan Leaf Crossover คือระยะห่างจากพื้นที่เพิ่มขึ้นด้วยสปริงชุดใหม่เพิ่มขึ้น 30 มม. ส่งผลให้มีระยะห่างจากพื้นเป็น 190 มม. ติดตั้งล้อ CLS Shod ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง General Grabber All-Terrain

นอกจากนั้นยังได้มีการหุ้มพลาสติกสีดำที่ซุ้มล้อ กันชนหน้าและหลัง รวมถึงจุดยึดป้ายทะเบียนด้านหลัง อีกทั้งยังได้มีการเสริมการ์ดกันชนหน้าสีเทา และที่ด้านข้างตัวรถสำหรับการตกแต่ง ขณะที่บริเวณด้านบนมีการติดตั้งแร็คหลังคาสำหรับขนสัมภาระ หรืออุปกรณ์เพิ่มเติม และแถบไฟ LED ไว้ลุยในเส้นทางที่มืดจริง ๆ

ในด้านขุมพลังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดยยังคงมาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฟฟ้าแบบเดียวกับ Nissan Leaf รุ่นปกติในโรงงาน ที่มีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ความจุระหว่าง 24 – 30 kWh

ทั้งนี้สำหรับ Nissan Leaf แต่งสไตล์ Crossover สายลุยคันนี้ มีราคาชุดแต่งทั้งหมดอยู่ที่ 76,000 เยน หรือประมาณ 22,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษี และยังไม่ได้บวกราคายาง กับแร็คหลังคา

The post Nissan Leaf สไตล์ Crossover สายลุย จากสำนักแต่งในญี่ปุ่น first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

ใหม่ Honda HR-V e:HEV 2021-2022 ราคา ฮอนด้า เอชอาร์วี ตารางผ่อน-ดาวน์

ดูรถ Segment ใกล้เคียง  Honda HR-V e:HEV | Toyota C-HR | Toyota Collora Cross | Mazda CX-3 | MG EP | MG ZS | MG ZS EV | NISSAN KICKS

(5 พ.ย.) Honda เปิดตัว Honda HR-V Generation ที่ 2 ภายใต้ชื่อ “Honda HR-V e:HEV ใหม่” เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย สู่อีกขั้นแห่งยนตรกรรมที่ลงตัวที่สุดในปัจจุบัน

ครั้งแรกกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทั้งไลน์อัป ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียมโดดเด่นในทุกมุมมอง ยกระดับความสปอร์ต

อีกขั้นกับรุ่น RS ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย มาพร้อมดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร มาพร้อมสวิตช์ที่เลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 โหมด

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานกับเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้หลากหลายรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ
– ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close)

อีกทั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัย อาทิ
– ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
– ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Brake Hold

มั่นใจในทุกเส้นทางด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง**

Honda HR-V e:HEV ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

• รุ่น e:HEV E ราคาประมาณการต่ำกว่า 990,000.
• รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,100,000.
• รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,200,000.
  

พร้อมเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศระหว่างวันที่ 5 พ.ย. 64 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – วันที่ 18 พ.ย. 64 เวลา 19.00 น.

** พร้อมรับฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package

โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 พ.ย. 64

โปรโมชั่นพิเศษ Honda ทุกรุ่น ติดต่อ
เซลล์ คุณบอล : 085-082-2662 *Honda สาธุประดิษฐ์
FB Page : Honda rama 3 by เซลบอล
ID Line : ballz12345
*เซลล์ใจดีให้คำปรึกษาฟรี สินเชื่อปล่อยง่าย ดันทุกเคส ออกรถง่ายๆจร้า

พร้อมโปรโมชั่นสุดว้าว
ดาวน์น้อยหาคนค้ำไม่ได้..ทักมาได้เลยนะครับ

Honda HR-V e:HEV 2021  ราคา ตารางผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐาน Honda HR-V e:HEV

Honda HR-V e:HEV E
ภายนอก
– ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
– ไฟท้ายแบบ LED Light Strip
– ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
– ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
– กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
– กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
– ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา
– ระบบปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา
– กระจังหน้า สีดำเงา
– กันชนหน้า-หลัง สีดำ
– ชายกันกระแทกด้านข้าง สีดำ
– สปอยเลอร์หลัง
– เสาอากาศครีบฉลาม
– ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว

ภายใน และความสะดวกสบาย
– สีภายใน สีดำ
– วัสดุหุ้มเบาะ หนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์
– ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
– ระบบควบคุมกระตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40
– กระจกไฟฟ้าปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ ฝั่งคนขับ
– พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
– ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้าแบบ LED
– ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED
– ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้ายแบบ LED
– พนักเท้าแขนด้านหลัง
– แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด

ระบบเครื่องเสียง
– ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ App CarPlay และ Android Auto
– พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน
– รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone
– รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
– ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
– ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด
– จำนวนลำโพง 4 ตัว

เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING
– ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
– ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM และ LDW)
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC และ LSF)
– ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)

เทคโนโลยีด้านการขับขี่
– ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
– ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
– ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
– โหมดการขับขี่ ECIN+NORMAL+SPORT
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
– ระบบ Auto Brake Hold
– มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว

ระบบความปลอดภัย
– กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
– ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
– ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
– ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
– ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
– ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
– ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (AHA)
– ระบบล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
– ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
– ระบบกุญแจนิรภัย Immobilzer พร้อมสัญญาณกันขโมย
– สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
– เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับสูง-ต่ำได้
– เข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
– ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง
– ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
– จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
– ชุดซ่อมยางชั่วคราว (TPRK)

Honda HR-V e:HEV EL
ภายนอก
– ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
– ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
– ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ
– กระจังหน้า สีเดียวกับตัวรถ
– กันชนหน้า-หลัง สีดำและสีเงิน

ภายใน และความสะดวกสบาย
– กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
– กระจกไฟฟ้าปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ คู่หน้า
– ช่องปรับอากาศตอนหลัง

ระบบเครื่องเสียง
– จำนวนลำโพง 6 ตัว

เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING (เหมือนกับรุ่น Honda HR-V e:HEV E)

เทคโนโลยีด้านการขับขี่ (เหมือนกับรุ่น Honda HR-V e:HEV E)

ระบบความปลอดภัย
– ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)

Honda HR-V e:HEV RS
ภายนอก
– หลังคากระจกแบบพาโนรามา
– ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke
– ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
– กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
– กระจังหน้า โครเมียมแบบสปอร์ต
– กันชนหน้า-หลัง สีดำแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยโครเมียม
– ชายกันกระแทกด้านข้าง สีดำแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยโครเมียม
– ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว

ภายใน และความสะดวกสบาย
– วัสดุหุ้มเบาะ หนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
– เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– อุปกรณ์ชาร์จไร้สาย (Wireless Charger)
– ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED แบบสัมผัส
– แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย
– แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่าง

ระบบเครื่องเสียง
– ช่องเชื่อมต่อ USB 4 จุด
– จำนวนลำโพง 8 ตัว
– ระบบเชื่อมต่อ Honda Connect

เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING (เหมือนกับรุ่น Honda HR-V e:HEV E)

เทคโนโลยีด้านการขับขี่ (เหมือนกับรุ่น Honda HR-V e:HEV E)

ระบบความปลอดภัย (เหมือนกับรุ่น Honda HR-V e:HEV EL)

นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า เอชอาร์-วี ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2557 ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย

โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เข้ามาเปิดเซกเมนต์เอสยูวีขนาดกลาง และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มรถเอสยูวีให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวีที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเซกเมนต์นี้ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 100,000 คัน”

“จากความสำเร็จดังกล่าว ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่จะได้เปิดตัว Honda HR-V e:HEV ใหม่ และยังเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้เปิดตัวรุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟ

โดยนับเป็นก้าวสำคัญที่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นอีกครั้ง ด้วยการผสานทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย พร้อมเป็นยนตรกรรมเอสยูวีสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง”

พลังจากดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมอันโดดเด่น สร้างตัวตนที่แตกต่าง

ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์เอสยูวีได้อย่างชัดเจนโดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตาด้วย

– กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีเดียวกับตัวรถ (รุ่น e:HEV EL) และกระจังหน้าสีดำเงา (รุ่น e:HEV E) ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)

– กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น อีกทั้งสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL)

สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริดด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย

ครั้งแรกในโลกกับการเปิดตัวรุ่น RS ที่ประเทศไทย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์สปอร์ตเอกซ์คลูซีฟ ตกแต่งพิเศษรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม

ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว เผยมุมมองใหม่ด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)

พิเศษยิ่งขึ้นกับสีภายนอกสีแดงอิกไนต์ ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนความสปอร์ตไปอีกขั้น

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม* คงอรรถประโยชน์สไตล์เอสยูวีไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดดเด่นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ สามารถมอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้อย่างเหมาะสมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร
พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) โดยทุกรุ่นมาพร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่
สีดำ และเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่

• Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
• Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
• Tall Mode: เอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ ฮอนด้า ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียง ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้

พร้อมตอบโจทย์สมาร์ตไลฟ์สไตล์ ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน* อาทิ
– ใหม่ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close)
– ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlayและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
– มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
– อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ลำโพงสูงสุดจำนวน 8 ตำแหน่ง
– ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส
– เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง
– พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน

พลังความท้าทายที่ไร้ขีดจำกัด ที่ขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปข้างหน้า

อีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญ ฮอนด้า เอชอาร์–วี อี:เอชอีวี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson–Cycle DOHC i–VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E–CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร

ซึ่งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยมีทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่
– โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
– โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
– โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

นอกจากนี้ ทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่

• ECON Mode: โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
• Normal Mode: โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
• Sport Mode: โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

พลังที่พร้อมพาคุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัย

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครัน* อาทิ
– ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยกับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
– ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
– ระบบ Auto Brake Hold ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
– ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
– ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front and Rear Passenger Seat Belt Reminder)
– ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น

สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วย สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) รวมทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย

เสริมความมั่นใจในการขับขี่ยนตรกรรมระดับพรีเมียม โดย ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง**

พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ

เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทาง Facebook Fanpage และ YouTube Channel: Honda Thailand ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

พร้อมทั้งเตรียมสัมผัสกับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ได้ที่บูทฮอนด้า (A14) ในงาน Motor Expo 2021 ตั้งแต่วันที่ 2 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/hrvehev

The post ใหม่ Honda HR-V e:HEV 2021-2022 ราคา ฮอนด้า เอชอาร์วี ตารางผ่อน-ดาวน์ first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

ลือ! Ford Focus Electric อาจถูกพัฒนา และกลับมาทำตลาดอีกครั้ง

Ford Focus Electric เริ่มทำตลาดในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2011 – 2018 และส่งมอบให้กับลูกค้าในประเทศมากกว่า 9,000 คัน ซึ่งถือว่ามียอดขายไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่

แต่มันก็ถือว่าเป็นก้าวแรกครั้งสำคัญของ Ford ในการรุกตลาดรถ EV และดูเหมือนว่าผู้ผลิตจะเปิดรับแนวคิดที่จะให้โอกาศกับ Ford Focus Electric อีกครั้ง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Murat Gueler หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Ford ได้เปิดเผยผ่านสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Autocar สำหรับการดำเนินงานของบริษัทในยุโรป ซึ่งเป็นการบอกใบ้ถึงการกลับมาของ Ford Focus Electric แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นใด

“ตอนนี้ทีมของเรากำลังสำรวจแนวคิดมากมายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต” Murat Gueler หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Ford กล่าว

นอกจากนั้นยังได้เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้หลาย ๆ แบรนด์ต่างเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า และเราจะเปิดตัวอีก 2-3 รุ่นในอนาคต แน่นอนว่าเรากำลังดูทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สัดส่วน สถาปัตยกรรม อันที่จริงตอนนี้เรากำลังยุ่งอยู่กับการออกแบบรถยนต์เจเนอเรชันถัดไปทั้งหมด ซึ่งมันเยอะมาก ๆ

Ford Focus Electric รุ่นแรกถูกเปิดตัวมาด้วยแบตเตอรี่ความจุ 23 กิโลวัตต์ชั่วโมง ก่อนที่ในปี 2017 จะมีการอัปเกรดเป็นแบตเตอรี่ขนาด 33.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ในระยะทาง 225 กม./ชาร์จ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 11.4 วินาที

และถ้าหาก Ford Focus Electric รุ่นใหม่ อยู่ขั้นตอนระหว่างการดำเนินการจริง จะต้องมาพร้อมขุมพลังที่เหนือกว่านี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามทางทีมงานจะคอยติดตามข้อมูลนี้ต่อไป และถ้าหากทราบรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ

The post ลือ! Ford Focus Electric อาจถูกพัฒนา และกลับมาทำตลาดอีกครั้ง first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

Range Rover ใหม่ มาพร้อมไฟท้าย OLED ของ Glohh หรูหราขึ้นไปอีกระดับ

Range Rover รุ่นใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุดทาง Glohh บริษัทสัญชาติอังกฤษซึ่งเชี่ยวชาญด้านการออกแบบไฟส่องสว่างเฉพาะทางสำหรับรถยนต์หรูหรา ได้นำเสนอไฟท้ายแบบ OLED สำหรับรถรุ่นดังกล่าว เพื่อเป็นตัวเลือกในการตกแต่งเพิ่มเติม

Land Rover เสนอตัวเลือกการปรับแต่งมากมายสำหรับรุ่นท็อปของ SUV แต่ไม่มีตัวเลือกใดที่เกี่ยวกับไฟท้าย โดยไฟท้ายแบบ OLED ของ Glohh นั้น มีการจัดเรียงในแนวตั้งเชื่อมต่อกันผ่านแถบแนวนอนที่ประตูท้าย พร้อมตัวอักษร Glohh เรืองแสง เข้ามาแทนที่ตัวอักษร Range Rover

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Mood Matrix System (MMS) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกลายเซ็นแสงที่แตกต่างกัน 3 แบบ ที่สามารถปรับความสว่างได้แบบอันโนมัติ อย่างไรก็ตามไฟท้ายของ Glohh ยังคงอยู่ในรูปแบบแนวคิด โดยมีกำหนดวางตลาดในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023

The post Range Rover ใหม่ มาพร้อมไฟท้าย OLED ของ Glohh หรูหราขึ้นไปอีกระดับ first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.